'อาคม'ฟุ้งปี64เศรษฐกิจไทยยังมีหวัง


เพิ่มเพื่อน    

12 ก.พ. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “บทบาทตลาดทุนกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ปี 2564” ในงานสัมมนาแถลงแผนยุทธศาสตร์คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ต่อเนื่องจากปี 2563 แต่เศรษฐกิจปีนี้มีความหวังจากปีที่แล้วที่ไม่มีความหวัง เนื่องจากมีการผลิตวัคซีนได้แล้ว ซึ่งคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนทุกคน หากทำได้เร็ว ก็จะช่วยลดการแพร่ระบาด ทำให้มีความหวังว่าโควิด-19 ปีนี้จะส่งผลกระทบเศรษฐกิจน้อยลง 

"รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะศูนย์กลางการระบาดรอบใหม่รุนแรง มีการติดเชื้อจำนวนมากกว่ารอบแรก การติดเชื้อแต่ละวันยังเป็นหลักร้อยคน โดยตอนนี้ลดลงเพราะการควบคุมแพร่ระบาดมีประสิทธิภาพ" นายอาคม กล่าว 

นายอาคม กล่าวอีกว่า ไทยต้องมีวัคซีนเศรษฐกิจ 3 ตัว เพื่อทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และมีเสถียรภาพ ประกอบด้วย 1.วัคซีนเศรษฐกิจระดับประเทศ จีดีพีต้องเติบโตมั่นคง ต่อเนื่อง มีคุณภาพ โตเท่าไหร่ไม่สำคัญ เน้นเรื่องคุณภาพ เศรษฐกิจต้องมีความมั่นคง ทุนสำรองสูง ฐานะการคลังแข็งแรง และหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ 

2. วัคซีนเศรษฐกิจระดับภาคการผลิต ภาคบริการ ต้องมีภูมิคุ้มกัน ต้องมีการบริหารความเสี่ยง และมีธรรมาภิบาล และ 3.วัคซีนระดับประชาชน ส่งเสริมให้มีการออมเงินมากขึ้น และสร้างทางเลือกรออมยามเกษียณให้กับประชาชน 

ส่วนการบริหารเศรษฐกิจปี 2564 รัฐบาลต้องดำเนินการ 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การเยียวยาและฟื้นฟู ต้องทำให้ทันสถานการณ์ ปีที่ผ่านมามีการเยียวยาประชาชนจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน สำหรับปีนี้ก็ดำเนินการมาต่อเนื่อง ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ และโครงการ ม33 เรารักกัน  

“มาตรการเยียวยาทำได้แค่ระยะสั่นเท่านั้น ไม่สามารถเยียวยา โดยการแจกเงินไปไม่ได้ตลอด ดังนั้นรัฐบาลต้องทำการฟื้นฟู ช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านนโยบายการเงินการคลัง ไปพร้อมกันด้วย” นายอาคม กล่าว 

2.การกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตให้มีความชัดเจน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้พูดชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยต้องเน้นเรื่อง BCG และ 3.การดูแลการระบาดของโควิด-19 และการดูแลรองรับสังคมผู้สูงอายุที่ตอนนี้ ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ 12% อีก 10 ปี จะเพิ่มเป็น 24% ต้องเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 

สำหรับทิศทางของตลาดทุนในปี 2564 ต้องการให้ตลาดทุนมีบทบาท 5 เรื่อง คือ 1.อำนวยความสะดวกให้กับบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และ 2.เพิ่มการเข้าถึงตลาดทุน ทั้งในกลุ่มผู้ออม กลุ่มนักลงทุน และผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ 3.สร้างความเชื่อมั่นและเสริมศักยภาพตลาดทุน เน้นการวางรากฐานในระดับกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อให้ตลาดมีความมั่นคงในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแล 4.การพัฒนาการเงินที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม 

และ 5.พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างเครื่องมือในการลงทุนใหม่ให้ตลาดทุน พร้อมทั้งดูแลนักลงทุน ผู้ออมเงิน ที่มีความรู้ไม่มาก เช่น การลงทุนบิตคอยน์ ที่ต้องดูแลให้ดี ซึ่งกลุ่มผู้มีเงินน้อยแต่ต้องการผลตอบแทนสูง ก็มีความเสี่ยง ต้องให้ความรู้ ให้เท่าทันการลงทุน อย่าให้เสี่ยงจนเกินไป 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"