ฝ่ายค้านรับสภาพแพ้โหวต แก้รัฐธรรมนูญมาตรา256!


เพิ่มเพื่อน    


    "เพื่อไทย" รับสภาพ เชื่อโหวตมาตรา 256  พ่ายรัฐบาลแน่ สุดท้ายต้องใช้เสียง 3 ใน 5 หรือ 500 เสียงขึ้นไป "ไพบูลย์" ชี้ต้องให้รัฐสภาเคาะมติว่าจะส่งศาลตีความหรือไม่ ย้ำทำรายมาตราเร็วกว่า 
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ม.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่) คนที่ 3 รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ว่า  กมธ.พิจารณาเนื้อหาทั้งฉบับเสร็จแล้ว และในวันที่ 4 ก.พ.จะพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง รวมถึงการลงมติในประเด็นที่รอพิจารณาได้แก่ มาตรา 256 ว่าด้วยมติของสมาชิกรัฐสภาในชั้นรับหลักการที่มีผู้สงวนความเห็นใน 3 ประเด็น  คือ ใช้เสียง 3 ใน 5, ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง และใช้เสียง 2 ใน 3
    นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ยังมีประเด็นว่าด้วยการส่งทำประชามติ ในมาตรา 256 (8) ตามร่างของ ส.ส.รัฐบาล ระบุให้นำไปทำประชามติ หากเนื้อหาแก้ไขหมวด 1 บททั่วไป  หมวด 2 พระมหากษัตริย์ หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องอำนาจหน้าที่ศาลหรือองค์กรอิสระหรือเรื่องที่ทำให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติหน้าที่หรืออำนาจได้
    นายไพบูลย์ ในฐานะผู้เสนอญัตติให้รัฐสภาพิจารณาอำนาจของรัฐสภาต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาวันที่ 9 ก.พ.นี้เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวว่า  ไม่มีบุคคลใดขอให้ถอนญัตติดังกล่าว และเชื่อว่ารัฐสภาจะพิจารณาในรายละเอียดและลงมติตัดสิน ซึ่งก็ไม่ติดใจในผลการลงมติหากเสียงข้างมากเห็นว่าไม่ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่เชื่อว่าหากมติรัฐสภาไม่ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้ ส.ว.ไม่สบายใจและส่งผลต่อการลงมติในวาระสองและสามได้
    "ผมยืนยันว่าญัตติไม่มีผลกระทบให้รัฐสภายุติการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนจะลงมติอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลพินิจของรัฐสภา ผมมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอำนาจที่รัฐสภาต้องดำเนินการ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตราของรัฐสภานั้นจะทำให้เวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เวลามากเหมือนกับการให้สภาร่างรัฐธรรมนูญดำเนินการ ที่เชื่อว่าจะใช้เวลาเกือบ 2 ปี ไม่ทันใช้ในการเลือกตั้งรอบที่จะมาถึงแน่นอน" นายไพบูลย์กล่าว
    ด้านนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการ กมธ.กล่าวว่า กมธ.พิจารณาได้ข้อสรุปในหลักการสำคัญๆ เกือบครบทุกมาตรา โดยข้อสรุปแต่ละเรื่องถือเป็นการประนีประนอมสมานฉันท์ทุกฝ่าย  ถือเอาหลักการของรัฐธรรมนูญที่พึงประสงค์เป็นหลัก ไม่มีใครยึดถือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะเห็นได้ว่าทุกอย่างขณะนี้เป็นไปได้ด้วยดีเกินคาดหวังไว้ ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับสมานฉันท์ของประชาชนที่จะเป็นทางออกสำหรับประเทศในยามที่ยากลำบากในทุกด้าน
    "ตามปฏิทินเมื่อ กมธ.พิจารณาจบแล้ว วันที่ 5 ก.พ. จะเชิญผู้แปรญัตติทั้ง 109 คนมาสงวนคำแปรญัตติต่อไป คาดว่าจะเสร็จได้ภายในวันเดียว เพราะร่างเดิมได้ถูกแก้ไขไปเยอะมาก และทราบว่าจะมีการมอบอำนาจในแต่ละพรรคเพื่อมาสงวนความเห็นไว้สำหรับการอภิปรายในที่ประชุมใหญ่รัฐสภาเท่านั้น และวันที่ 8 ก.พ.นี้ กมธ.จะนัดประชุมตรวจร่างทั้งหมด ก่อนส่งเข้าที่ประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายในวาระ 2 วันที่ 24-25 ก.พ.และจะเปิดสมัยวิสามัญเพื่อโหวตวาระ 3 กลางเดือน มี.ค.พร้อมๆ กับพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติด้วย"        
    ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวเช่นกันว่า กมธ.พิจารณาเนื้อหาแก้รัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว เหลือแค่ลงมติประเด็นที่ถูกแขวนไว้ โดยการประชุมวันที่ 4 ก.พ.จะโหวตชี้ขาดเนื้อหาที่ถูกแขวนอยู่ มีประเด็นสำคัญคือมาตรา 256  ว่าด้วยมติของสมาชิกรัฐสภาในชั้นรับหลักการการแก้รัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายค้านเสนอใช้เสียงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ฝ่ายรัฐบาลให้ใช้เสียง 3 ใน 5 ซึ่งดูแนวโน้มแล้วน่าจะจบที่การใช้เสียง 3 ใน 5 เพราะเสียงของฝ่ายค้านสู้ไม่ได้ ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญวาระรับหลักการต้องมีเสียงสมาชิกรัฐสภาสนับสนุน 500 เสียงขึ้นไป จาก 750 เสียง และยังต้องอาศัยเสียง ส.ว.อยู่ 
    “ในวันที่ 5 ก.พ. กมธ.จะให้ ส.ส.และ ส.ว. 109 คนที่เสนอแปรญัตติแก้รัฐธรรมนูญมาชี้แจงรายละเอียดต่อ กมธ. และคาดว่า กมธ.จะสรุปรายงานเป็นรูปเล่มเสร็จในวันที่ 10 ก.พ.เพื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาได้กลางเดือน ก.พ. เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระ 2 ในวันที่ 24-25 ก.พ. หลังจากนั้นต้องพักไว้ 15 วัน เพื่อลงมติวาระ 3 ช่วงกลางเดือน  มี.ค.ที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญลงมติวาระ 3 ต่อไป" นายสมคิดกล่าว
    น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนถือเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ของประเทศไทย หาก ส.ส.รัฐบาลและ ส.ว.ร่วมกันคว่ำร่างในการประชุมรัฐสภา วาระ 2 และ 3 จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนาในการทำให้ประเทศมืดมน ล้าหลังและพัฒนาไม่ทันเพื่อนบ้าน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"