ชัยวุฒิ-ตรีนุชเสียบเก้าอี้รมต.


เพิ่มเพื่อน    

  “พี่ใหญ่ป้อม” ส่งรายชื่อ 2 รัฐมนตรีใหม่ถึงมือ “น้องตู่” แล้ว สะพัด! “ชัยวุฒิ” เต็งจ๋าคั่ว “รมว.ศึกษาฯ หรือ รมต.สำนักนายกฯ แทน “อนุชา” ที่มีโอกาสไปนั่งว่าการดีอีเอส “ตรีนุช” แรงจ่อสลับเก้าอี้ “อิทธิพล” กลุ่ม 3 ช.-กปปส.ส่อแห้วหมด “ปชป.” ลั่น “ถาวร” ยังเป็น ส.ส.อยู่ พร้อมแก้ต่างในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ สัปดาห์หน้าฝ่ายค้านเริ่มยุทธการโรยเกลือ ประเดิมที่ “ประยุทธ์-จุรินทร์”

เมื่อวันพุธที่ 3 มีนาคม ยังคงมีความต่อเนื่องในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า โดยเฉพาะประเด็นที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติมอบอำนาจให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ  ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นผู้ตัดสินใจ ว่าเคารพทั้งในกติกาพรรคการเมือง แต่ตนก็มีหน้าที่คัดสรรคนที่เสนอเข้ามาเพื่อบรรจุเป็นรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งก็คงไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นและขอให้รอดูแล้วกันว่านายกฯ จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายอย่างไร ซึ่งคงไม่นานนัก
ส่วน พล.อ.ประวิตร ซึ่งลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำบางปะกง กล่าวว่า เรื่องภายในพรรคเรียบร้อยดี ส่งไป 2 ชื่อ ส่วนจะห้ามไม่ให้คนในพรรคให้สัมภาษณ์หรือไม่ กว่ารายชื่อจะออกมานั้น คงไม่มี มันอยู่ที่ตนคนเดียว ก็บอกไปแล้วตอนสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 ก.พ.นี้ ก็ฝากบอกไปด้วยสิ อยู่ที่ตนคนเดียว ส่งรายชื่อคนเดียว คนอื่นไม่ได้ส่ง คนอื่นไม่รู้ว่าใคร
    ต่อในเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับสื่อมวลชนที่มาดักรอสัมภาษณ์ว่า "ถามทุกวันเลยนะ เช้าก็ถาม บ่ายก็ถาม" จากนั้นเมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตรระบุว่าได้ส่งรายชื่อแคนดิเดตว่าที่รัฐมนตรีถึงนายกฯ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธว่า "ไม่เห็น"
    มีรายงานแจ้งว่า เมื่อช่วงบ่าย พ.อ.สุชาติ จันทร์โชติกุล ผู้ก่อตั้งพรรค พปชร. และในฐานะเพื่อนโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้ามาพบ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาล และให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เดินทางมากรุงเทพฯ จึงถือโอกาสมาพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอพรในวันคล้ายวันเกิด 3 มี.ค. และพูดคุยกันตามประสาเพื่อน ไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม.หรือต่อรองเก้าอี้ในโควตาภาคใต้ของ พปชร. ควรให้นายกฯ เลือกคนที่เหมาะสม หากเสนอชื่อตนเองก็ไม่รับ
“การที่บอกว่าจะต้องมีรัฐมนตรีตามภาคนั้น ถือเป็นค่านิยมเก่าๆ เมื่อไม่มีคนที่เหมาะสม ก็ไม่ควรไปฝืน ในเมื่อภาคใต้ไม่มีเราก็ต้องยอมรับ จะมารวบรวมกันเป็นมุ้ง เป็นกลุ่ม แล้วมาเรียกร้องมันโบราณเกินไปแล้ว เลิกเถอะระบบนี้” พ.อ.สุชาติกล่าว
มีรายงานจากพรรค พปชร.ถึงความคืบหน้าในการปรับ ครม.แจ้งว่า รายชื่อที่คาดหมายว่า พล.อ.ประวิตรเสนอไปให้นายกฯ คือ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ซึ่งเป็นตัวสำรองเบอร์ 1 หากมีการปรับ ครม. เพราะทำงานร่วมกับพรรคมาตั้งแต่ต้น มีความสนิทสนมกับกลุ่มทุนใหญ่สายพลังงาน ทั้งยังคุ้นเคยกับนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลฯ และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ อาจเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ หรืออาจไปเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ แทนนายอนุชา นาคาศัย ที่ขยับไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ
“หลานเสนาะ”มาแรง
ส่วนอีกคนมีชื่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 5 สมัย หลานสาวนายเสนาะ เทียนทอง นักการเมืองอาวุโสที่ พล.อ.ประวิตรสนิทสนมคุ้นเคยตั้งแต่สมัยเป็นทหารประจำการอยู่ที่ จ.สระแก้ว และเคยมีความพยายามผลักดันให้เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ช่วงแรกๆ เพราะเป็นตระกูลที่ยอมให้ใจย้ายข้ามฟากมาจากพรรคเพื่อไทย และไม่เคยทำตัวเป็นเด็กดื้องอแงเรียกร้องอะไร โดยมีรายงานว่า? น.ส.ตรีนุชเป็นชื่อที่มาแรง? โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่? 3? มี.ค.? พล.อ.ประวิตรได้เรียกเข้าพบด้วย? โดยอาจไปดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม สลับนายอิทธิพล คุณปลื้ม จากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ไปดำรงตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลฯ ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่คนสำคัญระดับอดีตบิ๊กทหาร
รายงานแจ้งอีกว่า เหตุผลสำคัญที่ พล.อ.ประวิตรเป็นผู้พิจารณาและเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีต่อนายกฯ เพียงผู้เดียวนั้น เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือความขัดแย้งภายในพรรคขึ้นอีก เนื่องจากแกนนำกลุ่มสำคัญในพรรคต่างต้องการตำแหน่งใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม 3 ช่วย ที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่พยายามผลักดันตนเองขึ้นเป็น รมว.แรงงานแทนที่นายสุชาติ ชมกลิ่น พร้อมๆ กับดันนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร คนใกล้ชิด เข้ามาแทนที่ตัวเอง แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากผู้ใหญ่ ขณะที่นายสุชาติก็พยายามเข้าหาผู้ใหญ่เพื่อรักษาเก้าอี้ตัวเองเช่นกัน ช่วงนี้จึงมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ก็ต้องการไปเป็น รมช.การคลัง หรือรัฐมนตรีว่าการ ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้ใหญ่ โดยหลังการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 2 มี.ค. นางนฤมลมีสีหน้าอาการผิดหวังอย่างชัดเจน ดังนั้นสูตรการปรับ ครม.ของกลุ่ม 3 ช่วย มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไป
รายงานแจ้งด้วยว่า ที่? พล.อ.ประวิตรพูดในที่ประชุม? กก.บห.เมื่อวันที่? 2? มี.ค. ว่าอย่าไปวิ่งเต้นกับนายกฯ นั้น? พล.อ.ประวิตรต้องการสื่อถึงกลุ่ม? กปปส.ในพรรค หลังทราบว่านายณัฏฐพลพยายามเข้าหา? พล.อ.ประยุทธ์? เพื่อผลักดันนายชาญวิทย์? วิภูศิริ? ส.ส.กทม.?คนสนิท?มาเป็น? รมว.ศึกษาธิการ? ซึ่งต้องจับตาดูว่า? พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร
    นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะรองหัวหน้า พปชร.ยืนยันว่า การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นผู้ที่พวกเราให้ความเคารพนับถือ เป็นศูนย์ร่วมจิตใจของคนในพรรคอยู่แล้วที่จะตัดสินใจนำเสนอนายกฯ พิจารณา ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมในพรรคได้อีกนั้น ไม่ทราบ เป็นเรื่องหัวหน้าพรรคบริหารเรื่องนี้
    เมื่อถามว่า หากถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี จะไม่เสียใจใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่การบริหารงานเพื่อชาติบ้านเมือง และความเหมาะสม ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ
    นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.ย้ำว่า เป็นสิทธิ์เด็ดขาดของ พล.อ.ประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรค ที่จะหารือร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีการพิจารณาตำแหน่งตามรายภาค และไม่มีใครพูดอะไรเยอะแยะ ส่วนจะมีรัฐมนตรีใดที่ต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ คิดว่าไม่มี เท่าที่พูดคุยมีเพียง 2 ตำแหน่งที่ต้องเสนอขึ้นไป ส่วนที่มีกระแสว่าจะไปดำรงตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมนั้น อยู่ที่ผู้ใหญ่อย่างเดียว ทำงานตรงไหนก็ได้ เพราะเป็นคนตั้งใจทำงาน และจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว
    นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และกรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวเช่นกันว่า การปรับเปลี่ยนเบื้องต้นจะมีเฉพาะตำแหน่งที่ว่างลง ส่วนจะเกลี่ยหรือจะปรับเปลี่ยนอย่างไร ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคและนายกฯ และผู้ที่จะมาเป็นไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็น กก.บห.พรรค ตรงนี้ถือเป็นหลักการ และยังไม่รู้ว่า พล.อ.ประวิตรจะเลือกใคร
ย้ำ"ถาวร"ยังเป็น ส.ส.
    ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวเรื่องนี้ว่า ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ จากนายกฯ เพราะอำนาจเป็นของนายกฯ ที่จะเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการปรับ ครม. โดยต้องแจ้งมายังพรรคร่วมรัฐบาล สำหรับโควตาของพรรคนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคพูดชัดแล้วว่าให้เป็นหน้าที่ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค เป็นผู้ประสานงาน
นายราเมศยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาว่า พรรคเคารพในดุลพินิจของ กกต. และในฐานะทีมกฎหมายของพรรคก็พร้อมชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในศาลรัฐธรรมนูญต่อไปตามกระบวนการ ซึ่งในกรณีของนายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร คงไม่มีข้อกฎหมายที่สลับซับซ้อน เพราะมีกรณีเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งอยู่ด้วย แต่เมื่อ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็รอกระบวนการพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
    นายราเมศกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลานั้น มีความแตกต่างจากทุกกรณี เพราะมีเพียงโทษจำคุก ซึ่งยืนยันว่ายังคงความเป็น ส.ส.ชอบตามรัฐธรรมนูญ ส่วนรายละเอียดไม่ขอพูดถึง เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการที่ กกต.ได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ก็จะได้นำเสนอต่อศาลต่อไป มั่นใจว่าความเป็น ส.ส.ของนายถาวรยังชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ
    “สิ่งที่น่าสนใจคือ การที่สำนักงานเลขาธิการสภาทำหนังสือแจ้งไปยัง กกต. โดยได้ระบุประเด็นที่น่าสนใจ เช่น รัฐธรรมนูญมาตรา 125 ไม่อนุญาตให้จับกุมคุมขัง ส.ส.ในระหว่างสมัยประชุม ดังนั้นการที่ศาลสั่งคุมขังในสมัยประชุมอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ 5 ส.ส.ไม่สิ้นสุดลงหรือไม่ ตรงนี้จะเป็นประเด็นหนึ่งที่เราจะนำไปประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของนายถาวร ขณะนี้ต้องรอกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ซึ่งกรณีนายถาวรต่างจากกรณีของนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะศาลไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากต้องโทษถึงประหารชีวิต ในช่วงปิดสมัยประชุม” นายราเมศกล่าว
    นายราเมศยังกล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค ไม่เห็นด้วยกับการส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยระบุว่าต่อไปหาก ส.ส.ตายต้องส่งตีความหรือไม่ ว่าหาก ส.ส.ตายไม่ต้องส่งไปตีความ แต่ส่งไปวัดเลย ซึ่งการจะให้ความเห็นในประเด็นข้อกฎหมาย ควรคำนึงถึงความเป็นอดีต กกต.ด้วย และเชื่อว่า กกต.ปัจจุบันมีเหตุผลที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในครั้งนี้
ประเดิมชงฟัน"บิ๊กตู่-อู๊ดด้า"
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.มีมติ สำนักงานต้องจัดทำคำร้อง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่วันจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
    วันเดียวกัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในวันที่ 10 มี.ค. พรรคจะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในประเด็นที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับกระทรวงพาณิชย์ โดยจะยื่น 2 รายคือ พล.อ.ประยุทธ์และนายจุรินทร์ ฐานทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนในประเด็นอื่นๆ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะตั้งคณะทำงาน เพื่อนำไปสู่การยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
    นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป พรรคก็จะดำเนินการเช่นกัน ทั้งกรณีกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ว่าไม่ได้นำค่าน้ำค่าไฟมาคำนวณภาษีเป็นเงินได้พึงประเมินในการเสียภาษี รวมทั้งกรณีที่ดินจะนะ และกรณีตั๋วช้าง โดยจะยื่นร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
    ส่วนนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า พรรคจะยื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในเร็วๆ นี้เช่นกัน.    

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"