ในหลวงโปรดเกล้าฯ ผู้ว่าฯ เชียงราย เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทานมอบราษฎรประสบภัยหนาวในอำเภอต่างๆ เชียงใหม่เย็นยะเยือกดอยอ่างขางหนาวแตะ 3 องศา เผชิญภัยหนาวกว่า 4 แสนราย กรมอุตุฯ ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุรักษาสุขภาพ จับตา 17-18 ม.ค.นี้ มวลอากาศเย็นจากจีนแผ่เข้ามาปกคลุมไทยตอนบนอีกระลอก ทำให้หลายพื้นที่อากาศหนาวเย็นอีกครั้ง "ลุงตู่" เตือนอากาศหนาวใส่เสื้อผ้าให้อุ่นๆ ระวังฟืนไฟ
    เมื่อวันที่ 13 มกราคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเชียงราย เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 3,500 ผืน ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวจากสภาพอากาศหนาวเย็นในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย 
    โดยมีผู้แทนอำเภอเวียงชัย อำเภอแม่สรวย อำเภอป่าแดด อำเภอเชียงแสน และเวียงป่าเป้า เป็นตัวแทนผู้ประสบภัยหนาวเข้ารับผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน เพื่อเชิญไปมอบแก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอต่างๆ ต่อไป
    นางสาวชลาลัย แจ่มผล​ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือในเวลานี้อากาศยังคงหนาวเย็นจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมในพื้นที่ทางตอนบนของภาค แม้ว่าขณะนี้เริ่มอ่อนกำลังลงเล็กน้อย แต่สภาพอากาศก็ยังคงหนาวเย็นอยู่ทั่วบริเวณ โดยเฉพาะ​ยอดดอยอากาศหนาวจัด เกิดน้ำค้างแข็ง​บางพื้นที่​ โดยเช้าวันนี้อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่จังหวัดพะเยาและเชียงราย 10 องศาเซลเซียส รองลงมาเป็นจังหวัดน่าน 11​องศา ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 12 องศาเซลเซียส​ โดยในตัวเมืองอุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส​ อ่างขาง 3​องศา​ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์​ ดอยสุเทพ​ 7​องศา​ 
    "ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้ ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด​เชียงใหม่​แจ้งว่า​ ปีนี้ตัวเลขของผู้ประสบภัยที่มีการสำรวจล่าสุดมีเพิ่มขึ้นจากปีก่อนใน 25 อำเภอ มีมากกว่า 400,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบแสนราย ขณะนี้ได้กำชับทุกอำเภอให้เร่งช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยเร่งด่วนก่อน" นางสาวชลาลัยกล่าว
    ว่าที่ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยถึงสภาพอากาศของประเทศไทยในช่วงนี้ว่า เดือนมกราคมเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีอากาศหนาวตามฤดูกาล โดยวันที่ 13 มกราคม 2564 มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่หลายพื้นที่ยังคงมีอากาศหนาวเย็น 
    โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส ยอดภูอุณหภูมิต่ำสุด 6-8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส ยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-6 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคกลางกับภาคตะวันออก อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ต่ำสุดอยู่ที่ 16-18 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีปริมาณฝนตกต่อเนื่องร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
    ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 14 มกราคม จนถึงวันที่ 16 มกราคมนี้ อุณหภูมิจะสูงขึ้น ทำให้อากาศเริ่มอุ่นขึ้น
    "ในวันที่ 17-18 มกราคม 2564 มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกระลอกหนึ่ง ซึ่งจะทำให้หลายพื้นที่อุณหภูมิลดลง อากาศหนาวเย็นกับมีลมแรงอีกครั้ง"
    สภาพอากาศที่จังหวัดหนองคายในช่วงเช้า อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 9 องศาเซลเซียส นอกจากนั้นยังมีลมแรงเป็นระยะ ทำให้ยิ่งเพิ่มความหนาวเย็นอีก ซึ่งสภาพอากาศเป็นเช่นนี้ในพื้นที่ จ.หนองคาย มานับสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 07.35 น. พ.ต.ท.ฉลอง เลพล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ที่สวนท้ายหมู่บ้านยูงทอง ต.หาดคำ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคายและหน่วยกู้ภัยประจักษ์
    ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน พบศพนายสำเนียง นนทพจน์ อายุ 65 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ หมู่ 11 ต.บุ้งค้า อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร สวมเสื้อแขนยาวสีแดง สวมกางเกงชั้นในสีฟ้า นอนเสียชีวิตอยู่ระหว่างทางเดินจากกระท่อมไปยังห้องน้ำ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายหรือต่อสู้ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง
    จากการสอบถามลูกสาวของผู้ตายทราบว่า นายสำเนียงมานอนเฝ้าสวนเพียงลำพัง ในแต่ละวันตนเองจะนำข้าวมาส่งให้ แต่ในวันนี้เพื่อนบ้านเห็นผิดสังเกตว่าทำไมภายในกระท่อมยังเปิดไฟอยู่ จึงได้เดินมาดู ก็พบว่านายสำเนียงนอนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย เบื้องต้นคาดว่าจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ระหว่างที่นายสำเนียงเดินเข้าห้องน้ำเกิดช็อกจากสภาพอากาศหนาวเย็น หัวใจวายเฉียบพลันเสียชีวิตโดยไม่มีใครเห็น    
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้อากาศเย็นต้องใส่เสื้อให้อุ่นๆ ใครที่ตัวใหญ่อยู่แล้วคงไม่เป็นไร ตัวผอมๆ ก็ต้องระวัง และก็ต้องระวังเรื่องฟืนไฟด้วย ต่างจังหวัดอุณหภูมิช่วงเช้าทราบว่าอยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส อีสานประมาณ 11 องศาเซลเซียส ภาคเหนือคงจะแย่หน่อยช่วงนี้อากาศเย็น อากาศจากจีนเข้ามาปกคลุม ต้องดูกรมอุตุนิยมวิทยาด้วย
    “หากซื้อเสื้อหนาวเก่ามาต้องนำมาซักหรือต้มก่อน บางคนจุดเตาถ่านในห้องนอนต้องระวัง เพราะอาจจะไฟไหม้บ้านได้ ปัญหาทุกปัญหาต้องแก้ด้วยตัวเราเองก่อน มันเริ่มจากตัวตนของคนทุกคน ถ้าช่วยกันประเทศชาติจะไปข้างหน้าอีกเยอะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.