รัฐบาลอุ่นเครื่อง-เคลียร์ใจก่อนรบ ไร้เงา ภท.จับตาปมรถไฟฟ้าสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

            กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องสัมมนาเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือฝ่ายค้าน โดยการเชิญรัฐมนตรีที่ถูกลากขึ้นเขียงมาเล่ารายละเอียดให้กับ ส.ส.ฟัง

                 เหมือนกับปีที่แล้ว ที่จัดขึ้นครั้งแรกที่พัทยา จ.ชลบุรี เพียงแต่ครั้งนั้นรัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกมีแต่ในส่วนโควตากลาง และโควตาพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลเลย

                แต่ปีนี้รัฐมนตรีจากพรรคใหญ่ โดยเฉพาะระดับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลถูกยื่นญัตติซักฟอกหมด ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

            ภาพรวมงานสัมมนาช่วงวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีที่มีชื่อถูกขึ้นเขียงมากันเกือบครบ ขาดเพียง บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้แล้วว่า ตัวเองมีความพร้อม จึงไม่ต้องเดินทางมาติว 

                 แต่ที่น่าสนใจคือ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เพราะในช่วงงานสัมมนาเสาร์-อาทิตย์ ไร้เงา นายอนุทิน และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีแต่ส่งตัวแทนเข้ามาชี้แจง ไม่ว่าจะเป็น นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายอนุทิน 

                หรือบุคลากรทางการแพทย์อย่าง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค ที่ส่งมาชี้แจงเรื่องการบริหารจัดการโควิด-19 และวัคซีน

                การที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคไม่ได้เดินทางมา ทั้งที่ตัวเองถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่างจากหัวหน้าพรรคใหญ่อื่นๆ ที่เดินทางมาหมด ทำให้ถูกจับจ้องไปที่ความขัดแย้งเรื่องการขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 

                โดยเรื่องดังกล่าวคือ เรื่องที่กระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.อนุพงษ์ กับกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม เห็นไม่ตรงกัน และทั้ง 2 คนจะถูกซักฟอกในเรื่องนี้ด้วย

                ในงานสัมมนา พล.อ.อนุพงษ์เดินทางมา และได้ชี้แจงให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ลุกขึ้นถามได้ฟังว่า เพราะเหตุใดจึงทำไม่เสร็จตั้งแต่ในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และไม่ได้มีความขัดแย้งกับกระทรวงคมนาคม เพียงแต่เห็นต่างกันเรื่องข้อกฎหมาย

                การไม่ได้เดินทางมาร่วมทั้งนายอนุทินและนายศักดิ์สยาม จึงทำให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ฟังอีกมุมหนึ่งจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย 

                ปกติที่ผ่านมา งานของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยจะให้ความร่วมมือค่อนข้างมาก นายอนุทินแทบจะเดินทางไปด้วยตลอด เช่นเดียวกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย อย่างนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล แต่ครั้งนี้ ส.ส.จากพรรคสีน้ำเงินกลับบางตา

            ขณะที่ประเด็นสำคัญๆ ที่พรรคร่วมรัฐบาลมองว่า จะเป็นประเด็นใหญ่ๆ ที่ฝ่ายค้านทุ่มน้ำหนักในการอภิปรายคือ เรื่องวัคซีน และการบริหารจัดการโควิด-19 ที่รัฐบาลต้องตอบให้แม่น ให้ชัด และให้เคลียร์ เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านนำไปขยายผลทางการเมือง

                ส่วนเรื่องสถาบันเบื้องสูงที่อยู่ในญัตติของฝ่ายค้านนั้น ทางวิปรัฐบาลมองว่า ฝ่ายค้านเองก็ลำบากเหมือนกันว่า จะพูดอย่างไรให้แนบเนียน และไม่ถูกดำเนินคดีตามหลัง เพราะทางฝั่งรัฐบาล โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ยื่นญัตติเรื่องให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าญัตติซักฟอกของฝ่ายค้านมิชอบ 

                แน่นอนว่า หากมีใครพูดสุ่มเสี่ยง ฝ่ายรัฐบาลและองคาพยพพร้อมจะดำเนินคดีทันที ซึ่งทำให้ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยไม่กล้าทำตัวห่ามมากในประเด็นนี้ 

                พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังวางเกมเชิงรุกในประเด็นนี้เอาไว้ โดยตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์สถาบัน ที่นำโดย นายไพบูลย์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ คอยจ้องฝ่ายค้านชนิดที่ว่า หากแตะต้องเมื่อไหร่ จะลุกขึ้นประท้วงทันทีให้ฝ่ายค้านรวน ไปต่อไม่ได้

            อย่างไรก็ดี นอกจากงานสัมมนาจะเป็นสนามซ้อมย่อยแล้ว ยังถือเป็น ห้องเคลียร์ใจ   ของบรรดารัฐมนตรีหรือแกนนำมุ้งต่างๆ ที่มีความบาดหมาง ได้ใช้ช่วงเวลาปรับความเข้าใจกัน โดยครั้งนี้เป็นคิวของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ได้นั่งอธิบายกับ ส.ส. โดยมี “บิ๊กป้อม” ร่วมอยู่ในวงด้วย 

                แต่สนามซ้อมนี้จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ต้องติดตาม เพราะครั้งก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัสตกเป็นเป้าใหญ่ ก็เดินทางมาร่วมสัมมนา แต่สุดท้ายยังได้คะแนนน้อยสุดอยู่ดี.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"