หึ่ง!รัฐบาลเสียงแตก ‘วิรัช’ปัดมีเอกภาพ/ก้าวไกลเสี้ยมพรรคร่วมเอือม‘ณัฏฐพล’


เพิ่มเพื่อน    

 

นายกฯ แนะนำหนังสือน่าอ่าน “ความรู้เรื่องเมืองไทย” ทำให้เข้าใจสังคมไทยดียิ่งขึ้น ระบุสถาบันพระมหากษัตริย์ ความสามัคคีปรองดองคือจุดแข็งของไทย สะพัด! พรรคร่วมรัฐบาลเสียงแตก รมช.ใน พปชร.เตรียม 30 ส.ส.กับงูเห่าฝ่ายค้านโหวตสวน รมต.บางคน หวังกดดันปรับ ครม.ดันตัวเองขึ้น รมว.แทน "วิรัช" ยันพรรคร่วมฯ ต้องเอกภาพ ขณะที่ "วิโรจน์" เฉลยเองรมต.ที่ถูกเขย่าคือ "ณัฏฐพล" แม้แต่ ส.ส.พปชร.ยังส่ายหน้าส่งข้อมูลให้ช่วยอภิปราย เลขาฯ พท.แพลมมี 4 รมต.จะโดนยื่นศาล-ป.ป.ช.ด้วย

    เมื่อวันอาทิตย์ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุมร่วมกับคณะกรรมการและคณะตัวแทนภาคประชาชนเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้แนะนำหนังสือน่าอ่านให้แก่คณะที่เข้าพบ มีชื่อว่า “ความรู้เรื่องเมืองไทย” เขียนโดย ดร.วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร เนื้อหาหนังสือเล่มดังกล่าวเป็นการบรรยายให้มีความรู้จักประเทศไทย เข้าใจสังคมไทย และมีความตระหนักในความเป็นไทย
    สิ่งที่ผู้เขียนบรรยายเป็นประเภทซอฟต์แวร์ คือความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ ความเชื่อ ความศรัทธา จิตสำนึก ตลอดจนสไตล์อันเป็นลักษณะพื้นฐานของไทยเรา ซึ่งหมายถึงวิธีแบบไทยในการคิด การพูด และการทำ เรื่องระบอบการปกครองที่มีประชาธิปไตยเป็นจุดขัดแย้ง เรื่องเศรษฐกิจทุนนิยมที่เข้ามาครอบงำเศรษฐกิจและสังคมไทย เรื่องทัศนะทางสังคมของคนไทยที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและการชี้นำของสื่อโฆษณา ตลอดจนเรื่องที่เกี่ยวกับจิตสำนึกที่ขาดหายไป เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในช่วงเวลาประมาณกว่า 150 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นลักษณะของวิวัฒนาการสังคม ที่คนไทยพึงจะต้องมีความรู้และความเข้าใจว่า กว่าที่จะมาถึงวันนี้ สังคมไทยของเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง"
    นายอนุชากล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอสิ่งที่เป็นจุดแข็ง ของไทยเรา เช่น สถาบันพระมหากษัตริย์ ความสามัคคีปรองดองระหว่างศาสนาที่ต่างกัน ความเป็นมิตรกับชาวต่างประเทศ ความพร้อมในการรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความทันสมัย ฯลฯ แม้กระทั่งการให้ความสำคัญต่อผลสำเร็จในเชิงปฏิบัติ และการมีอารมณ์ขันที่คลายความเครียด ทำให้รู้จักประเทศไทย เข้าใจสังคมไทย และตระหนักในความเป็นไทยได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รู้จักไทยในมุมที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้นด้วย
       นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 ก.พ.นี้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านโหมโรงฉายหนังตัวอย่างกันอย่างเต็มที่ประเภทบู๊ล้างผลาญ โดยประกาศจะล้มรัฐบาลให้ได้ รัฐบาลก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์นั้นพร้อมมาก เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ส่วนกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย วางตัว 15 ส.ส.อภิปรายแบบจัดหนัก ข้อมูลแน่น หลักฐานชัดนั้น ขอให้ข้อมูลแน่นจริงๆ อย่าน้ำท่วมทุ่ง ขอให้อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ อย่าอภิปรายแบบสาระไม่มี หน้าตาดีไปวันๆ มั่นใจว่าประชาชนเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลทำ
    น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ที่น่าสังเกตคือผลสำรวจของซูเปอร์โพล ประชาชนร้อยละ 98.3 มองว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านเพื่อประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าชาติ และร้อยละ 90.9 ของประชาชนคาดหวังข้อมูลของฝ่ายค้านน่าเชื่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงอยากให้ฝ่ายค้านตระหนักในความคาดหวังของประชาชน  อย่าทำให้ผิดหวังในการทำหน้าที่ เช่นการนำข้อมูลเลื่อนลอยมาพูดในสภาอันทรงเกียรติ แล้วตีหัวเข้าบ้าน ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อฝ่ายค้านเอง
     นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การอภิปรายถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ซึ่งไม่มีสิ่งใดน่ากังวล โดยขอให้ฝ่ายค้านทำดังนี้ 1.ต้องนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริง  มาพูดในสภา ไม่อยากให้มีการนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาปะติดปะต่อกันเพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด 2.ต้องยึดข้อบังคับการประชุมสภาอย่างเคร่งครัด ทั้งเนื้อหา ภาพ วิดีโอ ต้องตรงไปตรงมา เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ในส่วน 2 รัฐมนตรีของ ปชป. พร้อมชี้แจงในทุกประเด็น ซึ่งพรรค ปชป.ได้ตั้งทีมเตรียมรับมือการอภิปรายตลอดทั้ง 4 วัน 2 ชุด โดย 1.ทีมติดตามข้อมูลพร้อมและสนับสนุนการอภิปราย มีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราชเป็นประธาน และ 2.ทีมสื่อสารชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม มีตนในฐานะโฆษกพรรคเป็นผู้รับผิดชอบ
     มีรายงานจากสภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ฝ่ายรัฐบาลไม่ค่อยกังวลการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เพราะเชื่อว่าไม่มีข้อมูลไม้เด็ดหรือใบเสร็จที่จะล้มรัฐบาลได้จริง ขณะที่รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายบางคนมีความเป็นห่วงจากกลไกภายในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาลที่มีปัญหาความขัดแย้งภายใน อาจมีผลไปถึงเสียงโหวตไว้วางใจของรัฐมนตรีแต่ละรายที่อาจได้ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะพรรค พปชร. ที่มีการแบ่งกลุ่มแบ่งก๊วนกันอย่างชัดเจน แกนนำที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการบางรายต้องการชิงอำนาจการนำภายในพรรค ต้องการได้คะแนนไว้วางใจมากกว่ารัฐมนตรีว่าการของพรรคบางราย เพื่อหวังผลในการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเขย่าให้รัฐมนตรีบางคนหลุดจากตำแหน่งจะได้มีโอกาสขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ
    "มีการล็อบบี้ให้ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐงดออกเสียง หรือถึงขั้นโหวตสวนไม่ไว้วางใจเพื่อดิสเครดิตรัฐมนตรีบางคน โดยอาจจะมีส่วนต่าง ส.ส.มากถึง 30 คน รวมไปถึงพวก ส.ส.งูเห่าในฝ่ายค้านที่ขาใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐดูแลอยู่ ซึ่งปกติจะโหวตไว้วางใจ ก็จะโหวตไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีหรือไม่ลงมติรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐบางราย เพื่อกดดันกระแสสังคมให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีด้วยผลคะแนน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการอภิปรายและชี้แจง" แหล่งข่าวระบุ
    ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวแกนนำในพรรค พปชร.บางคนเตรียมให้ ส.ส.ของพรรค 30 คน โหวตสวนรัฐมนตรีในพรรคบางคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคต้องเป็นเอกภาพ โหวตไปในทิศทางเดียวกัน ในส่วนของพรรค พปชร. จะต้องมีมติพรรคเพื่อให้ ส.ส.ทุกคนโหวตไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น ถึงเวลาตนจะดำเนินการในเรื่องนี้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง
     นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า แม้ในรายงานข่าวจะไม่เอ่ยชื่อรัฐมนตรีที่โดนเขย่า แต่ตนเดาไม่ยากเลยว่าคือนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และไม่เเปลกใจที่มีข่าวทำนองนี้ออกมา ที่ผ่านมา ส.ส.ต่างพรรคเจอหน้ากันในสภา พอถอดหัวโขนออก ส.ส.ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงการทำงานของนายณัฏฐพล บางคนถึงขั้นตำหนิอย่างแรง โดยเฉพาะเรื่องร้องเรียนด้านการศึกษาที่ ส.ส.แต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดนำส่งไปให้ช่วยรับไปปรับแก้ไข อาทิ ปัญหาความทุกข์ยากของครู การแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม การแก้โควิด-19 ระบาด และการเเสดงออกตามสิทธิเสรีภาพของนักเรียนในโรงเรียน แต่นายณัฏฐพลกลับไม่ตอบรับ ขนาดเป็น ส.ส.พลังประชารัฐฟากเดียวกันเองยังส่ายหน้า ซึ่งไม่เหมือนกับรัฐมนตรีบางคน ที่แม้แต่เป็นเรื่องที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ส่งให้ช่วยแก้ไข ยังช่วยแก้ทันท่วงที งานนี้เรียกว่าผู้บริหารสถานศึกษาก็หมั่นไส้ ครู นักเรียน และฝ่ายค้านก็ไม่เอา ก็ต้องรับผลกรรม  
    "การที่เขาไปอวดดีเที่ยวไปคุยโวว่าเป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่งของพรรค พปชร. คุณเคยถาม ส.ส.พปชร.หรือยังว่าเขาหมั่นไส้ประโยคนี้หรือเปล่า เข้ามาในสภาอันดับไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับผลงาน ต่อให้ผู้ใหญ่จะวิ่งเคลียร์ให้ก็ไม่ไหว ส.ส.พปชร.เขารอเห็นวันนี้มานานแล้ว มาแอบกระซิบผมให้ผมอภิปรายจัดหนักๆ ผมบอกให้ก็ได้ว่าข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เตรียมไว้ บางส่วนผมได้มาจาก ส.ส.พปชร.หลายคน ดังนั้นนายวิโรจน์ขอทำนายไว้ล่วงหน้าเลยว่ารัฐมนตรีศึกษาธิการจะได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุดในศึกซักฟอกรอบนี้"
    ส่วนกรณีรายงานข่าวระบุ ส.ส.ขาใหญ่ในพลังประชารัฐเลี้ยงดูงูเห่าในฝ่ายอยู่ด้วยหลายคน นายวิโรจน์กล่าวว่า งูเห่าพรรคไหน มี-ไม่มีไม่รู้ แต่ถ้าเจอหรือมีงูเห่าสีส้มเมื่อไหร่ก็ตีตายเมื่อนั้น จะเห็นว่าอดีตที่ผ่านมาเราไม่เคยให้ใครมาฝากเลี้ยง ไม่เคยดองงูเก็บเอาไว้ ถ้าการกระทำชัดเจน พรรคก็จะมีมติขับออกจากพรรค
    นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคเตรียมตัวพร้อมแล้วทั้งด้านข้อมูล ส.ส.ผู้อภิปราย เบื้องต้นมี 15 คน บางคน อาจต้องอภิปราย 2 ครั้ง เรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคได้ส่งหัวข้อ ประเด็น แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเนื้อหา เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เรากับพรรคร่วมฝ่ายค้านพูดคุยกันตลอด ในสัปดาห์หน้าจะมีการคุยกันอีก ส่วนหลักฐานที่จะเตรียมยื่นเอาผิดรัฐมนตรีหลังจากการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลไปแล้ว ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคดำเนินการภายหลังอภิปรายเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอาญา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีรัฐมนตรี 4 คน ที่อยู่ในข่ายมีหลักฐานชัดเจน
    เมื่อถามถึงการเตรียมรับมือการประท้วงจากฝ่ายรัฐบาลอย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคมีวอร์รูมและเตรียมทีม ส.ส.ในสภาไว้ตอบโต้กรณีที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลประท้วงไม่มีเหตุผลหรือประท้วงเพื่อเอาใจใครบางคน หากฝ่ายใดประท้วงจะถูกหักเวลาในฝ่ายนั้น ขอให้ประธานสภาฯ ควบคุมการประชุมอย่างเคร่งครัด ทราบมาว่า มีหลายประเด็นที่ยังไม่ทันอภิปรายจะมีการเตรียมการประท้วงแล้ว อยากให้ฟังฝ่ายค้านอภิปรายก่อน เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังเนื้อหามากที่สุด หากมีการประท้วงการอภิปรายจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้
    ถามว่ากรณีญัตตินายกรัฐมนตรีที่มีการพาดพิงไปถึงสถาบัน ตามที่หลายฝ่ายกังวล จะมีการกำชับเรื่องเนื้อหาที่จะพูดหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า คิดว่าไม่ ญัตติถูกบรรจุในระเบียบวาระ ประธานสภาฯ ได้ลงนามรับรอง ถือว่ามีความถูกต้อง ดังนั้นถ้าจะประท้วงตั้งแต่เปิดญัตติ คงไม่มีเหตุผล ขอให้ประท้วงเนื้อหาที่ฝ่ายค้านอภิปรายเกินเลยไปดีกว่า  
       นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ประชาชนจะให้ความสนใจติดตาม ล็อกเป้า 3 ป. เพราะความแข็งแรงของรัฐบาลอยู่ที่ 3 ป.ทั้งหมด ส่วนองคาพยพอื่นเป็นเพียงแค่องค์ประกอบเท่านั้น หาก 3 ป.อยู่ไม่ได้รัฐบาลนี้ก็ไปโดยปริยาย
    นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง การเมืองใหม่ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,622 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-7 ก.พ. พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 45.0 เชื่อถือศรัทธาค่อนข้างน้อยถึงไม่เชื่อถือเลยต่อผู้มีอำนาจทางการเมือง ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 27.7 เชื่อถือปานกลาง และร้อยละ 27.3 เชื่อถือศรัทธาค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
    ที่น่าพิจารณาคือ ความคิดเห็นของประชาชนต่อการเมืองใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.8 สนับสนุนนายกรณ์ จาติกวณิช ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำการเมืองใหม่ รองลงมาคือร้อยละ 91.5 สนับสนุนนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำการเมืองใหม่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.4 สนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ออกจากพรรคเพื่อไทย เพื่อทำการเมืองใหม่ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.7 สนับสนุนกลุ่มของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำการเมืองใหม่ ตามลำดับ.
   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"