10 ก.พ.64 - นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมติรัฐสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาว่า สามารถตั้งสสร.แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้เป็นการเตะถ่วงอะไร แต่เพื่อความรอบคอบ เนื่องจากมีความเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย โดยเฉพาะมุมมองทางด้านกฏหมาย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด นอกจากนั้น แม้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทางรัฐสภายังสามารถที่จะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระ2-3 ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ต่อไปได้ ไม่ได้เสียเวลาอะไร ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านพยายามกล่าวหาว่ารัฐบาลประวิงเวลานั้นก็ไม่เป็นความจริง รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เป็นอำนาจของส.ส.และส.ว. ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนอยู่แล้ว

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะมีม็อบมาเยือนรัฐบาลมากขึ้นหากระบอบประยุทธ์ยื้อแก้รัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจนั้น ตนขอบอกนายอนุสรณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ท่านนายกฯ ไม่ขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญแน่นอน อย่ามากล่าวหา ขอให้เลิกพูดถึงการสืบทอดอำนาจเผด็จการได้แล้ว เพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์มีความจริงใจแก้รัฐธรรมนูญ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับส.ส.และส.ว. ที่สำคัญขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งประเทศ

“ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เตรียมเสนอกฏหมายแก้มาตรา112 นั้น ผมอยากเตือนนายพิธาในฐานะคนไทยคนหนึ่งว่า ไม่สมควรเดินหน้าเรื่องนี้ เพราะพี่น้องคนไทยทั้งประเทศคงไม่ยอมให้ใครมาก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ นายพิธายังมีอนาคตทางการเมืองอีกไกล ถอยฉากออกมาจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าเสียเถอะ ผมหวังดีกับนายพิธา ไม่เช่นนั้นระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ยังมีเวลากลับตัวกลับใจ” นายธนกรกล่าว