
อีกวันประวัติศาสตร์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครั้งแรกในไทย "อนุทิน" ประเดิมเข็มแรก ตามด้วยรัฐมนตรี-บุคลากรทางการแพทย์ "บิ๊กตู่" ให้กำลังใจใกล้ชิด เผยตั้งแต่ 1 มี.ค.ทยอยถึงปชช. วอนทุกฝ่ายเลิกดรามา "หมอหนู" แจงปัญหาธุรการทำนายกฯ ยังไม่ได้ฉีด "สาธิต" คาดไม่เกิน 15 มี.ค.ได้คิวแน่ "ศบค." พบผู้ป่วยใหม่เพิ่มอีก 70 ราย
ที่สถาบันบำราศนราดูร วันที่ 28 ก.พ. ได้มีการจัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายจากบริษัทซิโนแวค โดยการฉีดวัคซีนเข็มแรกนั้นได้ฉีดให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มาร่วมให้กำลังใจพร้อมกับเยี่ยมชมจุดให้บริการฉีดวัคซีน และทดสอบระบบร่วมกับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข
โดยเวลา 07.40 น. นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ทำหน้าที่แพทย์ผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้นายอนุทิน ส่วนคนที่สองคือนายสาธิต ตามมาด้วยนายอิทธิพล, นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.โอภาส การกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นลำดับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งวันนี้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ได้เฝ้าสังเกตอาการผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนประมาณ 15 นาที เมื่อไม่มีใครมีอาการผิดปกติ นายกฯ จึงกล่าวขอบคุณผู้ที่สมัครใจเข้ารับการฉีดวัคซีนในวันนี้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้น แต่ได้ขอให้เฝ้าระวัง 15-30 นาที เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนอื่นๆ ซึ่งเป็นแนวทางที่ต่างประเทศดำเนินการมา เราก็ดำเนินการตามนั้น โดยในวันที่ 1 มี.ค. วัคซีนจะไปถึงประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจ วันนี้คือประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งในการฉีดวัคซีนเข็มแรกของยี่ห้อนี้ แต่วันที่จะเป็นประวัติศาสตร์สำคัญกว่านี้คือวันที่โควิด-19 ออกไปจากประเทศไทย และวันที่ประเทศไทยกลับคืนสู่ความสงบสุขและมีเสถียรภาพ ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยต้องเป็นเช่นนั้น
"เรื่องนี้อย่าดรามากันต่อ พอแล้ว ทุกเรื่อง ขอเถอะ วันนี้บ้านเมืองมีปัญหาอยู่วุ่นวาย ทุกอย่างนายกฯ ดูแลได้ การฉีดวัคซีนวันนี้เป็นเรื่องของทางการแพทย์ อย่าคิดว่ามีประเด็นนั้นประเด็นนี้กันอีก ขอให้เขียนข่าวในลักษณะการสร้างการมีส่วนร่วมในการโควิด-19 และวันนี้ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของประเทศไทย ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข หมอ พยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะมีขึ้นมีลง แต่ก็แก้ปัญหาได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยมีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นอันดับต้นของโลก ขอให้ช่วยกันเขียนอย่างนี้ในข้อเท็จจริง หากจะเขียนให้เสียหายก็เขียนได้ แต่ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับใครเลย อย่างไรก็ตาม หลังผู้รับวัคซีนผ่านไประยะเวลาหนึ่ง และหลังจากที่ตนเฝ้าระวังดูอาการ ยังไม่เห็นมีใครเป็นอะไร ซึ่งทางการแพทย์บอกว่าหลังฉีด 15 นาทีจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรหรือไม่ แต่ก็ไม่มีใครเวียนหัวหรือเจ็บแผล
"สำหรับผมเมื่อถึงเวลาแพทย์แจ้งให้ฉีดผมก็พร้อมจะฉีด เพราะชินอยู่แล้วเรื่องการฉีดยา เวลาไม่สบายทานยาไม่ทันใจก็ฉีดเอา ไม่เช่นนั้นจะทำงานไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นไข้ธรรมดา วันนี้ที่แพทย์ไม่ฉีดให้ผม เพราะอะไรไหนลองตอบมา ฟังไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร ไปฟังแพทย์ชี้แจงเอาแล้วกัน ผมไม่อยากพูด" นายกฯกล่าว
ถามว่าหลังจากวัคซีนเข้ามาประเทศไทยแล้วมีความหวังอย่างไรหลังจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็หวังให้โควิด-19 หมดไปโดยเร็ว และได้วัคซีนมาอย่างเพียงพอ หวังให้บ้านเมืองสงบและการเมืองมีเสถียรภาพ ถ้าไม่หวังกับตนแบบนี้แล้วใครจะหวัง
ฉีดวัคซีนวันแรกฉลุย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำประเทศไม่ได้เป็นผู้นำการฉีดวัคซีนเข็มแรกของประเทศไทย เนื่องจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ของวัคซีนที่จะมีการฉีดในวันนี้นั้นจะฉีดให้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18- 59 ปีเท่านั้น แต่นายกฯ ต้องฉีดวัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี ซึ่งขณะนี้วัคซีนดังกล่าวยังติดปัญหาเทคนิคด้านการตรวจสอบ
นอกจากนี้ นายเฉลิมชัยก็ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากมีภาวะความดันขึ้นสูงเกิน 170 ถือว่ามีความเสี่ยง โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้ฉีด เพราะความดันขึ้น หมอจึงแนะนำให้ฉีดครั้งหน้า
"สงสัยผมคงตื่นเต้น ปกติเป็นคนนอนดึก ตี 1-2 แล้ววันนี้ต้องตื่นตี 5 เลยทำให้ความดันขึ้นเล็กน้อย ซึ่งไม่รู้สึกผิดหวัง ที่มาวันนี้เพราะต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเรามีความพร้อมและปลอดภัย ผมความดันขึ้น หมอก็แนะนำว่าไม่ควรฉีด" นายเฉลิมชัยกล่าว
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิดว่า วันแรกของการฉีดวัคซีนถือว่าผ่านไปด้วยดี และสามารถฉีดไปได้หลายคน จากนี้ตนจะเดินทางไปโรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามการฉีดวัคซีนที่นั่น
"ขอให้คำยืนยันว่าวัคซีนทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรที่กระทรวงสาธารณสุขจัดมาให้คนไทย มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สามารถป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิค-19 ได้ การสั่งวัคซีนเข้ามานั้น ยังไม่มีอะไรหลุดจากแผน มีแต่คนที่เอาไปพูดให้เกิดความสับสนอลหม่าน" นายอนุทินกล่าว
ถามว่า นายกฯ จะฉีดยี่ห้อแอสตราเซเนกาใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ถูกต้อง แต่ตอนนี้ทางบริษัทแอสตราเซเนกากำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบและจัดทำเอกสารให้ถูกต้อง ตรงนี้คือมาตรฐาน เรื่องของวัคซีนจะบอกว่าให้เอามาฉีดก่อนแล้วค่อยจัดการเรื่องธุรการทีหลังไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ผู้ผลิตยังไม่สามารถทำเอกสารให้ครบตามขั้นตอนได้เพื่อที่จะส่งมอบให้กับผู้ซื้อ เราก็ต้องรอเขาที่แจ้งมาว่าประมาณ 8-10 วัน
"หากทุกอย่างเรียบร้อย จะเชิญนายกฯ มารับการฉีด ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดพลาดของฝ่ายเรา แต่ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของแอสตราเซเนกา ที่เขามีความต้องการจะจัดส่งมาให้ถึงเมืองไทยก่อน เพราะกลัวว่าถ้าให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หากมีกฎเกณฑ์อะไรมาห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศของเขา ก็จะเกิดความวุ่นวาย ซึ่งขณะนี้วัคซีนแอสตราเซเนกายังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทแอสตราเซเนกาอยู่ ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของรัฐบาลไทย ไม่เหมือนซิโนแวคที่เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐบาลไทยแล้ว เพราะเราเป็นผู้ซื้อและนำเข้า" รองนายกฯ กล่าว
ต่อมานายอนุทินโพสต์เฟซบุ๊ก Anutin Charnvirakul พร้อมภาพกำลังนั่งกินข้าวขาหมูอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง พร้อมข้อความว่า “ผลข้างเคียงหลังจากการรับวัคซีนคือ….หิวข้าวขาหมูคร้าบ”
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดว่า หลังได้รับวัคซีนเข็มนี้จะรับเข็มต่อไปในวันที่ 22 มี.ค. อย่างไรก็ตามหลังได้รับวัคซีนขณะนี้ยังไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ อาจจะมีอาการตึงที่แขนเล็กน้อย แต่โดยหลักวิชาการต้องรอดูอาการอีกพักนึง แต่ยืนยันว่าเวลานี้ไม่มีปัญหาอะไร
คิวใหม่'บิ๊กตู่'กลางมี.ค.
นายสาธิตกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป จะขอให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรกที่จะได้รับการฉีดวัคซีน โดยทุกคนได้มีการลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนการจัดการจะมีการกระจายให้ไปฉีดใน 13 จังหวัดแรก เป็นไปตามหลักของคณะอนุกรรมการวัคซีนแห่งชาติที่กำหนดว่าจะกระจายให้พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอยู่ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น.ของวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่ในวันดังกล่าวตนจะเดินทางไปเป็นประธานการฉีดวัคซีนที่ จ.ชลบุรี
"หลังจากนี้เมื่อวัคซีนทยอยเข้ามาจะมีประชาชนทั่วไป โดยจะแบ่งกลุ่มทยอยทะเบียนเข้ามาฉีด ซึ่งจะเป็นไปอย่างทั่วถึง จะได้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และเดินหน้าไปสู่การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ และนอกเหนือจากบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนแล้ว จะมีผู้ที่จะเดินทางไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก กลุ่มนี้จะได้รับการฉีดก่อน แม้จะไม่ได้อยู่ในผู้เป็นกลุ่มเสี่ยงก็ตาม แต่ถือเป็นตัวแทนของประเทศ" นายสาธิตกล่าว
ซักถึงความชัดเจนเรื่องวัคซีนแอสตราเซเนกาล็อตแรกที่จะเข้ามา รมช.สธ.กล่าวว่า แอสตราเซเนกาล็อตแรกเข้ามาแล้ว แต่มีปัญหาเรื่องของเทคนิค เพราะการที่จะขึ้นทะเบียนและผ่านการรับรอง ต้องใช้เวลาเล็กน้อย ซึ่งที่รับปากเราคือไม่เกินวันที่ 15 มี.ค.นี้ และมั่นใจว่าอายุการใช้งานของวัคซีนดังกล่าวที่นำมาจากเกาหลีใต้จะทันอย่างแน่นอน เพราะมีการเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม อายุของวัคซีนมีระยะเวลา 6 เดือน เพียงแต่ขนาดนี้เรารอเวลา ทำขั้นตอนให้ถูกต้องทั้งในส่วนของบริษัทและบุคลากรทางการแพทย์ของเรา
"นายกรัฐมนตรีจะได้ฉีดประมาณกลางเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่มีการทดลองกับกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนมากแล้ว โดยเป็นล็อตที่มีการนำเข้ามาประเทศไทยแล้ว" รมช.สธ.กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โพสต์คลิปขณะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “Sinovac มาแล้วไม่เจ็บเลย #พยาบาลมือเบาเข็มเล็กนิดเดียว #มั่นใจในสาสุขไทย”
ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร นายอนุทินได้เดินทางมาเพื่อชมการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกของจังหวัดสมุทรสาคร ให้กับนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าฯ สมุทรสาคร โดยมีตัวแทนประชาชนจากทุกๆ หน่วยงานทั้งข้าราชการ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าของโรงงาน หอพัก พ่อค้าแม่ค้า และตัวแทนแรงงานที่เป็นชาวบ้านประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครที่ร่วมกันฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วย
วันเดียวกัน บริษัทแอสตราเซเนกามีหนังสือชี้แจงกรณีการส่งวัคซีนให้ไทยล็อตแรกกว่า 110,000 โดส เมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในวัคซีนชุดแรกในเอเชีย-แปซิฟิก ที่ลำเลียงมาก่อนกำหนดเดิมที่วางไว้ในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากภารกิจของรัฐบาลไทยที่ได้สนับสนุนการผลิตวัคซีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแม้ว่าวัคซีนจะได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว แต่การนำออกใช้ได้ต้องผ่านขั้นตอน การยืนยันคุณภาพครบถ้วนทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐานสูงสุดเช่นเดียวกับทุกผลิตภัณฑ์ของแอสตราเซเนกา
โดยตามกำหนดการวัคซีนของแอสตราเซเนกาชุดนี้จะผ่านขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพภายในสัปดาห์ที่สองของเดือน มี.ค. หรือประมาณวันที่ 8 มี.ค. โดยขณะนี้แอสตราเซเนกากำลังทำงานร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ เพื่อให้นำวัคซีนออกใช้ได้ทันทีเมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ โดยขณะนี้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ผ่านการอนุมัติคำรับรองเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนตำรับยา หรืออนุญาตใช้ในกรณีฉุกเฉินในกว่า 50 ประเทศโดยองค์การอนามัยโลกแล้ว
ดาหน้าข้องใจนายกฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีนักการเมืองและอดีตนักการเมืองหลายคนออกมาแสดงความสงสัยในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่คนแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งระบุว่า นายกฯ ไม่ยอมฉีดวัคซีนเป็นคนแรก บอกอะไรเรา ตามที่ รมต.สาธารณสุขแถลงไว้ พล.อ.ประยุทธ์จะฉีดวัคซีนเป็นคนแรก โดยจะฉีดของแอสตราเซเนกา ไม่ใช่ซิโนแวค เพราะแพทย์ไม่แนะนำให้ฉีดซิโนแวค แก่ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี แต่ทราบกันไหมมั้ย ในต่างประเทศเขาพบปัญหาอะไรกับวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อนี้
"ทางการสาธารณสุขของฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์และอิตาลี แนะนำว่าวัคซีนแอสตราเซเนกาวัคซีนที่เคยประกาศว่าจะใช้ฉีดพล.อ.ประยุทธ์ เป็นวัคซีนที่ไม่ใช้ในผู้มีอายุเกิน 65 ปีเช่นกัน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์อายุเกิน แต่ที่ภายหลังประกาศว่าจะไม่ฉีดเพราะอายุเกินหรือเหตุผลอื่นไม่ทราบ" นายจาตุรนต์ระบุ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ถ้านายกฯ ยังไม่ยอมฉีดวัคซีนที่สั่งซื้อมาเองเพราะอายุเกิน ตนขออาสาเป็นตัวแทนฝ่ายค้านฉีดวัคซีนแทนนายกฯ เอง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรีและหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ตั้งข้อสงสัยเช่นกันว่า ตนก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมนายกฯ ไม่ฉีด ทั้งๆ ที่ตอนแรกออกข่าวว่าจะฉีดคนแรกเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่พอนายกฯ ไม่ฉีด จึงยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
ในส่วนศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่สถานการณ์ประจำวัน ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 70 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 62 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 43 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 19 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 25,951 ราย หายป่วยสะสม 25,128 ราย อยู่ระหว่างรักษา 740 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 83 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 114,365,592 ราย เสียชีวิตสะสม 2,536,703 ราย.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |