สภาเลิกม็อบ3นิ้วมา! แตก!อาชีวะแยกทาง


เพิ่มเพื่อน    

 ม็อบ 3 นิ้วความรู้สึกช้า ชุมนุมหน้าสภาหลังโหวตเสียงอภิปรายไม่ไว้วางใจเลิกไปแล้ว มามุกเดิม โปรยอาหารสุนัขให้ตำรวจ ขณะที่กลุ่มอาชีวะไล่เผด็จการชิ่ง จัดเวทีเองที่หน้าร้านแมคโดนัลด์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกาศจุดยืนแยกเคลื่อนไหวเฉพาะไล่รัฐบาล ขอไม่แตะสถาบัน

    เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดยนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ แกนนำคนรุ่นใหม่นนทบุรี เริ่มเคลื่อนขบวน "เขาไม่ถอย เราไม่ทน แรลลี่นนท์ ท้าชนเผด็จการ" ออกจากบริเวณท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี มุ่งหน้าสู่แยกบางโพ และรัฐสภา ในช่วงบ่าย เพื่อเรียกร้องรัฐสวัสดิการต่างๆ ทั้งนี้ ได้มีรถยนต์หลายชนิดร่วมขบวนด้วยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ร่วมชุมนุมได้มีการผูกริบบิ้นสีขาวเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
    สำหรับเส้นทางการเคลื่อนขบวนรถ ก่อนถึงโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ได้มีด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรีสกัดกั้นไว้ เพื่อไม่ให้ขบวนแรลลี่นนท์เคลื่อนตัวได้ แต่ผู้ชุมนุมได้มีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถเคลื่อนขบวนต่อไปได้โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
    ในส่วนของการจราจรโดยรอบรัฐสภาขณะนี้ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบได้มีการกระจายกำลังโดยรอบพื้นที่ รวมทั้งยังมีรถน้ำอยู่หน้ากองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เพื่อเตรียมดูแลรักษาความปลอดภัยจากการชุมนุมในครั้งนี้ ตลอดจนมีการนำลวดหนามมาวางไว้บริเวณทางขึ้นสะพานลอยแยกเกียกกายด้วย เพื่อป้องกันมือที่สามใช้เป็นพื้นที่จุดสูงข่ม
    อย่างไรก็ตาม แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่เน้นย้ำกับผู้ร่วมขบวนแรลลี่นนท์ว่าหากเกิดเหตุการณ์ยั่วยุ จะต้องไม่ตอบโต้ โดยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย แต่หากเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงก่อน ผู้ร่วมขบวนแรลลี่นนท์สามารถตอบโต้ได้ทันที
    น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวถึงการจัดกิจกรรมหน้ารัฐสภาว่า จะเปิดเวทีขนาดเล็ก โหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจของภาคประชาชน  เมื่อระบบรัฐสภาไม่ได้สะท้อนเสียงของประชาชน ประชาชนจึงต้องออกมาสะท้อนเสียงของตัวเอง โดยรูปแบบยังไม่มีการตั้งเวทีไม่ปิดถนน การจราจรจะเปิดให้ใช้เพียงสองช่องเหมือนเมื่อวันที่ 20 ก.พ. และจะเสร็จสิ้นการชุมนุมภายในเวลา 21.30 น.
    ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะไปชุมนุมที่จุดอื่น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาร่วมชุมนุมมากน้อยแค่ไหน ให้รอดูสถานการณ์ ซึ่งเราเข้าใจดีว่าคนอาจจะออกมาไม่ได้มากในเวลานี้ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องสถานการณ์ของโรคโควิด-19 จึงยากที่จะออกมารวมตัวกันเหมือนเมื่อก่อน
    น.ส.ปนัสยากล่าวอีกว่า ทางกลุ่มไม่ต้องการที่จะเห็นการใช้ความรุนแรงและการสลายการชุมนุม ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีมูล เพราะกิจกรรมที่ทำสร้างสรรค์ โดยตนจะไปเจรจากับตำรวจ พร้อมร้องขอเจ้าหน้าที่ไม่ให้สลายการชุมนุม เพราะจะไม่เคลื่อนพลไปที่ไหน โดยการชุมนุมวันนี้จะไม่มีเวทีปราศรัย มีเพียงรถซาเล้งติดเครื่องขยายเสียงเท่านั้น ส่วนข่าวลือเรื่องแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมกับกลุ่มการ์ดวีโว่เตรียมนำระเบิดปิงปองประมาณ 40 ลูกมาใช้ก่อความวุ่นวายนั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง เราจะมีกิจกรรมจะมีการวาดรูประบายสี แสดงความคิดเห็นต่างๆ กลุ่มผู้ชุมนุมมีเพียงเสียงในการปราศรัยเท่านั้น ไม่มีอาวุธแน่นอน
    ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า ในการเตรียมรับมือผู้ชุมนุม เบื้องต้นเตรียมกำลังไว้กว่า 4,000 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งตำรวจจะเน้นวิธีการเจรจาพูดคุยก่อน และจะไม่ใช้กำลังทั้งหมด แต่จะสับเปลี่ยนเวรกัน ทั้งนี้ ตำรวจได้ถอดบทเรียนในการเตรียมกำลังที่ผ่านมาให้เหมาะสมกับยุทธวิธีและการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ขอย้ำว่าตอนนี้มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมี พ.ร.บ.การชุมนุมอยู่ การชุมนุมถือเป็นความผิด บ้านเมืองมีขื่อแป ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
    ส่วนการชุมนุมในวันนี้ ทราบว่าจัดขึ้นหลายกลุ่ม โดยจะมีการรวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และอีกส่วนที่หน้ารัฐสภา ส่วน ตร.จะมีการใช้กำลังกับผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่อยากให้ใครได้รับความเดือดร้อน เพราะบริเวณนี้มีผู้พักอาศัยอยู่ และมีรถสัญจรไปมา ซึ่งตอนนี้ยังไม่สั่งปิดการจราจร แต่จะประเมินตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แม้รัฐสภาจะไม่มีการประชุมหรือมีบุคคลสำคัญอยู่ภายในแล้ว
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า จะเห็นได้ว่าในการชุมนุมคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์นั้น ตำรวจได้ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อผู้ชุมนุม โดยปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย แต่มีบางฝ่ายยั่วยุ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย หากข้ามเส้น ตำรวจก็ต้องควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใดจากการชุมนุมวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมถึงกลุ่มม็อบเฟสต์ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเช่นกัน
    ต่อมาเวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มมวลชนได้เดินทางเข้าร่วมชุมนุมเป็นระยะๆ โดยมีการขึ้นปราศรัยจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการแจกแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีขาว และปากกาเมจิก เพื่อเขียนความรู้สึกที่มีต่อรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงการใช้สีชอล์กขีดเขียนพื้นถนนและใช้สติกเกอร์ติดที่พื้น
    โดยมวลชนได้โปรยอาหารสุนัขและตั๋วช้างที่เป็นกระแสข่าวใส่เข้าไปในประตู ทั้งนี้ ได้มีการ์ดวีโว่มาคอยควบคุมไม่ให้มวลชนก่อความวุ่นวาย สำหรับซองใส่อาหารสุนัข มีการนำตราสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาดัดแปลงเป็นเหมือนลูกชิ้น ซึ่งเขียนข้อความข้างใต้ว่า “กินแล้วเชื่องกับประชาชน”
    อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยในบริเวณภายในรัฐสภา ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนดูแลความปลอดภัยตลอดการชุมนุม ทั้งนี้ มีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งยืนประจันหน้ากับตำรวจพร้อมถือป้ายแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาล โดยมีบางรายที่ตะโกนต่อว่าโดยใช้โทรโข่งยั่วยุเจ้าหน้าที่เป็นระยะ แม้ว่าผู้ที่ปลุกเร้าให้มวลชนต่อว่าเจ้าหน้าที่จะยืนยันกับผู้ชุมนุมว่าให้ใช้สันติวิธีกับเจ้าหน้าที่
    ขณะที่ด้านหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มมวลชนเสื้อแดงในนามรวมพลคนประชาธิปไตย นำโดยนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ร่วมกับกลุ่มอาชีวะไล่เผด็จการ นำโดยนายธนเดช ศรีสงคราม หรือม่อน จัดการชุมนุมปราศรัย ตั้งเวทีแยกขาดกับกลุ่มราษฎร ไม่ไปเข้าร่วมในการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ท่ามกลางมวลชนเสื้อแดงสูงอายุและกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวอาชีวะ พร้อมแกนนำสำคัญกลุ่มการ์ดม็อบราษฎร อาทิ นายเกวลัง ธัญญเจริญ หรือเก่ง อาชีวะ, นายชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือนุก เป็นต้น
         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนี้ได้ประกาศจุดยืนว่าหลังจากนี้จะแยกเคลื่อนไหวแบบเรียกร้องเพียงแค่ประเด็นขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และโจมตีการทำงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน และมองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สภาสิ้นสุดแล้ว การไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภาสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะ
    สำหรับกลุ่มอาชีวะ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจขอใช้พื้นที่ชุมนุมหน้าร้านแมคโดนัลด์ ไม่เคลื่อนขบวนไปไหน และยุติชุมนุมปราศรัยเวลา 20.00 น.

    

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"