เรื่องร้อน "แพทย์ทหารไทย" ในเซาท์ซูดาน แหกตาฉีด "วัคซีน" ช่วงระบาดโควิด?


เพิ่มเพื่อน    

ภารกิจรักษาสันติภาพกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน UNMISS ผลัดแรกถือว่าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ส่งไม้ต่อให้ผลัดที่ 2 ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.2563 ด้วยคำชื่นชมของสหประชาชาติ และมอบเหรียญเชิดชูเกียรติฯ ให้กำลังพลทั้ง 273 นาย ที่สามารถทำงานตามแผนงานที่ทางสหประชาชาติกำหนด และยังสร้างโรงพยาบาลสนามในค่ายเมืองจูบาเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในภารกิจเฉพาะหน้า

นำไปสู่ “เหรียญเชิดชูเกียรติฯ” อันถือเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์สากล ซึ่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ โดยทั้งหมดถือว่าเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 2531 ที่เป็นเกียรติประวัติสูงสุด และเป็นความภาคภูมิใจของผู้ที่ได้รับ

                แต่เรื่องราวไม่ได้มีแค่นั้น ตลอดระยะเวลา 1 ปี 7 เดือน ที่ทหารไทยปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เซาท์ซูดาน ถือว่านานที่สุดในประวัติศาสตร์ของทหารภายใต้หมวกของยูเอ็นที่ปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพนอกประเทศ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงไม่สามารถเคลื่อนย้าย หรือผลัดเปลี่ยนกำลังได้ และในที่สุดก็มีทหารไทยติดเชื้อ

                ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.2563 แพทย์ทหารไทย 2 นาย ซึ่งเดินทางไปในกองกำลังเฉพาะกิจ มีส่วนสำคัญในการวางแผนพิทักษ์กำลังพลที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกค่าย เพราะภารกิจหลักคือสร้างทางในพื้นที่เป้าหมายมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ แต่ปรากฏว่ามีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ในส่วนของแคมป์ทหารไทย โดยอ้างคำสั่งแพทย์ใหญ่ประจำยูเอ็นให้ดำเนินการฉีดเพื่อบรรเทาความรุนแรงในการติดเชื้อโควิด-19 แต่ในห้วงนั้นไม่พบว่ามีข่าวความผิดปกติเล็ดลอดแต่อย่างใด

                จนกระทั่งสำนักข่าวอิศราได้นำเสนอรายงานขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ประจำประเทศอังกฤษ ที่ชื่อว่า THE UNSPOKEN COVID-19 VACCINE CHALLENGES - DISTRIBUTION AND CORRUPTION หรือแปลเป็นไทยว่า ความท้าทายของวัคซีนโควิด-19 ที่ไม่เคยถูกพูดถึง กับปัญหาเรื่องการแจกจ่ายและการทุจริตให้สาธารณชนได้รับทราบ จนในที่สุดได้ตรวจสอบ และพบข้อมูลยืนยันเป็นทางการว่า เป็นเรื่องราวของนายทหารรายหนึ่งที่ถูกส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลสนามในเซาท์ซูดาน ช่วงเดือน ธ.ค.2562 - ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ก่อนที่นายทหารรายนี้จะถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่และจบภารกิจ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยในคดีฉ้อโกงหลอกลวง

โดยมีเอกสาร ทบ.ว่อนเน็ตระบุถึงความเป็นมาของเรื่องดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) จาก office of internal oversight services และกองทัพบก ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ฐานประพฤติชั่วร้ายแรง กับนายทหารรายนี้ หลังได้รับรายงานว่า มีพฤติกรรมหลอกลวงฉ้อโกงเงินกำลังพล ค่าดูแลการส่งกลับสายแพทย์ และหลอกลวงฉ้อโกงผู้บังคับบัญชา และกำลังพลให้ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในเขตทวีปแอฟริกา

โดยแอบอ้างคำสั่งของนายแพทย์ประจำการ และได้ทำการฉีดสิ่งอื่นที่ไม่ใช่วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ในเขตทวีปแอฟริกาด้วย ทั้งนี้ มีรายงานข่าวยืนยันว่า นายทหารรายนี้ ได้ขาดราชการโดยไม่ทราบสาเหตุ ไปตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2563 จนถึงปัจจุบันแล้ว

จึงน่าจะเป็นกรณีเดียวกันกับที่ ทบ.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ ร้อยโทนายแพทย์จิณณวัตร เจรียงโรจน์ กรณีไปปฏิบัติหน้าที่ราชการสนาม ในตำแหน่ง นายแพทย์ โรงพยาบาลสนามระดับ 1 กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ชูดาน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เชาท์ซูดาน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยผลการสอบสวนสรุปได้ว่า ร้อยโทนายแพทย์จิณณวัตรมีการกระทำผิดเป็น 2 กรณี

“กรณีที่หนึ่ง มีพฤติกรรมหลอกลวงเกี่ยวกับเรื่องการจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงเดินทางให้กับกำลังพล และกรณีที่สอง มีพฤติกรรมหลอกลวงผู้บังคับบัญชาและกำลังพลของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ แต่กลับนำสารอื่นเข้าสู่ร่างกายกำลังพล โดยเฉพาะกรณีที่สอง จากการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่า ร้อยโทนายแพทย์จิณณวัตรแอบอ้างว่า นายแพทย์ประจำภารกิจ สั่งการให้กำลังพลแต่ละประเทศ ดำเนินการฉีดวัดชีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อลดความรุนแรงกรณีไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ ถ้ากำลังพลไม่ดำเนินการฉีดวัคซีนดังกล่าว อาจทำให้ถูกส่งตัวกลับประเทศได้”

ทั้งนี้ กำลังพลที่สนใจฉีดวัคซีนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อวัคซีน คนละ 21 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีกำลังพลสนใจที่จะฉีดวัคซีน จำนวน 268 นาย และนำเงินให้ร้อยโทนายแพทย์จิณณวัตรเป็นผู้ดำเนินการจัดหาวัคซีน ต่อมาร้อยโทนายแพทย์จิณณวัตรได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับกำลังพล จำนวน 211 นาย ด้วยตนเอง ส่วนกำลังพลที่ยังไม่ได้ดำเนินการฉีดวัคซีน ปรากฏว่าผู้บังคับบัญชาขอดูฉลากยืนยันตัวก่อน และพบว่าวัคซีนที่นำมาฉีดไม่มีฉลาก ผู้บังคับบัญชาจึงได้นำวัคซีนดังกล่าวไปตรวจสอบ โดยผลการตรวจสอบพบว่าสารดังกล่าวไม่ใช่วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ได้รายงานการสอบสวนดังกล่าวตามสายการบังคับบัญชา ซึ่งกองบัญชาการกองทัพไทยได้มีคำสั่งให้ร้อยโทนายแพทย์พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสนาม ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.2563 และ ทบ.ได้มอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบกดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้ว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน

                หลังผลสอบสิ้นสุด ทาง “กรมแพทย์ทหารบก” ได้ส่งเจ้าหน้าที่แจ้งความนายแพทย์ดังกล่าวกับผู้บังคับการ ตร.ภูธร จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีการออกหมายจับไปเมื่อเดือน ก.ค.2563 เพื่อให้ตามจับกุมในข้อหาหนีราชการทหาร โดยมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะทำผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่า 3 ปี และมีเหตุอันเชื่อได้ว่าจะหลบหนีจึงได้ออกหมายจับ โดยให้ส่งตัวกลับไปยังกรมแพทย์ทหารบกหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ อายุความทั้งหมด 10 ปี แต่ปรากฏว่าร้อยโทนายแพทย์จิณณวัตรได้เปลี่ยนชื่อไปแล้ว

                ช่วงที่ยังไม่กลับประเทศไทย แต่เรื่องแดงก่อน เนื่องจากถูกจับได้ เพราะผลของการตรวจสอบพบว่า “วัคซีนดังกล่าว” เป็นวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักเกรดต่ำ ระหว่างนั้นนายแพทย์คนดังกล่าวได้ไปรักษาตัวไปที่ รพ.สนามของอินเดีย โดยระบุเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพื่อขอส่งตัวกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุด และไม่ได้ชี้แจงเรื่องราวต่างๆ รวมถึงไม่ให้ทหารในหน่วยเฉพาะกิจของไทยตามตัวไปพบ โดยเกรงว่าจะถูกคุกคาม 

                อย่างไรก็ตาม เมื่อนายแพทย์คนดังกล่าวเดินทางมาถึงได้นัดผู้สื่อข่าว นักสิทธิมนุษยชนมารอที่สนามบิน และได้เดินทางกลับไปที่พัก

นอกจากนั้น มีข่าวว่าทางครอบครัวได้ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมกับศาลปกครอง และเรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป จนกระทั่งมีการเปิดเผยจากองค์กรโปร่งใสนานาชาติในเวลาต่อมา ซึ่งต้องรอให้เจ้าตัวต่อสู้ทางคดี และเปิดปากอธิบายข้อเท็จจริงอีกทางหนึ่งต่อไป.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"