'เป้ ไฮร็อก'สุดทุกข์ใจไม่มีเงิน อ้อนวอนพระเจ้าช่วยหาทางออก


เพิ่มเพื่อน    

 

          โดนพิษโควิด-19 ทำให้ถูกยกเลิกงานทั้งหมด ทำเอา เป้ ไฮร็อก หรือ สุรัช ทับวัง ไม่มีเงินจ่ายหนี้ จนต้องตัดใจขายของสะสม ล่าสุดได้มาพูดคุยในรายการถามสุดซอย Weekend ดำเนินรายการโดย ท็อป-ดารณีนุช ปสุตนาวิน และ ทอม-ทศวรรษ ทะสุวร

จุดเริ่มต้นไฮร็อกจนถึงตอนนี้ กี่ปีแล้ว?

          "เริ่มตั้งแต่ปี 33 เกือบ 31 ปีแล้ว นานมาก ตอนนี้มีเสียไปคนนึงมือกลอง ชื่อเต้ย ก็มีมือกลองอีกคนที่ทำงานด้วยกัน เอามารวมกันหมดแล้ว ตอนนี้มือกีต้าร์ มือเบส มือคีย์บอร์ดก็มารวมตัวเล่นด้วยกันหมดแล้ว รวมตัวกันปีกว่าๆ นี้เอง"

ก่อนที่จะมีโควิดรอบแรก ไฮร็อกรวมตัวแล้ว และรับงานอยู่ เป็นงานอะไร?

          "งานโอเคเลย เป็นคอนเสิร์ตตามผับครับ เพลงดังเยอะเหมือนกัน ออกอัลบั้มนึง ถ้าเพลงไหนทำมิวสิกวิดีโอ ก็เป็นเพลงฮิตพอสมควร ต่อเดือนเฉลี่ยแล้วก็ 4-5 งาน อยู่ได้สบายๆ สบายมากด้วยครับ วงเรารับประมาณเกือบแสน ก็ในเรตปกติ ทั่วไป ก็มีสภาพคล่อง"

จนมาเจอโควิดรอบแรก เกิดผลกระทบอะไร?

          "ตอนรอบแรก เราคิดว่าเดี๋ยวคงสักเดือนสองเดือนคงหายไป แต่นี่เริ่มไป 7-8 เดือนเกือบปี กว่าจะฟื้น พอฟื้นเสร็จกว่าจะเปิดผับได้ก็เป็นปี แล้วเงินที่เก็บสะสมไว้ ก่อนหน้าเกิดโควิดรอบที่ 1 เราเก็บสะสมไว้พอสมควร พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราก็ทำอะไรไม่ได้ เราเล่นคอนเสิร์ต ไม่ได้ไปขายปลา ขายกุ้ง เราก็เอาเงินตรงนั้นมาเป็นค่าใช้จ่าย มีค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน บัตรเครดิต สารพัดเลย อีรุงตุงนัง ก็เป็นเงินที่เราเก็บเอาไว้เผื่อป่วยเผื่ออะไร วางแผนเอาไว้จะเก็บเงินตอนอายุเยอะขึ้น"

โพสต์ตัดพ้อชีวิตในเฟซบุ๊ก ไม่รู้จะไปทางไหน เกี่ยวกับเรื่องรายได้ไหม?

          "ตอนแรกก็พยายามหาเงิน ทำเสื้อขาย เป็นโลโก้ไฮร็อก  ทำหมวก ทำแมสขาย ตอนโควิดแรก มันก็โอเค พออยู่ได้ ขายตัวนึง 300-400 เสื้อแจ็คเก็ต 700-800 ส่วนคนในวงเขาก็มีธุรกิจส่วนตัวกันซะเป็นส่วนใหญ่ เขาก็พึ่งตัวเองได้กันหมด อย่างมือกีต้าร์ เขาขายทุกอย่าง 20 บาท มือเบสก็เปิดร้าน เขามีกิจการกัน เขาอยู่ได้แต่เรามีรายได้ทางเดียว เราเล่นคอนเสิร์ตอย่างเดียว"

โควิดที่เข้ามา งานเป็นศูนย์เลยไหม?

          "ไม่มีเลย ล็อตแรกหายหมดเลย เพราะร้านเขาเจอผลรับผลกระทบ เขาไม่มีรายได้ เขาก็ไม่มีเงินมาจ้างเรา อีกอย่างถ้าเขาจัดคอนเสิร์ตคนมารวมตัวกัน แล้วถ้าติดโควิดขึ้นมา ถูกสั่งปิดร้านเขาจะยุ่ง เขาเลยเซฟตัวเองไปด้วย บางงานก็เลื่อนไปก่อน บางงานก็แคนเซิลไปเลย"

 

 

ภาระต่อเดือน?

          "จริงๆ ผมอยู่บ้านคนเดียว ภาระค่าใช้จ่ายก็มีค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ก็ประมาณ 4-5 หมื่นต่อเดือน เป็นรายได้ที่ฟิกพอสมควร แต่ส่วนตัวผมใช้จ่ายน้อย ตื่นมากินข้าวผัดกระเพรา 40-50-60 บาท ชีวิตผมก็อยู่แบบนี้ กินง่ายอยู่ง่าย ไม่มีฟุ่มเฟือยอะไร แต่มีภาระในชีวิตประจำวันที่ต้องใช้ บางทีรถตู้ต้องใช้ จำเป็นสำหรับวงเรา เราก็เอามันไว้"

ในวงคุยกันไหมพอรวมกลุ่มกันแล้ว ท้อใจจนจะยุบวงไหม?

          "ไม่ครับ ทุกคนยังสู้อยู่ เหมือนอายุเราเยอะแล้ว อยากเล่นด้วยกันมากกว่า ผมเป็นวงร็อกก็ไม่เหมือนวงดนตรีลูกทุ่ง อย่างผมอาจมีลูกน้อง 3-4 คน มีเด็กคอนวอยซ์บ้าง มีคนขับรถบ้าง ก็ไม่เยอะ แต่เราไม่มีงาน เขาก็ไม่มีงานด้วย ไม่ได้จ่ายเงินเดือนประจำ มีงานก็มีงานด้วยกัน"

หนี้สินที่มีอยู่บนหน้าตัก เป็นหนี้ในหรือนอกระบบ?

          "เป็นหนี้ปกติ อย่างเราเช่ารถตู้เขาไปเล่นคอนเสิร์ต ก่อนหน้านั้นเราไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างจังหวัด แล้วเลยไปสักชม. นึงเขาคิดเป็นอีกวันนึงเลย เราก็เสียความรู้สึก แล้วเสียอีก 2 พัน เราก็เลยรู้สึกว่าเก็บไว้ให้ลูกน้องกินดีกว่า ก็เลยซื้อรถตู้เองดีกว่า แล้วก็มีบ้าน มีบัตรเครดิต ไม่เคยไปกู้นอกระบบ"

จุดเปลี่ยนอะไรทำให้ต้องมาไลฟ์สด?

          "ตอนแรกคิดๆ อยู่ แล้วผมเดินเข้าบ้าน มีอยู่วันนึงผมเครียดมาก จะไปทางไหนดี ผมโพสต์แต่เรื่องเศร้าๆ ทุกคนก็บอกว่าสู้ๆ นะพี่เป้ ผมพูดทุกวัน จนไม่รู้จะทำอะไร ผมเข้าบ้านไป นั่งคนเดียว ทำไมของที่บ้านเยอะมาก ทำไมไม่เอามาขาย นาฬิกาเกือบร้อยเรือนที่ผมสะสมไว้ พอเปิดลิ้นชักมา มันไม่มีประโยชน์สำหรับผมเลย แต่ว่าตอนนี้มันมีประโยชน์กับผมเพราะผมอยากได้ตังค์เอามาใช้จ่าย เอามากิน เติมน้ำมันรถ เอาไว้แบบนี้ไม่มีประโยชน์ เลยไลฟ์สด โทรหาน้องคนนึงชื่อหนุ่ย ชวนมาไลฟ์สด เอาของไปขาย น้องเขาบอกจะดีเหรอ ก็บอกว่าไม่ตายก็หาใหม่ได้ ก็เลยไลฟ์สดขายของ ราคาหมื่นสองหมื่นไม่สน จะขาดทุนก็ไม่สน"

 

 

มีคนมาซื้อเยอะไหม?

          "ก็เยอะครับ หลายคน ส่วนมากเป็นแฟนคลับตัวยง เป็นแฟนพันธุ์แท้ ที่อยากเก็บของผมเอาไว้ ผมอ่านแล้วน้ำตาจะไหล เขาบอกว่าเขาดีใจมาก ที่ได้นาฬิกาผม เขาจะเก็บเอาไว้ เขารักเรา จากที่เสียดายของ ผมเลิกเสียดายเลย มันมีค่าสำหรับเขา แล้วทุกอย่างเป็นของสะสมของผมจริงๆ ไม่ได้ซื้อหา เป็นของสะสมจริงๆ"

ตอนนี้ขายไปได้เท่าไหร่?

          "ไม่เท่าไหร่ครับ สามวัน 20 กว่าชิ้น แต่ของเยอะมาก ไลฟ์ครั้งนึงก็ชม.ครึ่งถึงสองชม. วันแรกที่ไม่เป็นข่าว ได้ประมาณ 2 หมื่นบาท ตอนที่ยังไม่เป็นข่าว ไม่มีใครรู้ พอครั้งที่สอง ดีหน่อย รายได้ขึ้นมาหลัก 9 หมื่นบาท ดีมาก พอเมื่อคืนอีกครั้ง แสนขึ้นเลยครับ และมีศิลปินที่เขาอยากช่วยเหลือ อย่างพี่หรั่ง ร็อกเคสตร้า เมื่อคืนแกเอากีต้าร์มาให้ประมูล แกเห็นเราลำบาก เอากีต้าร์มาให้ฟรีๆ ให้ประมูล แล้วกีต้าร์พี่หรั่งตัวนึงได้ 8 หมื่น เพราะมีลายเซ็น คนอยากเก็บเขาก็ซื้อ จากคนที่มืดแปดด้าน พอไลฟ์สด คนเข้ามาให้กำลังใจผมหมดเลย คนเข้ามาประมูลน่ารักมาก พอแคปเสร็จ ก็บอกว่าขอเลขที่บัญชีจะโอนแล้ว น่ารักมาก บางคนเข้ามาแบบ ให้ยืมตังค์เอาไหม บางคนบอกไม่ประมูลได้ไหม เดี๋ยวเอาตังค์ให้เลย ผมก็บอกว่าไม่ต้อง เอาของดีกว่า ผมไม่ต้องการแบบนี้ ผมจะประมูลจนกว่าโควิดหายไป แล้วถ้ามีคอนเสิร์ตผมจะหยุด เหมือนตอนผมขายเสื้อรอบที่แล้ว พอมีคอนเสิร์ตผมเลิกขาย เพราะมันไม่ใช่อาชีพผม ผมเอาแค่ให้มีชีวิตรอดตอนโควิดก็พอ"

เป็นร็อกระดับตำนาน 30 กว่าปีที่ผ่านมา เงินเก็บไปไหนหมด?

          "ผมไม่ชอบเก็บเงิน จะเก็บไว้ส่วนหนึ่งเผื่อเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยแค่นั้นเอง แล้วอยากสร้างความสุข อยากหาความสุขให้ตัวเอง ได้เงินมาอะไรที่เราชอบ อะไรที่เรารัก เราก็สนองตัวเอง ผมไม่รู้ว่าเราตื่นมาจะมีลมหายใจหรือเปล่า เราอาจหมดลมหายใจก็ได้ แล้วผมเก็บไว้เป็น 10-20 ล้าน ผมอยู่คนเดียว แล้วใครจะเอาเงินไปใช้ ผมทำความสุขให้ผม ผมอยากได้ทีวี โฮมเธียร์เตอร์เครื่องใหญ่ๆ มันมีความสุข ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ไม่รู้เราจะตายเมื่อไหร่"

อยากฝากอะไรแฟนคลับ?

          "ผมว่าทุกอย่างมีทางออก เพียงแต่เราจะทำหรือเปล่า เหมือนผมนั่งคิดอยู่ทุกวัน ผมทุกข์ทุกวัน จะทำอะไรดี อ้อนวอนต่อพระเจ้า ผมเป็นอิสลาม สวดมนต์ทุกวัน ผมเป็นอิสลามก็ละหมาดทุกวัน อ้อนวอนพระเจ้าทุกวันว่าหาทางออกให้ผมหน่อยได้ไหม วันนี้ก็เป็นทางออกที่พระเจ้าบอกให้ผมสู้" 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"