‘ท็อป ดารณีนุช’ใช้ไอจีเป็นศูนย์กลางช่วยเหลือโรงพยาบาลเล็ก


เพิ่มเพื่อน    

 

          ท็อป-ดารณีนุช โพธิปิติ ไม่หวั่นดราม่าคนเม้าท์ดาราสร้างภาพทำความดี พร้อมเคลียร์งานเดินหน้าช่วยวิกฤตโควิด-19 อย่างเต็มตัว ล่าสุดเจ้าตัว ควงลูกชาย น้องแกงค์ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ถึงสิ่งที่ช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องโควิด

          “คือในไอจีตอนเริ่มที่มีสถานการณ์ต่างๆ เราก็ให้กำลังใจแพทย์และพยาบาล แล้วแนวคิดเราอันแรกคืออยากให้คนเข้ามาในไอจีของเรา ช่วยเหลือดูแลบุคลากรทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นแพทย์โรงพยาบาลรัฐ ท้องถิ่นบ้านเกิดของตัวเอง ช่วยกันดูแล แรกๆ เราอาจจะไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เอาอาหาร น้ำไปเป็นกำลังใจให้เขา หลังจากที่เรามีแนวคิดแบบนี้ บางคนก็ไดเร็กต์เข้ามาขอความช่วยเหลือ ทีนี้เราเริ่มรู้แล้ว โรงพยาบาลบางชื่อไม่เคยรู้จักเลย แล้วเขาก็ขาดความช่วยเหลือ แล้วมีหลายๆ คนเข้ามาว่าเขามีอันนั้น เขามีอันนี้ เราก็เลยเป็นศูนย์จับแมทช์ มันจะต่างกันกับการที่เรารับบริจาค เพราะว่าเราต้องเช็กว่าเขาต้องการอะไร แล้วจับแมทช์ไปแมทช์มา หลังๆชักเยอะ เราก็จะเอาขึ้นบนหน้าโพสต์ว่าโรงพยาบาลเล็กๆที่ไหนบ้าง ก็จะบอกว่าคนไทยมีน้ำใจน่ารักมาก เขาจะเข้ามาเหมือนช้อปปิ้งบุญ เขาก็จะมาดูที่เขาไม่รู้จักเหมือนเรา เขาก็ส่งความช่วยเหลือไป เราไม่ใช่ศูนย์อะไรใหญ่โตแต่ต้องตั้งชื่อไม่งั้นเขาจะบอกว่าจาก คุณท็อป ดารณีนุช ซึ่งไม่ใช่จากเรา เป็นความช่วยเหลือจากทุกๆคน

 

 

          เราแค่เป็นตัวเชื่อมค่ะ เชื่อมให้ความช่วยเหลือไปถึงในจุดที่ต้องบอกว่าโรงพยาบาลใหญ่เป็นที่รู้จัก คนรู้อยู่แล้ว แล้วได้รับความช่วยเหลือแต่เขาก็ยังขาดแคลน แล้วโรงพยาบาลเล็กๆพวกนั้นล่ะมันยิ่งน่ากลัว ตอนนี้ต้องเข้าใจว่าโรคนี้เป็นโรคที่ระบาดใหม่ของโลกเรา เข้ามาในประเทศเรา ทุกคนอยู่บนพื้นฐานของความกลัวหมด ทั้งแพทย์ พยาบาล รวมไปถึงประชาชนอย่างเรา เพราะฉะนั้นทุกคนอยากจะได้ของ แต่ของมีจำนวนจำกัด เพราะด้วยความที่ไม่เคยมีโรคนี้ สิ่งนี้ต่างหากที่เราควรยืนไว้ตรงนี้ เพื่อจะสร้าง ไม่ว่าจะเป็นสติแล้วให้เขาเห็นภาพรวมเท่าที่เราจะทำได้เท่านั้นเอง

          ฟีดแบค โห...ต้องบอกว่ามันมีหลากหลายมาก เฉพาะฟีดแบคที่เข้ามาขอบคุณในเรื่องของการได้รับของ ในเรื่องที่เขาเกิดแรงบันดาลใจที่ทำ faceshield  ส่งไปให้โรงพยาบาล แล้วเขาก็เหมือนส่งการบ้านเราว่าลูกเขาทำอันนี้นะ เรารู้สึกว่าจริงๆแล้วอย่างหนึ่งที่อยากจะบอก สังคมไทยตอนนี้ เราเห็นพวกเกรียนคีย์บอร์ดเห็นใครทำอะไรก็ไปเขียนตำหนิว่าหรืออะไรต่างๆ มันมีเยอะจนทำให้ทุกคนหัวใจหดหู่ แต่เมื่อเราได้ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราเห็นน้ำใจของคนไทยที่อยากจะออกมาทำความดีมีเยอะ

          ตอนแรกไม่เอาเงิน แต่ลงโพสต์ไปครั้งเเดียว แล้วไม่ได้เป็นโพสต์ขึ้นว่าเลขบัญชีอะไร น้องเชื่อไหมว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาไม่ว่าจะเป็นพี่น้องในวงการบันเทิงแล้วก็พี่น้องประชาชนที่ติดตามไอจี ตอนนี้พี่มีเงินนะ 1.2 ล้าน ของเพื่อนเราก็มีเยอะ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ให้มา 4 แสน ของคุณคิ้มเราจะไปซื้อเครื่องมือช่วยหายใจให้โรงพยาบาลพระมงกุฎ

 

 

          สิ่งที่โรงพยาบาลต่างๆอยากได้ หนึ่งคือกำลังใจอยู่แล้ว เพราะตอนนี้เขาเป็นนักรบที่อยู่บนสมรภูมิรบท่ามกลางความขาดแคลนอุปกรณ์ต่างๆ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องการคือกำลังใจจากพวกเรา การรักษาตัวดีๆ อย่างเช่นอยู่กับบ้านกันนะไม่ให้เชื้อแพร่ เพราะว่าภาพรวมของประเทศไทยเราถ้าวันหนึ่งคนไข้มีเยอะมากแล้วเราต้องออกไปนอนอยู่บนพื้นข้างถนนแบบประเทศอิตาลี เราไม่อยากให้ประเทศไทยไปถึงจุดนั้น ตอนนี้มีดมาจ่อคอหอยแล้ว ทำไมพวกพี่ออกมาทำตั้งหลายจุดไม่ได้มีแต่พี่คนเดียว มีประชาชนหลายๆคน เพราะเราอยากจะช่วยซัพพอร์ตทีมแพทย์และพยาบาลเขาต้องการหน้ากากเพื่อป้องกันตัวเอง หน้ากาก N95 ถ้าแพทย์และพยาบาลซึ่งเป็นด่านหน้าในสมรภูมิล้มนั่นหมายถึงคนในประเทศล้มตามไปหมด ใครจะรักษาให้เรา

          คนที่เคยด่า เคยว่าพี่ท็อป ก็มาขอความช่วยเหลือ มาขอโทษเรา ขออโหสิกรรม เราก็ไม่สนใจ เราก็อวยพรให้ครอบครัวเขาดี คือเขาเขียนมาว่าเขาเคยว่าเรา ถามว่าจำได้ไหมก็จำได้ ก็แคปเอาไว้ แต่ว่าบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์คิดแล้วเราก็ไม่โกรธที่เขาจะเกลียดเรา คนบอกเดี๋ยวท็อปโดนกระแสดราม่า เราบอกมีแน่ๆ เขาก็ไปด่าเพจของเขา เราไม่เคยไปอ่าน หรือคนส่งมาให้พี่อ่านด้วยนะ พี่บอกว่าไม่เป็นไร วางมันไว้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องหลักที่เราต้องทำตอนนี้ ไม่มีทางที่ใครจะมารักเรา ถามว่าพี่ทำหน้าที่ตรงนี้ พี่เหมือนอะไร ถ้าพี่เป็นยาม ใช้ชีวิตประจำวัน พี่ก็ไปเดินเคาะ สร้างความรำคาญให้คนก็มี สร้างประโยชน์ให้คนก็มี แต่วันหนึ่งเมื่อมันมีศึก มีอะไรเข้ามาเราก็ต้องลุกมาปกป้องทุกคนเหมือนกัน ทั้งคนที่รำคาญเราและคนที่ชื่นชมสิ่งที่เราทำ

          ถามว่างดรับงานไหมตอนนี้มันไม่มีใครจ้างมากกว่า ละครปิด รายการประจำที่มีเขาก็ไม่ได้เรียกไป เขาบอกเอาอันเก่ามาหมุนก่อน งานมีนิดๆหน่อยๆ เอาอะไรกิน เราก็ไปขูดกระเป๋าในบุญเก่าของเรามากิน คือพี่เป็นคนแยกบัญชีตัวเองเอาไว้สำหรับฉุกเฉิน สำหรับบำนาญหลัง 60 ปีค่อยเบิกเงินก้อนนี้มาใช้ จะแบ่งเก็บ ค่าเล่าเรียนลูก ลูกจะรู้ นางจะมีสมุดบัญชีใช้คำว่าเป็นอัลบั้มแบ่งหมวดหมู่ ถ้าเราไม่ได้อยู่ในอาชีพนี้ พี่มีบ้านเช่า มีอะไรก๊อกๆแก๊กๆ แล้วพี่ใช้วิธีกินน้อยอยู่น้อย ให้มันพอดี คือไม่สร้างกิเลสให้เกินรายได้ที่ได้มาก็อยู่ได้ เราไม่มีหนี้ก็สบายตัวไป แล้วเราก็ไม่ได้ไปสร้างหนี้เพิ่มก็อยู่สบายๆ ไม่เดือดร้อนอะไรมาก”

          หากท่านใดสนใจอยากช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ หรือโรงพยาบาลเล็กๆที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ต่างๆ สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่อินสตากรม topdaraneenute

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม topdaraneenute


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"