“พีมูฟ” ออกแถลงการณ์โต้เรื่องขอฟรีตลอด พ่วงยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ พร้อมทำกิจกรรมทุบกระปุกสู้ยาว จนกว่าปัญหาได้รับการดูแล

    เมื่อวันพุธที่ 9 พ.ค. บริเวณด้านข้างกระทรวงการคลัง ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ยังคงปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากนโยบายรัฐด้านต่างๆ ไม่ใช่เพียงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาซื้อเวลา โดยพีมูฟได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “ฟังเสียงความจน คนจนไม่เอาฟรี” เพื่อตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ว่ากลุ่มพีมูฟเรียกร้องอย่างเดียว จะขอฟรีทุกเรื่อง โดยระบุว่า ประชาชนถูกกระทำอย่างเจ็บปวด จึงเป็นสิทธิที่ประชาชนต้องเรียกร้องเอาสิทธิคืน และนายกฯ ไม่ต้องกังวลที่จะมีประชาชนกลุ่มต่างๆ มาเรียกร้องกันอีก ถ้าหากสังคมไทยมีความเป็นธรรมที่เท่าเทียมและทั่วถึงในทุกชนชั้น

    ทั้งนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง พีมูฟจึงต้องติดตามการแก้ปัญหารายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ส่วนการเคลื่อนไหวแต่ละพื้นที่ที่พีมูฟไปนั้น เราเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งการที่นายกฯ ให้เราอดทนรอนั้น พีมูฟได้อดกลั้นถึงที่สุดกว่า 3 ปีแล้ว แต่ไม่เกิดการแก้ปัญหาแม้แต่กรณีเดียว จึงมีข้อเสนอให้นายกฯ พิจารณาดังนี้ 1.ด้านการปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน พีมูฟเสนอแนวทางโฉนดชุมชน ซึ่งสถานะที่ดินยังเป็นของรัฐอยู่ แต่ให้ประชาชนร่วมบริหารจัดการ 2.กรณีปัญหาที่ดิน พีมูฟมีข้อเสนอปรับรูปแบบแก้ไขปัญหาให้อยู่ร่วมกันได้ 3.ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ถูกละเมิดมาอย่างยาวนาน เสนอทางออกให้อยู่ร่วมกันได้ คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 70 และ 4.ให้รัฐดำรงเจตนารมณ์ของกลไกระดับนโยบายที่ภาคประชาชนเสนอขึ้นเพื่อแก้ปัญหาคนจนทั้งประเทศให้เข้าถึงที่ดิน ธนาคารที่ดินมุ่งเน้นให้เป็นองค์กรอิสระ ไม่ใช่องค์กรแสวงหากำไรเชิงพาณิชย์

    หลังแถลงการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำกิจกรรมทุบกระปุกสู้ยาว โดยนำกระปุกออมสินของผู้ชุมนุมมารวมกัน แล้วแกะรวมเงินเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ ว่าจะปักหลักชุมนุมยาวจนกว่าจะได้รับการแก้ไข

    จากนั้นชาวบ้านต่างสลับกันขึ้นกันปราศรัยถึงเหตุผลการมาชุมนุม และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คสช.ที่ไม่แก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน พร้อมตั้งคำถามว่า แทนที่รัฐบาลจะเป็นพวกเดียวกับคนจน แต่กลับผลักให้คนจนและชาวบ้านเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล และยังไม่พยายามแก้ปัญหา 

    วันเดียวกัน ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา นางทัศนา นาเวศน์ แกนนำพีมูฟจังหวัดพังงา นำตัวแทนชาวบ้านทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง และตัวแทนชาวบ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นผู้เดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เข้าร่วมการประชุมกับนายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าฯ พังงา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับผู้เดือดร้อน ซึ่งกลุ่มพีมูฟพังงาได้เสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้แก่ผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายปี 2547 
ทั้งนี้ ผลการประชุมสรุปให้หมู่บ้านบางสัก ทั้งหมู่ 7 และหมู่ 8 จัดทำประชาคมเพื่อให้หมู่บ้านเห็นชอบในการขอที่ดินทำกินและที่ดินที่อยู่อาศัยให้ราษฎรในหมู่บ้านจำนวน 18 ครัวเรือน เป็นที่ดินในพื้นที่ นสล.จำนวน 10 ไร่ หากผลประชาคมหมู่บ้านมีความเห็นอย่างใดให้นำเสนอต่อที่ประชุมของจังหวัดในวันที่ 21 พ.ค.นี้อีกครั้ง.