อภิปรายไม่น่าไว้ใจ


เพิ่มเพื่อน    

           ส.ส.ฝ่ายค้านนี่ก็แปลก...

 

            เห็นโวยวายในสภา ท่านนายกฯ ยังไม่ตอบคำถามเดี๊ยนเลย 

            ผมถามแล้วทำไมไม่ตอบ...

            เข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่า?

            นี่คือญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

            ไม่ใช่กระทู้ถาม

            ในเวทีซักฟอก ฝ่ายค้านถามแล้วนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีไม่ตอบ ก็เท่ากับยอมรับว่าให้ฝ่ายค้านด่าฟรี

            เมื่อเขาถามแล้วไม่ตอบในทางการเมืองถือว่าเพลี่ยงพล้ำ

            ไม่ว่าจะตอบไม่ได้ หรือไม่ตอบ คนที่ถูกซักฟอกก็เสียรังวัด

            ในการโหวตเสียง หากพรรคร่วมรัฐบาลไปโหวตให้ฝ่ายค้าน ก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้ เพราะรัฐมนตรีที่ถูกซักฟอก ไม่เคลียร์ข้อกล่าวหาเอง

            ครับ...ไม่เข้าใจเหมือนกัน

            เห็น ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องวัคซีนโควิด แบบเอาเป็นเอาตาย ก็สงสัยว่ามองภาพกว้างออกหรือเปล่า

            จะมาเถียงกันทำไมเรื่องเข้า หรือไม่เข้าร่วมโครงการ โคแวกซ์ (COVAX) 

            ถ้าไม่เข้าแล้วคนไทยทั้งประเทศจะต้องตายเพราะโควิด-๑๙ หมดหรืออย่างไร

            ฟัง ส.ส.พรรคก้าวไกลพูด ราวกับว่า ไทยไม่ร่วม ขณะประเทศรอบข้างไทยและชาติอื่นๆ ทั่วโลกเข้าร่วม จะทำให้เราตกขบวน และคนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนช้ากว่าประเทศอื่น

            ทั่น ส.ส.รู้หรือเปล่าว่า จนถึงวันนี้ ยังไม่มีประเทศไหนที่เข้าร่วม โครงการ โคแวกซ์ ได้รับวัคซีนแม้แต่โดสเดียว

            ไม่กี่วันก่อนเพิ่งประกาศเป้าหมายของโคแวกซ์ว่า จะมุ่งผลิตวัคซีนโควิด-๑๙ ให้ได้ถึง ๒ พันล้านโดสไม่เกินปลายปีนี้

            และจำเพาะเจาะจงไปที่การป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มแนวหน้าในสมรภูมิสู้รบกับการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙

            นี่คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด

            วัคซีนที่ฉีดในเมียนมา ได้มาจากการบริจาคของอินเดีย ส่วนกัมพูชานั้น จีนบริจาคให้ ยังไม่ใช่วัคซีนที่มาจากโครงการโคแวกซ์

            ถึงไทยเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ และจ่ายเงินไปในฐานะประเทศที่มีรายได้ปานกลางแล้ว วันนี้เราก็ยังไม่ได้วัคซีนครับ

            ที่จะมาถึงก่อนล็อตแรก จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ โดส ที่ซื้อจาก บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด (SINOVAC  BIOTECH CO., LTD.) สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่  ๒๔ กุมภาพันธ์นี้      

            และสามารถฉีดได้ทันทีในอีก ๓ วันหลังจากนั้น

            ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายไฟแลบ รู้หรือเปล่าว่า ข้อมูล ณ  ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีประเทศที่บริจาคเงินเข้าโครงการโคแวกซ์ ๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

            แต่เป้าหมายคือ ๘ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

            ผู้บริจาค เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา นอร์เวย์ ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป เป็นต้น และเป็นเหตุผลว่าทำไมประเทศร่ำรวยถึงเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย

            ประเทศในลิสต์รายชื่อของโคแวกซ์ ซึ่งจะได้รับวัคซีนคิดเป็นสัดส่วนตามจำนวนประชากร มากที่สุดก็คือ อินเดีย  ๙๗.๒ ล้านโดส ปากีสถาน ๑๗.๒ ล้านโดส ไนจีเรีย ๑๖  ล้านโดส อินโดนีเซีย ๑๓.๗ ล้านโดส บังกลาเทศ ๑๒.๘  ล้านโดส บราซิล ๑๐.๖ ล้านโดส เอธิโอเปีย ๘.๙ ล้านโดส ฟิลิปปินส์ ๕.๖ ล้านโดส และเม็กซิโก ๖.๕ ล้านโดส ฯลฯ

            แล้วรู้อะไรมั้ยครับ วัคซีนที่โครงการโคแวกซ์สั่งซื้อ จะกระจายในระลอกแรก ๑๘ ประเทศ ช่วงปลายเดือนมีนาคม

            ล้วนเป็นประเทศที่ระบาดหนักทั้งสิ้น 

            เช่น โคลอมเบีย เปรู แอฟริกาใต้ ยูเครน เกาหลีใต้ และ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น

            ตามแผนขององค์การอนามัยโลก (WHO) แจกจ่ายวัคซีนโควิด จำนวน ๓๓๐ ล้านโดสไปยังประเทศกำลังพัฒนาในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้

            และในล็อตแรกนี้จะแบ่งสันปันส่วน ครอบคลุม ๓.๓%  ของประชากรใน ๑๔๕ ประเทศ ที่เข้าร่วมโครงการ

            แต่แผนนี้ ไม่มีผลผูกพันและอาจมีการเปลี่ยนแปลง

            การจัดสรรและแจกจ่ายขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของแต่ประเทศ

            ดูตัวเลขนี้ไว้นะครับ

            แล้วกลับมาดูที่ไทย วัคฉีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ จะเริ่มฉีดกันช่วงกลางปี

            แต่กว่าจะถึงช่วงกลางปี

            เดือนมีนาคมจะมาอีก ๘ แสนโดส

            เมษายน ๑ ล้านโดส

            ปลายพฤษภาคม ๒๖ ล้านโดส

            สำหรับสยามไบโอไซเอนซ์ผลิตปีละ ๒๐๐ ล้านโดส

            ฉะนั้นจนถึงสิ้นปีนี้ คนไทยฉีดวัคซีน เกิน ๕๐  เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว  

            ไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนทั่วโลก เผลอๆ ไทยฉีดให้ประชาชนได้ครบเป็นลำดับต้นๆ ด้วยซ้ำ

            ฉะนั้นจบเรื่องวัคซีนเถอะครับ

            อย่าไปตั้งข้อสงสัยสยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อหวังให้กระทบไปยังสถาบันพระมหากษัตริย์

            เพราะมันจะยิ่งตอกย้ำว่า พรรคก้าวไกล อยู่ในขบวนการไม่เอาสถาบัน

            มาดูเรื่องที่ยังไม่จบ และมีแนวโน้มจะเป็นประเด็นกันต่อไป

            ซักฟอกวันที่สองวานนี้ ฝ่ายค้านถล่ม "ลุงตู่" เรื่องก่อหนี้ เรื่องค่าโง่เหมืองทอง         

            "ลุงตู่" ก็ร่ายยาว

                "...ทุกวันนี้เรามีภาระที่จะต้องจ่ายในเรื่องผลการขาดทุนจากการดำเนินการที่เสียหายของโครงการรับจำนำข้าว  โครงการนี้ได้ชดเชยไปแล้ว ๗.๐๕  แสนล้านบาท วันนี้เหลือหนี้จำนำข้าว อยู่ที่ปี ๖๓ ประมาณ ๒.๘ แสนล้านบาท  ไม่รวมดอกเบี้ยอีก ๘๐๐ ล้านบาท และยังต้องตั้งงบประมาณชดเชยแบบไม่ได้อะไรเลย ปีละ ๒ หมื่นล้านบาท  และต้องตั้งไปอีก ๑๒ ปี ผมก็เสียดาย

                นอกจากนี้ยังมีภาระหนี้จากโครงการบ้านเอื้ออาทร  ทิ้งหนี้ให้กับการเคหะฯ กว่า ๒ หมื่นล้านบาท มีบ้านที่สร้างเสร็จแล้วขายไม่ได้อีกหลายหมื่นยูนิต..."

            ฟัง "ลุงตู่" แล้ว ใครคิดเหมือนผมบ้าง

            สาเหตุที่ฝ่ายค้านชุดนี้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยไร้น้ำยา ไม่ใช่เพราะพูดในสภาไม่เก่ง แต่เพราะมีแผลเต็มตัว

            ยิ่งลักษณ์สร้างความฉิบหายไว้เยอะครับ        

            รัฐบาลนี้ต้องตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้

            แทนที่ภาษีจากประชาชน จะเอาไปช่วยเหลือประชาชนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในภาวะที่ต้องสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจ ในวิกฤติโควิด-๑๙

            กลับต้องมารับผิดชอบแทนนักการเมืองเลวๆ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"