เสี่ยหนูยังติดใจ! 7ส.ส.โหวตสวน พปชร.โอ่ฟันแน่


เพิ่มเพื่อน    


     “ไพบูลย์” หวัง 2 มี.ค. ลงดาบ 7 ส.ส. แหกมติให้สะเด็ดน้ำ “อนุทิน” ย้ำยังติดใจอยู่หากไม่มีมาตรการลงโทษ บอกสายเกินไปแล้วที่กลุ่มดาวฤกษ์จะมาขอโทษ โพลสวนทางส่วนใหญ่ชี้เป็นเอกสิทธิ์ เพื่อไทยปรับลดรัฐมนตรียื่น ป.ป.ช.เหลือแค่ 2 หน่อ
    เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีสมาชิกพรรคไม่ปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อพรรค และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานจริยธรรม ตามข้อบังคับของพรรคจากกรณี 7 ส.ส.พรรคโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า คณะกรรมการฯ จะเชิญสมาชิกทั้ง 7 คนมาชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 2 มี.ค. และจะสรุปผลสอบเลยทันที เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะประชุมในวันนั้นเช่นเดียวกัน ถ้าผลสอบเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ทางคณะกรรมการบริหารพรรคจะกำหนดมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งมา ทั้งหมดจะได้ข้อยุติในวันนั้นเลย
     นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ยังไม่จบ เชื่อว่าเดี๋ยวผู้ใหญ่เขาก็คุยกัน เพราะเป็นมารยาทการอยู่ด้วยกัน ระดับผู้ใหญ่บางทีพูดกันด้วยญาณดีกว่า  ไม่ต้องเอ่ย ไม่ต้องไปโวยวายอะไร สมมุติว่า ส.ส.ภูมิใจไทยทำอะไรไม่ถูก ขัดขืนมติพรรค ไม่เชื่อฟัง พูดก็แล้ว ขอร้องอย่างไรก็แล้ว ก็ยังทำอยู่ ก็ต้องจัดการในวิธีการของตนเอง ส่วนหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆ ก็ต้องมีวิธีจัดการในวิถีทางของท่าน เราต้องไม่ก้าวก่ายกัน แต่ที่สำคัญเราต้องอธิบายต่อกันและกันได้ 
     เมื่อถามว่า สำหรับคำอธิบายของกลุ่มดาวฤกษ์ที่ออกมาชี้แจงฟังไม่ขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรคต้องบอกว่าฟังไม่ขึ้น เพราะถ้าสิ่งที่เขาทำถูกก็หมายความว่า ส.ส.ที่เหลือของพรรค พปชร.โหวตผิดหมดหรือ คนร้อยกว่าคนโหวตแบบนี้แล้วเจ็ดคนโหวตอีกอย่าง กลายเป็นร้อยคนผิด เจ็ดคนถูก ก็ให้มันรู้ไป 
ถามอีกว่า การที่นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค พปชร.ออกมาแถลงข่าวและยกมือไหว้ขอโทษ ยังไม่เพียงพอใช่หรือไม่ นายอนุทินย้ำว่า ไม่มีๆ มีแต่ตนเองยกมือไหว้นายอนุชา และนายอนุชาไม่ใช่คนทำผิด เหมือนน้องมาตีหัวตนเองแล้วอีกคนมาขอโทษ มันเกี่ยวอะไรกัน 
     ถามย้ำว่า กลุ่มดาวฤกษ์ต้องแสดงท่าทีการรับผิดชอบให้ชัดเจนมากกว่านี้ นายอนุทินกล่าวว่า เราติดใจในเรื่องการอยู่ร่วมกัน ทุกคนก็ต้องไปดูแลคนของตัวเอง ซักต่อว่าหากกลุ่มดาวฤกษ์ยังอยู่พรรค พปชร.ก็จะยังไม่ไว้ใจใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบทันทีว่าไม่เคยไว้ใจกลุ่มดาวฤกษ์อยู่แล้ว  
     เมื่อถามย้ำว่า หากกลุ่มดาวฤกษ์มาขอโทษ นายอนุทินตอบว่า "a little too late" เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า too late หรือทุเรศ นายอนุทินกล่าวว่า ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 
     ทั้งนี้ นายอนุทินปฏิเสธตอบคำถามว่าจะยื่นคำขาดว่ากลุ่มดาวฤกษ์ต้องลาออกจากพรรค พปชร.หรือไม่ โดยได้ส่ายศีรษะ ก่อนกล่าวสั้นๆ ว่า บ้านใครบ้านมัน 
วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจประชาชนเรื่อง ลงโทษผู้โหวตสวนมติพรรคอย่างไรดี จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 คน พบว่า 52.67% ระบุว่าไม่ควรมีการลงโทษ เพราะเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลในการเเสดงความคิดเห็นที่เเตกต่าง, 45.80% ระบุว่าควรลงโทษ เพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตนเอง และ 1.53% ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ 
     และเมื่อถามถึงรูปแบบการลงโทษจากผู้ที่ระบุว่าควรมีการลงโทษ พบว่า ส่วนใหญ่ 34.34% ระบุว่าไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า, 26% ระบุว่าห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมทางการ เมืองร่วมกับพรรคหรือรัฐบาลอีกต่อไป, 17.33% ระบุว่าปลดออกจากทุกตำแหน่งในพรรคและรัฐบาล, 16.33% ระบุว่าไล่ออกจากพรรค, 4.67% ระบุว่าบีบให้ลาออกจากพรรค และ 1.33% ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ว่ากล่าวตักเตือน 
     ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการลงโทษ ส.ส.ฝ่ายค้านที่โหวตไม่เป็นไปตามมติพรรคฝ่ายค้าน พบว่า ส่วนใหญ่  53.82% ระบุว่าไม่ควรลงโทษ, 43.82% ระบุว่าควรมีการลงโทษ และ 2.36% ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ และเมื่อถามถึงรูปแบบการลงโทษ ส่วนใหญ่ 33.45% ระบุว่าไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรค, 27.70% ระบุว่าห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกับพรรคอีก, 17.07% ไล่ออกจากพรรค, 15.85% ปลดออกจากทุกตำแหน่งในพรรค, 4.53% บีบให้ลาออกจากพรรค และ 1.40% อื่น ๆ ได้แก่ ว่ากล่าวตักเตือน  
     ขณะเดียวกัน ยังคงมีความต่อเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยที่พรรคเพื่อไทย (พท.) โครงการคิดเพื่อไทย จัดเวที “ถอดรหัสอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดเบื้องหลังการฟาดรัฐบาลประยุทธ์ครั้งใหญ่ ฉบับเอ็กซ์คลูซีฟ” ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า ใช้เวลาแกะรอยการทุจริตจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) กว่า 6 เดือน แม้เสียงในสภาเราจะแพ้ แต่วันนี้สั่นสะเทือนรัฐบาลได้ ทำให้รัฐบาลโหวตเสียงแตก ไม่เป็นเอกภาพ มีกลุ่มดาวฤกษ์ เชื่อว่าหลังจากนี้จะนำไปสู่การปรับ ครม. แต่อยากให้ยุบสภาหรือหนักกว่านั้น 
     “พรรคได้รวบรวมข้อมูลหลักฐาน เตรียมดำเนินคดีต่อ ซึ่งต้นเดือน มี.ค.จะยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างน้อย 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์” นายประเสริฐกล่าว
     น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า การอภิปรายเรื่องเหมืองทองอัคราใช้เวลาเก็บข้อมูล 1 ปี   
    ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยบอกจะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.จำนวน 7 รัฐมนตรี
     ส่วนนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรค พท. กล่าวว่า หลังจากส่งหนังสือทาง EMS ถึง พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เพื่อเตือนให้รีบนำค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ได้รับฟรีจากการอยู่บ้านพักทหารเลขที่ 253/54 ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 29/2653 แล้วนั้น เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะจำนนด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะเมื่อวันที่ 16 ก.พ. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์เลี่ยงไม่ตอบเรื่องนี้ และ 2 วันต่อมาทีมงาน PMOC มาโพสต์โต้แย้งแบบฟังไม่ขึ้น ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องนำค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ได้รับฟรี ไปเสียภาษีต่อกรมสรรพากร ถ้ายังไม่เสีย กรมสรรพากรต้องตรวจสอบเพื่อประเมินภาษีพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม และหากยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ก็จำเป็นต้องไปร้องต่ออธิบดีกรมสรรพากรให้ตรวจสอบและเรียกเก็บภาษีจาก พล.อ.ประยุทธ์โดยเร็ว โดยในวันที่ 1 มี.ค. เวลา 10.30 น. จะเดินทางยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร
     ส่วนนายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรค ภท. กล่าวว่า พรรคจะจัดเสวนาเรื่อง “ชำแหละค่ารถไฟฟ้าที่เหมาะสม” วันที่ 4 มี.ค. ที่ห้องประชุมพรรคภูมิใจไทย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้ชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงชาวต่างจังหวัด ที่ต้องมาทำงานในพื้นที่เมืองหลวง สามารถเข้าถึงบริการรถไฟฟ้าในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมในชีวิตประจำวัน
     ขณะที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรค พท. กล่าวถึงกระแสข่าวก่อนรัฐสภาลงมติในวาระ 3 การแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ว่ารัฐสภาไม่มีหน้าที่และอำนาจในการแก้ไข รธน.ทั้งฉบับส่งผลให้ร่างแก้ไขที่ผ่านวาระ 2 แท้ง ว่าศาลควรนำความเห็นทางสังคม และความเห็นทางการเมือง ทั้งจากประชาชนในประเทศและชาวโลกมาประกอบการพิจารณา แม้เป็นนามธรรม โดยยังเชื่อว่าศาลจะร่วมกันหาทางออกจากปัญหา เพื่อร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นประเทศ คลี่คลายวิกฤติรัฐธรรมนูญลงได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"