'จุรินทร์' โต้เดือดปมถุงมือยาง ฉะเลขาฯเพื่อไทย อภิปรายเท็จ!


เพิ่มเพื่อน    

18 ก.พ.64 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนเห็นด้วยเกือบจะเรียกว่าทุกประการ ไม่มีอะไรไปโต้แย้ง แต่ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยวกับโครงการนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ หรือแอบสั่งการในที่ลับหรือแจ้งก็ตาม

“ผมต้องขออภัยที่ต้องใช้คำว่าผู้อภิปรายโกหกหลายประการต่อที่ประชุม โดยเรื่องกมธ.พาณิชย์ ที่หยิบยกขึ้นมาเอ่ยอ้างว่ามีการกล่าวพาดพิงถึงรัฐมนตรี มีจริงแต่อ้างไม่หมด ส่วนที่บอกว่าผมไม่เคยตั้งกรรมการสอบ ไม่อายัดเงินหรือหน่วยงานมีอำนาจไม่อายัดเงิน หรือไม่ดำเนินคดีหรือไม่เคยให้สัมภาษณ์ออกสื่อหรือแถลงข่าวไม่เป็นความจริง เพราะมีการตั้งกรรมการสอบโดยอคส. และผมก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องนี้ตลอดเพียง แต่ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โตพาดหัวเท่านั้นเอง ส่วนกรณีที่บอกว่าหลังย้ายอดีตรักษาการผู้อำนวยอคส.นายกฯไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งเฉย ขอชี้แจงเพื่อความเป็นธรรมว่าทันทีที่ผมทราบเรื่องนี้ ก็ดำเนินการจนย้ายอดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.ไปประจำสำนักนายกฯโดยคำสั่งของนายกฯและเมื่อมีการตั้งกระทู้ก็ได้มอบหมายให้ผมตอบกระทู้และติดตามความคืบหน้ามาโดยลำดับ” รมว.พาณิชย์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับการเอ่ยอ้างถึงประธานบอร์ดบอกว่าใกล้ชิดเป็นคนสนิทนายบัญญัติ สิ่งหนึ่งที่อยากบอก คือไม่ว่าคุณจะรู้จักใคร รู้จักผู้ใหญ่ขนาดไหน รู้จักนายกฯ หรือรัฐมนตรี ไม่ได้แปลว่าจะมีอำนาจล้นฟ้าหรือทำอะไรก็ได้ เมื่อทำผิดกฎหมายต้องเข้าคุก เรื่องนี้ตนไม่ยอม ไม่ว่าใครทุจริตโครงการนี้ก็ตาม จะจัดการทั้งทางวินัย แพ่ง อาญา จนถึงที่สุด ตราบเท่าที่ยังอยู่ในอำนาจหน้าที่และกฎหมายให้อำนาจ ขอพูดไว้ต่อสภาฯไม่ใช่ไปพูดที่ใด การเอาเทปมาเปิดและตีความผิดเพื่อจงใจใส่ความ ทำให้คนเข้าใจผิดว่ารัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ผู้อภิปรายถามว่าตอนทำสัญญาแสนล้านตนไปอยู่ที่ใด ตนตอบไม่ถูก เพราะไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ไปร่วมกระบวนการสมคบกับใครทำสัญญาแสนกว่าล้านบาท ขอชี้แจงว่า อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจของบกระทรวงฯไม่ใช่ส่วนราชการที่รัฐมนตรีมีอำนาจไปสั่งปฏิบัติราชการหรือสั่งการทางนโยบายได้ และคนที่มีอำนาจวางนโยบายคือบอร์ดเท่านั้น และมีอำนาจเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้อำนวยการในการแต่งตั้งถอนถอด โดยขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่รัฐมนตรีมีอำนาจจำกัดตามพระราชกฤษฎีกา อคส.ฉบับใหม่ 2535 เนื่องจากนำรัฐมนตรีออกจากการเป็นประธานบอร์ด แต่ให้ผู้ทรงคุณวุฒิมาทำหน้าที่แทนเหมือนรัฐมนตรีกลายเป็นบุรุษไปรษณีย์ ระหว่างครม. บอร์ด ผู้อำนวยการและพนักงาน ไม่มีอำนาจบังคับบัญชา ต่างจากกรมที่รัฐมนตรีดูแล เพราะต้องการให้อคส.เป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ทันทีที่ผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ รับทราบความไม่ชอบมาพากล และรายงานให้ตนทราบ ไม่ได้แปลว่าตนไม่ได้ทำอะไร เพราะใช้อำนาจที่มีอยู่จำกัดดำเนินการร่วมกับผู้อำนวยการอคส.หลายอย่าง ดังนั้น การบอกว่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเป็นการใส่ความ เพราะหลังจากที่ได้รายงานนายกฯแล้ว นายกฯก็ลงนามคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากนั้นก็มีมติระงับโครงการทันที และผู้อำนวยการอคส.ก็ไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีกับอดีตรักษาการอคส.กับพวก และบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ รวมทั้งแจ้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดบัญชีของอดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.กับพวก หลังจากนั้นได้ยื่นป.ป.ช.เอาผิดกรณีใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต เป็นต้น โดยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ก็มีการรายงานให้ตนทราบเป็นระยะๆ ซึ่งตนก็รับทราบและสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

รมว.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ รายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ว่าขณะนี้สอบเสร็จแล้ว มีเอกสาร 2,268 แผ่น พบผู้ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพิ่มเติมจากอดีตรักษาการอคส. 1 คน แต่มีเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน และได้รายงานข้อเท็จจริงต่อบอร์ดแล้วมีมติรับทราบ ขณะเดียวกันผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ ส่งสำเนารายงานการตรวจสอบไปยังป.ป.ช. เพื่อประกอบการพิจารณาไต่สวนดำเนินคดี และนำผลที่พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมไปดำเนินการตั้งกรรมการสอบตามขั้นตอนทางวินัยของระเบียบอคส.ต่อไป ซึ่งตนได้รับทราบ และสั่งเร่งดำเนินการทางวินัย แพ่ง อาญา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ

“ผมได้ทำทุกอย่างเรียกได้ว่าครบถ้วนด้วยความปรารถนาอย่างแท้จริงที่ตั้งใจจะนำคนผิดมาลงโทษ และเอาเงิน 2 พันล้านของอคส.พร้อมดอกเบี้ยกลับคืนมาเป็นของรัฐโดยเร็ว ภายใต้อำนาจที่มีอยู่ ส่วนที่ห่วงว่ามีการอายัดบัญชีหรือไม่ ขณะนี้ปปง.ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ที่ผมพูดได้เพราะไม่ได้แทรกแซงหรือล้วงความลับ แต่ทางประธานป.ป.ช.แถลงตั้งอนุกรรมการไต่สวนและลงมติอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยจำนวนเงินได้” รมว.พาณิชย์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า การที่ท่านหยิบยกการให้การของอดีตรักษาการของผู้อำนวยการอคส.ขึ้นมาพูด โดยระบุว่าอดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.พูดพาดพิงว่า ตนรับทราบเรื่องการจัดซื้อถุงมือยางนั้น ท่านฟังความข้างเดียว เสียยี่ห้ออดีตรัฐมนตรี เพราะรายงานนี้ตนไม่เคยมีโอกาสไปชี้แจง มีแต่อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.เท่านั้น ทำไมนายประเสริฐจึงหัวอ่อนเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนให้ฝ่ายกฎหมายไปดูว่าดำเนินคดีได้หรือไม่ เพราะคนอย่างตนใครมากล่าวหาว่าโกง ไม่มีวันยอม ทนายความคนหนึ่งหาว่าตนโกงหน้ากาก ตนฟ้องดำเนินคดีไปแล้ว เพราะฉะนั้นการกล่าวอ้างอะไรอย่าฟังความข้างเดียว

นายจุรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเทปที่เปิดนั้น ตนจับความได้ว่าจะเก็บไว้ให้รัฐมนตรีเป็นผลงาน เดี๋ยวจะให้รัฐมนตรีมากด เป็นอะไร ตนก็ไม่ทราบหรือทำอะไรก็ไม่ทราบ แต่ท่านไปพูดว่ามากดเงิน มันเจตนาอะไร มันมีตรงไหนที่บอกว่ารัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องในทางมิชอบกับการทำสัญญาซื้อขายถุงมือยาง งานนี้จะให้เป็นผลงานรัฐมนตรี ตนไม่รับ เพราะงานนี้มันคือผลงานอัปยศ บอกเลยจะนิมนต์ตนไปเป็นประธานกดปุ่มอะไร ตนไม่รับนิมนต์

สำหรับการตั้งประธานบอร์ดมีขั้นตอนตามกฎหมายที่กำหนดไว้ การบอกว่าได้ประธานบอร์ดที่ไม่มีคุณสมบัติ ตนไม่มีหน้าที่ปกป้อง เพราะสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)เขาเลือกท่านนี้มาทำหน้าที่ตามขั้นตอน ท่านถามว่าเหตุใดไม่ต้องกรรมการสอบประธานบอร์ด ปล่อยปละ ละเลย ขอชี้แจงว่า ตนไม่ตั้งกรรมการสอบ เพราะมีอำนาจหรือไม่ และเรื่องนี้ส่งไปยังป.ป.ช.แล้ว เนื่องจากมีอำนาจในการตรวจสอบ สิ่งที่เขียนในญัตติว่าพฤติกรรมของตนไม่มีธรรมาภิบาล แต่ท่านกำลังเรียกร้องอะไร ท่านเรียกร้องให้ตนใช้ธรรมาภิบาลหรือลุแก่อำนาจ อยากปลดใครก็ปลด อยากสอบใครก็สอบ ท่านทราบหรือไม่ว่าคนที่ลุแก่อำนาจ เคยมีตัวอย่างปรากฎให้เห็นมาแล้ว อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านคงรู้จักดี  จำได้ ไปย้ายอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สุดท้ายไปศาลปกครองสูดสุดและตัดสินว่าใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ไปศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผมกำลังอธิบายว่าเหตุใดไม่ตั้งกรรมการสอบ ไม่ปลดประธานบอร์ด ไม่ต้องการใช้อำนาจที่ลุแก่อำนาจโดยไม่ชอบ

อย่างไรก็ตาม หากป.ป.ช.ชี้มูลว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำความผิด ตนจะดำเนินการทุกวิถีทางภายใต้อำนาจและไปสู้คดีเองในชั้นศาลและอัยการ และสิ่งที่ตนจะทำต่อไปคือ หากกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบอคส.ชี้ว่าใครผิดจะตั้งกรรมการสอบวินัยต้องรับโทษอย่างไร รวมทั้งตั้งกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดโดยส่งให้กรมบัญชีกลางพิจารณาตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และเมื่อป.ป.ช.ชี้มูลส่งอัยการฟ้องศาล อคส.โดยผู้อำนวยการฯจะยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาด้วย และทันทีที่ป.ป.ช.ชี้มูลกำหนดโทษส่งให้อคส.จะเร่งให้ผู้อำนวยการอคส.ลงโทษโดยเร็วที่สุด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"