'บิ๊กตู่'เข็มแรกแอสตราฯ วัคซีนซิโนแวคฉีดอนุทิน


เพิ่มเพื่อน    


      นายกฯ ย้ำ 24 ก.พ. รับวัคซีนล็อตแรกพร้อมฉีดได้ตามแผนภายใน 3 วัน วางทุกอย่างเป็นระบบ-รัดกุม เพื่อความปลอดภัย ไม่ปิดกั้นภาคเอกชน หลังผ่านระยะแรกแล้วไปขอใบรับรอง อย.ได้ “เสี่ยหนู” เผยได้ “ซิโนแวค 2 แสนโดส-แอสตร้า 1.1แสนโดส” ยันนายกฯ ต้องเป็นเข็มแรกเพราะเป็นผู้นำ สธ.ชง “บิ๊กตู่-หมอหนู” ฉีดวัคซีนคนละยี่ห้อ เรียกความเชื่อมั่น ศบค.กำชับแม้ปลดล็อกนั่งดื่มในร้านได้แต่ต้องระวังตัวเอง พบติดเชื้อรายใหม่ 95 ราย 
      เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ความคืบหน้า การจัดหาวัคซีนต้านโควิด 19 - วัคซีนซิโนแวค 2 แสนโดส ที่จะมาถึงในวันที่ 24 ก.พ. จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนการได้ภายใน 3 วันครับ สำหรับคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนฟรีทุกคน ซึ่งเราได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายและการบริหารจัดการทั้งหมดไว้ก่อนแล้ว ขอให้รอฟังการชี้แจง ศบค.ต่อไป ทั้งนี้ วัคซีนล็อตสองจำนวน 8 แสนโดส และล็อตสาม 1 ล้านโดส จะตามมาในเดือนมีนาคมและเมษายน โดยส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับฉีดเข็มที่ 2 ให้ผู้ที่ได้รับโดสแรกไปแล้ว
      ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เราจะได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส และจะตามมาอีก 35 ล้านโดส วัคซีนของแอสตรา เซเนกาขึ้นทะเบียนแล้ว นอกจากนี้ยังมีวัคซีนของจอห์นสันแอนด์ จอห์นสัน ที่ได้ส่งเอกสารบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่ครบถ้วน ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ที่ได้ส่งตัวแทนมาพูดคุย แต่ยังไม่ได้ส่งเอกสารมา
      วัคซีนที่จะใช้ฉีดในประเทศไทยทุกล็อต จะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. เพราะเราต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก จะเห็นว่าเราตั้งใจวางมาตรการอย่างเป็นระบบ เพราะทั้งหมดเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยทุกคนในประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ต้องรัดกุม มีแผนงานที่เป็นขั้นเป็นตอนตามแผนของรัฐที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อให้การฉีดวัคซีนได้ผลในการป้องกันการระบาดได้เต็มประสิทธิภาพ
      ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าวัคซีนไม่ใช่ของนายกฯ แต่เป็นของประชาชนทั้งประเทศ เป็นการอนุมัติในครม.ร่วมกัน ในการจัดหาวัคซีน ซึ่งวันนี้ก็ได้มา 2 บริษัท และอีกหลายวัคซีนกำลังตามมา เพราะจำเป็นต้องนำมาขึ้นทะเบียน อย.ก่อน ซึ่งเมื่อมี อย.แล้วก็จะมีการฉีดเพิ่มเติมจากภาคเอกชนที่นำเข้ามา รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นตรงนี้ แต่ขอระยะแรกผ่านไปก่อน และทุกคนจะสามารถเสนอเข้าไปขอรับรองจาก อย.ได้ ก็จะมีฉีดเพิ่มเติม มันดีเสียอีก เพราะจะมีวัคซีนมากกว่า 65 ล้านโดส ที่เราเตรียมการไว้ปัจจุบัน หลายบริษัทได้เสนอมาแล้ว แต่ยังส่งเอกสารมาไม่ครบ คิดว่าวัคซีนจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การท่องเที่ยวและการประกอบธุรกิจดีขึ้น 
      เมื่อถามว่า นายกฯ ได้รับคำตอบจากคณะแพทย์แล้วหรือยังว่าจะสามารถฉีดวัคซีนได้ในล็อตแรกอย่างที่ตั้งใจไว้ และจะมีรัฐมนตรีคนอื่นร่วมฉีดด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คำถามแบบนี้เป็นกระพี้ จะฉีดคนแรกหรือเปล่า คนที่สองหรือคนที่สาม ฉีด สิ่งที่เราน่าจะยินดีร่วมกันคือเรามีวัคซีนเข้ามาฉีดแล้ว การจะฉีดให้ใครเป็นเรื่องของคณะกรรมการจะพิจารณา และอยู่ที่ความสมัครใจของใครที่จะเป็นผู้ฉีดเท่านั้นเอง ประชาชนทุกคนก็มีส่วนร่วม และเขาก็เปิดช่องทางให้แล้ว ใครที่สมัครใจประสงค์จะฉีดก็ส่งรายชื่อมาที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เท่าที่ทราบประชาชนส่วนหนึ่งก็อยากจะฉีด เพราะไว้ใจ อีกส่วนก็ลังเล อีกส่วนไม่ฉีดขอรอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่สิ่งสำคัญสุดคือรัฐบาลต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับคนทั้งประเทศ 
      ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการฉีดวัคซีนให้กับคนไทย ว่า เรื่องนี้ต้องให้นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นคนชี้แจงจะดีที่สุด 
นายกฯ ฉีดเข็มแรก    
    ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถฉีดวัคซีนเป็นเข็มแรกเลยได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า "ได้ นายกฯ ต้องเป็นเข็มแรกเพราะเป็นผู้นำประเทศ ซึ่งต้องมีกระบวนการประเมินความเสี่ยงโดยกรมควบคุมโรค สธ. ซึ่งเป็นขั้นตอนตามวิธีการสากล ไม่ใช่วิธีปฏิบัติต่อบุคคลใดเป็นพิเศษ ทั้งนี้ นายกฯ จะได้รับวัคซีนที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ คือไม่ใช่ซิโนแวค เพราะซิโนแวคมีข้อจำกัดเรื่องอายุ แต่เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งคือแอสตราเซเนกา โดยผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนเป็นผู้จัดหามาให้ก่อน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนนายอนุทินเองจะเป็นคนฉีดเข็มที่สองของประเทศไทยใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเขาให้ฉีด เพราะคนที่ฉีดซิโนแวคหมายความว่าเป็นคนหนุ่ม คืออายุไม่เกิน 60 ปี
    “วันที่ 24 ก.พ. วัคซีนทั้งสองยี่ห้อคือแอสตราเซเนกา จำนวน 117,000 โดส และซิโนแวค จะเดินทางมาถึงประเทศไทย ความจริงถ้าไม่มีดรามาเกิดขึ้นกันมากวัคซีนก็จะมาถึงไทยก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนการเว้นระยะฉีดระหว่างเข็มแรกกับเข็มที่สองนั้น ของซิโนแวคจะต้องเว้นห่างกัน 14-28 วัน ส่วนแอสตราเซเนกาเว้นห่างกัน ประมาณ 6 สัปดาห์ ทั้งนี้ รายละเอียดทางวิชาการผมอาจจะระบุรายละเอียดไม่ได้มากนัก เพราะเป็นแผนกสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ” นายอนุทินกล่าว  
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ สธ. ในฐานะประธานอนุกรรมการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ถึงแผนการกระจายวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่าแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 จะฉีดให้เร็วที่สุดหลังจากที่มีผลยืนยันความปลอดภัยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากปลอดภัยแล้วพร้อมฉีดในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ. ก็จะฉีด แต่หากไม่ทันก็เป็นวันจันทร์ที่ 1 มี.ค. โดยหากจะมีพิธีในการฉีดเข็มแรก ก็คงเลือกที่สถาบันบำราศนราดูร ตามฤกษ์สะดวกที่ทุกคนมีความพร้อม อย่างไรก็ตาม จะนำมาฉีดเสริมให้กับพื้นที่จังหวัดสีแดงและส้ม โดยส่วนที่เข้ามาจะฉีดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป แผนคือจะฉีดจำนวน 50,000 โดสแรกก่อน เพราะเราไม่ทราบว่าล็อตต่อไปสำหรับเข็มที่ 2 จะเข้ามาเมื่อไหร่ 
นพ.โสภณกล่าวว่า การฉีดวัคซีนจะฉีดในพื้นที่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยง เช่น ประชาชนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่เสี่ยง อาทิ แม่ค้าในตลาดสด จ.ปทุมธานี ในแต่ละจังหวัดจะมีกลุ่มเป้าหมาย และที่สำคัญคือกลุ่มบุคลากรสาธารณสุข แต่วัคซีนที่ได้รับจัดสรรไปยังไม่เพียงพอทั้งหมด จังหวัดต้องไปดูว่าเช่นผู้ป่วยโรคเรื้อรังมี 1 แสนคน แต่ได้รับวัคซีน 1 พันโดส แพทย์ต้องพิจารณาข้อบ่งชี้ว่าใครควรจะได้รับวัคซีนก่อน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคิว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจฉีด
เมื่อถามว่าจะสามารถเลือกฉีดวัคซีนได้หรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้ที่จะได้รับวัคซีนจะได้ชนิดใด ขอให้ขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้ของแพทย์ เบื้องต้นตอนนี้ยังไม่สามารถเลือกชนิดได้ แต่ตามหลักการแพทย์แล้ว วัคซีนที่ดีที่สุดคือฉีดได้เร็วที่สุด เช่น บางคนมีอายุมากกว่า 60 ปี ก็มีข้อบ่งชี้จากซิโนแวค
“นายกฯ-หมอหนู”ฉีดคนละยี่ห้อ
      ถามว่าผู้ที่จะได้ฉีดวัคซีนเป็นเข็มแรกจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์  หรือไม่ นพ.โสภณกล่าวว่า คณะกรรมการฯ อยากให้ผู้นำประเทศได้ฉีดด้วย เพราะเป็นไปตามข้อบ่งชี้ คือ 1.มีอายุมากกว่า 60 ปี 2.เดินทางไปหลายที่ซึ่งมีความเสี่ยง 3.แสดงความเชื่อมั่น โดยรวมถึงรมว.สธ.และ รมช.สธ.ด้วย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่สั่งเข้ามามีความปลอดภัยกับประชาชน และเป็นบุคคลตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
      ถามอีกว่า เมื่อมีวัคซีนเข้ามาพร้อมกัน 2 ชนิดจาก 2 บริษัท จำเป็นต้องให้นายอนุทินและ พล.อ.ประยุทธ์ฉีดคนละชนิดหรือไม่ เพื่อแสดงความเชื่อมั่นให้ประชาชน นพ.โสภณกล่าวว่า ทางคณะกรรมการฯ อยากให้เป็นเช่นนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจ จากวัคซีน ทั้ง 2 ชนิด แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของท่านว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าเราซื้อมา 2 บริษัท ทางผู้บริหารระดับสูงของประเทศเรา มั่นใจและกล้าฉีด แต่เรามีข้อบ่งชี้ว่าอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปก็ฉีดของซิโนแวคไม่ได้
      นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า จากกรณีที่ประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ได้มีการปรับพื้นที่แต่ระดับใหม่ โดยยังคงให้ จ.สมุทรสาครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และมีมาตรการผ่อนคลาย โดยเฉพาะการให้ผับบาร์กลับมาเปิดกิจการ และนั่งดื่มในร้านอาหารในพื้นที่ควบคุม 8 จังหวัดได้ จนถึงเวลา 23.00 น. แต่ขอร้องประชาชนให้เข้มงวดเรื่องมาตรการป้องกัน อย่าใช้ช้อนร่วมกัน อย่าดื่มแก้วเดียวกัน ต้องระมัดระวังคนร่วมวงที่อาจเป็นผู้แพร่เชื้อหรือเราเป็นผู้แพร่เชื้อไปให้ โดยคำสั่งผ่อนคลายดังกล่าวได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ก.พ. แต่อยากให้ประชาชนติดตามมาตรการของแต่ละจังหวัด เพราะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสามารถออกมาตรการเข้มกว่าของ ศบค.ได้ แต่หย่อนกว่าไม่ได้ 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ยังได้หารือถึงแผนกระจายวัคซีนโควิดที่มีปลัด สธ. นำเสนอแผนต่อที่ประชุม โดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. มีนโยบายว่าการกระจายวัคซีนต้องครอบคลุม และประชาชนทุกคนในประเทศต้องเข้าถึง โดยมี 3 เป้าหมายคือ ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต ปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และเห็นชอบให้จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาอาชีพ โดยในเดือน ม.ค.-เม.ย. การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก อนุญาตให้มีผู้ชมได้ 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น  
     ด้าน พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลง ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 95 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 93 ราย ในจำนวนนี้มาจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 52 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 41 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 25,599 ราย หายป่วยสะสม 24,446 ราย อยู่ระหว่างรักษา 1,070 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมคงที่ 83 คน ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 112,258,917 ราย เสียชีวิตสะสม 2,485,295 ราย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"