ปิดฉากม็อบตีหม้อ???


เพิ่มเพื่อน    

      ขนาด หัวโต...ผู้ถูกตั้งชื่อ ฉายา หรือตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็น ศาสดาม็อบ 3 นิ้ว ยังต้องออกมาติง มาเตือน ว่าน่าจะ กลับบ้านไปนอนดีกว่า แต่บรรดา ม็อบตีหม้อ หรือม็อบที่ประกาศอย่างภาคภูมิใจซะเหลือเกินว่า ไร้แกนนำ กลับมุ่งมั่นที่จะเดินหน้า มุ่งที่จะ ใส่ กันแบบสุดฤทธิ์ สุดหลอด การไล่ทุบ ไล่ถีบ ไล่กระทืบ สาดกระสุนยาง สาดแก๊สน้ำตา ฯลฯ ก็จึงอุบัติขึ้นมาเมื่อวันวาน อย่างชนิดไม่น่าจะเป็นเรื่อง แต่ก็ยังเป็นเรื่องจนได้!!!

                                  ---------------------------------------------------

                คือจะด้วยเหตุเพราะเห็น ม็อบเคาะหม้อ ของพม่า เมียนมา กลายเป็นข่าวใหญ่ ข่าวโต ระดับแพร่สะพัดไปทั่วทั้งโลกหรือไม่ ประการใด ก็มิอาจทราบได้ ม็อบตีหม้อ ของบ้านเรา ก็เลยคิดจะเอากะเค้ามั่ง การจัดชุมนุมประท้วง บิ๊กตู่ ที่เพิ่งถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาไปหมาดๆ ต้องอดทน อดกลั้น อยู่ถึง 4 วัน 4 คืน ต่างไปจากฉากเหตุการณ์ในพม่าแบบคนละเรื่อง คนละม้วน มันจึงกลายเป็นความพยายาม ยกระดับความรุนแรง ทั้งๆ ที่แทบไม่ได้มี เงื่อนไข และ ข้ออ้าง ให้ต้อง แดง-ไม่แดง...แต่ขอให้แรงเข้าว่า เอาเลยแม้แต่น้อย โอกาสที่จะสร้างแนวร่วม ขยายแนวร่วม ด้วยการเอาตัวเข้าแลกในลักษณะดังกล่าว จึงแทบไม่ต่างอะไรไปจากแนวคิดทฤษฎี อันว่าด้วยการ สามัคคีทุกฝ่าย-ทำลายตัวเอง นั่นแล...

                                      -----------------------------------------------

                ว่าไปแล้ว...คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า ไม่ว่าผู้ที่อยู่ เบื้องหลัง หรือ เบื้องหน้า ของม็อบ 3 นิ้วบ้านเรา ค่อนข้างจะหนักไปทาง เบบี้ทางการเมือง มาโดยตลอด ไม่ว่าในแง่ของการเกาะกลุ่ม รวมตัว หรือการ จัดตั้ง ไปจนถึงการขยายความคิด ความอ่าน หรือการแสวงหา แนวร่วม เพื่อให้เกิดความเห็นด้วย เห็นพ้องต้องกัน กับบรรดาผู้คนในแต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย หรือแม้แต่ละชนชั้น ฯลฯ ก็ตาม คือไม่ใช่แค่ออกอาการ ใจร้อน-ใจเร็ว แบบเด็กๆ หรือ หยาบๆ-คายๆ ในระดับพ่อมม์ม์ม์แม่มม์ม์ม์ไม่สั่งสอนเท่านั้น แต่การกำหนดจุดยืน จุดมุ่งหมาย ทัศนะ และวิธีการ ก็ยังเป็นอะไรที่ออกจะเตลิดเปิดเปิง เข้ารก-เข้าพง หรือ เหาะเกินลงกา ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ใช่ ซูเปอร์แมน ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...

                                      ------------------------------------------------

                ความพยายามที่จะออกแรงฮึด ออกแรงสู้ มันเลยหนีไม่พ้นต้อง เหี่ยวปลาย ลงไปตามลำดับ คือยิ่งสู้...ยิ่งเพื่อนหาย หรือแม้แต่หัวยังหาย ไม่ก็หันมากัดกันเอง ฟัดกันเอง จนไม่ต่างอะไรไปจากการ คบเด็กสร้างบ้าน ที่ไม่ว่าชนะ หรือแพ้ โอกาสที่จะฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ บรรดาความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ความเจ็บปวดและทรมานมันจึงค่อนข้างออกไปทาง สูญเปล่า อย่างน่าเสียดาย ยิ่งต้องมาติดคุก ติดตะราง ตั้งแต่เด็กๆ ยิ่งเป็นอะไรที่น่าใจหาย เพราะยังเหลือ ชีวิต อีกตั้งครึ่ง ตั้งค่อน ที่ยังเป็นตัว ตั้งคำถาม ให้ต้องหาคำตอบ ก่อนที่จะลา-ละ-สลดไปจากโลกใบนี้...

                                    ------------------------------------------------

                และด้วยเหตุเพราะความเป็น เด็กสร้างบ้าน นี่เอง...เลยทำให้ผู้ที่ตัวเองจัดให้เป็น ฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งล้วนแล้วแต่แก่แสนแก่ แถมยังหนักไปทาง ขิงแก่ หรือ ยิ่งแก่-ยิ่งเผ็ด ซะอีกต่างหาก แค่เฉพาะ บิ๊กตู่ รายเดียวก็แทบไม่ต้องเสียเวลาบรรยายสรรพคุณเอาเลยแม้แต่น้อย แม้จะออกอาการขี้โกรธ ขี้ยัวะ ยังไงก็ตามที แต่การที่สามารถประคับประคองตัวเองให้อยู่รอด-ปลอดภัย มาถึง 6 ปี 7 ปี ใกล้จะทำสถิติเดียวกันกับอดีตรัฐบุรุษอย่าง ป๋าเปรม เข้าไปแล้ว อันนี้...คงต้องถือว่า แคช มี อิฟ ยู แคน อย่างมิอาจปฏิเสธได้ คือต้องมีขีดความสามารถในการร่อนไป-ร่อนมาได้อย่างผีเสื้อ ต่อยเจ็บได้เหมือนผึ้ง ไม่น้อยไปกว่า มูฮัมหมัด อาลี หรือ เดอะ แบล็ก ซูเปอร์แมน โน่นเลย มันถึงจะมีวันนี้ หรือมาได้ถึง ณ ขณะนี้...

                                   --------------------------------------------------

                การขาดประสบการณ์ ขาดความเชี่ยวชาญ ของบรรดาหนูเล็กๆ และเด็กๆ ทั้งหลาย ไปจนแม้กระทั่งพวก แก่แล้ว-แก่เลย ที่ซุกอยู่ใน ช่องระบายลมผ่าน (รูตูด) ของพวกเด็กๆ นั่นเอง ที่เลยทำให้ บิ๊กตู่ ยังคงสามารถอยู่รอด-ปลอดภัยได้จนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้จะถูกด่า ถูกว่า ถูกประณาม หยามเหยียด หรือแม้จะอยู่ในช่วง ขาลง เพียงใดก็แล้วแต่ อีกทั้งความพยายามที่จะขยาย ศัตรู ให้กว้างไกลไปกว่าอารมณ์-ความรู้สึกของผู้คนที่เติบโตขึ้นมาภายในแผ่นดินเดียวกันกับตัวเอง เพียงแต่แค่ต่างอายุ-อานาม ต่างวัย แค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้นเอง จนกลายสภาพเป็นการเผชิญหน้าระหว่าง ไดโนเสาร์ กับ กิ้งก่า หรือ กะปอม ไปจนได้ ก็ยิ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง...มีแต่ยิ่งยาก ลำบาก ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

                                 -----------------------------------------------------

                ความคิดที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือ ปฏิรูป อะไรต่อมิอะไรก็ตาม ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นๆ ไปตามลำดับ มันจึงเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว ซะยิ่งกว่าการ ปฏิวัติ เผลอๆ...ออกไปทาง ปฏิเว็จ กันซะอีกต่างหาก คือทั้งหยาบ ทั้งคาย ทั้งลามก จกเปรต จนยากซ์ซ์ซ์ที่จะก่อให้เกิดความเห็นด้วย ความเห็นพ้องต้องกัน ในหมู่ผู้คนอันสุดแสนจะหลากหลาย ที่ต่างก็เกิดและเติบโตภายในแผ่นดินเดียวกัน เพราะการ เห็นควรด้วย ในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี มันอาจส่งผลให้ใครก็ตาม ย่อมมีสิทธิ์ ด้วน เอาง่ายๆ ดังนั้น...จึงไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ที่ทุกสิ่งทุกอย่างเลยมีอันต้อง เหี่ยวปลาย ยิ่งคิดจะหันไป ยกระดับความรุนแรง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มี เงื่อนไข และ ข้ออ้าง เหมือนอย่าง ม็อบเคาะหม้อ ของพม่าเอาเลยแม้แต่น้อย ก็ยิ่งกลายเป็นการเตลิดเปิดเปิง เข้ารก-เข้าพง ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

                                  -----------------------------------------------------

                แต่ก็อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...ความ เหี่ยวปลาย ของ ม็อบตีหม้อ หรือของพวกเด็กๆ ในบ้านเรา ก็ใช่ว่าจะถือเป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่ง ความยืนยง คงทน ของฝ่ายตรงกันข้าม หรือของผู้มีอำนาจอย่างนายกฯ บิ๊กตู่ เอาเลยแม้แต่น้อย เพราะตราบใดก็ตาม...ที่สิ่งซึ่งถือเป็น เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย อันมีโอกาสนำมาซึ่งความไม่สงบเรียบร้อย มันยังไม่ถูกขจัด กวาดล้าง ลงไปให้หมดสิ้นไปทั้งแผง หรือให้ทุเลา เบาบาง กว่าเท่าที่เคยเป็นมาในอดีต ไม่ว่าความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ความยากดีมีจน ความไม่ถูกต้องตามครรลอง-คลองธรรม หรือไม่ยุติธรรม ฯลฯ ยังคงปรากฏให้เห็นกันแบบจะจะจังๆ โอกาสที่จะเกิดการ จุดไฟในนาคร ชนิดลุกพรึ่บบ์บ์บ์ หรือลุกลามระดับประกายไฟไหม้ลามทุ่ง แบบเดียวกับ ม็อบพม่า ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย...

                                   --------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Karl Marx (อีกครั้ง)... “Success, arrogance and justice, then downfall. – ความสำเร็จ ความหยิ่งยโส และความอยุติธรรม จะมาก่อน...จากนั้นความหายนะจะตามมา...”

                                    -------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"