คลายล็อกเล่นสงกรานต์ ศบค.พบหมอแพ้วัคซีน


เพิ่มเพื่อน    

คนไทยเฮ! "บิ๊กตู่" แย้มปีนี้ได้เล่นน้ำสงกรานต์ สมช.ยันคุมโควิดได้แล้ว กลางเดือนนี้ปลดล็อก ผ่อนมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินภายใน 2-3 เดือน ศบค.เผยติดเชื้อใหม่ 35 ราย พบหมอสมุทรสาครมีอาการแพ้วัคซีนรุนแรง

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 การจัดกิจกรรมต่างๆ ช่วงวันสงกรานต์ว่า คาดหวังว่าจะมีโอกาสในเรื่องของการเดินทาง ซึ่งวันนี้จะเห็นว่าเราไม่ได้มีการปิดกั้นอะไรในการเดินทาง อย่างช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมา มีการเดินทางไปในพื้นที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก มีการจองที่พักเยอะ ค่อนข้างแน่น การจราจรก็ติดขัด เนื่องจากทุกคนช่วยกันระมัดระวังตัวเอง ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ทุกคนเรียนรู้ว่าจะอยู่กับโควิด-19 อย่างไร จนกว่าจะผ่านพ้นไป และยินดีที่มีการฉีดวัคซีนไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรมและทั่วถึง
    นายกฯ กล่าวว่า วัคซีนมีเป็นล็อตๆ มา เดี๋ยวจะปรับเพิ่มให้ ซึ่งดูแลไปถึงจังหวัดที่มีการท่องเที่ยวด้วยจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่จะเอาเป็นเอาตายกันในล็อตแรกนี้ ยังมีล็อตสองสามสี่ห้า และอาจจะอีกหลายๆ ล็อต ถ้าเอกชนสามารถเข้ากติกาการตรวจสอบคัดกรองประสิทธิภาพวัคซีนขององค์การอาหารและยา (อย.) ได้ เปิดกว้างทั้งหมด ซึ่งเป็นการใช้ในสถานการณ์ทางการแพทย์ฉุกเฉิน เมื่อทุกอย่างสามารถควบคุมได้ในวาระแรก ต่อไปก็ไม่ใช่ฉุกเฉิน จะใช้ในสถานการณ์ปกติได้ เหมือนไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้กำลังประสานกัน สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว บางประเทศมีดำริว่าถ้าฉีดแล้วมีใบประกอบพาสปอร์ตไปได้หรือไม่ในการเดินทาง จึงให้ประสานหารือผ่านกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว
    ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า กิจกรรมสงกรานต์ได้หารือแล้วหรือยังว่าสามารถดำเนินกิจกรรมอะไรได้บ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กำลังหารือกันอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดด้วยไม่ใช่หรือ ถ้าเปิดหมดแล้วเกิดเรื่องขึ้นมาจะทำกันอย่างไร แก้ไขกันอย่างไร บอกมาด้วยแล้วกัน จึงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะทำอะไรได้บ้าง จะปลดล็อกบางอย่างหรือปลดล็อกทั้งหมด ถ้าระบาดขึ้นมาก็โทษกลับมาที่รัฐบาลอีก ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายนัก เพราะต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ  
    นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 25 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 17 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 8 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 26,108 ราย หายป่วยสะสม 25,483 ราย อยู่ระหว่างรักษา 541 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 84 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 115,298,908 เสียชีวิตสะสม 2,560,602 ราย  
    สำหรับภาพรวมการฉีดวัคซีนที่ผ่านมา มีบุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย ที่มีอาการแพ้วัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร เบื้องต้นบุคลากรทางการแพทย์คนดังกล่าวมีอาการหลังการฉีดวัคซีน 3 ชั่วโมง แต่ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว กรณีนี้จะได้นำไปศึกษาเพื่อวางมาตรการต่อไป อย่างไรก็ตาม มีแนวคิดปรับลดขั้นตอนการฉีดวัคซีน เพื่อให้ระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น และป้องกันการรวมกลุ่มกันมากๆ รวมถึงได้มีการสั่งการให้สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในจังหวัดต่างๆ ที่เริ่มทยอยฉีดวัคซีนเตรียมพร้อมรับมือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน พร้อมกันนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้ฝาก สสจ.ว่าให้สื่อสารกับประชาชนเกี่ยวกับรายละเอียดการฉีดวัคซีนเพื่อลดความกังวล และแน่นอนว่าหากฉีดมากก็จะเจอผลข้างเคียงมาก แต่เรามีมาตรการรองรับ  
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก สนับสนุนเรื่องการขับเคลื่อนการเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานสถานการณ์ภาพรวมว่าสถานการณ์ขณะนี้เราควบคุมได้ และมีวัคซีนเข้ามาต่อเนื่อง จึงอยากให้ภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ ผู้จัดกิจกรรม ทำความเข้าใจกับมาตรการต่างๆ ที่จะออกมา อย่างไรก็ตาม มีบางจังหวัดที่ยังต้องดูแลเข้มงวดสูงสุดคือสมุทรสาคร และเมื่อข้อมูลต่างๆ ดีขึ้น จะมีมาตรการผ่อนคลายลดลงไปอีก แล้วในที่สุดจะเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่ที่อยู่กับเราได้ แต่ทุกคนคงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
    พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กล่าวถึงการผ่อนปรนมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า นายกฯ ได้สั่งการให้ตนพิจารณา ตอนนี้รอทางด้านสาธารณสุขประเมินสถานการณ์ คาดว่ากลางเดือน มี.ค.นี้หากสถานการณ์ชัดเจนขึ้นจะมีการลดระดับลงไปอีก เพื่อเตรียมผ่อนคลายในช่วงสงกรานต์ และได้ประสาน สธ.เพื่อที่จะผ่อนคลายมาตรการกักตัวสำหรับคนที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย นี่เป็นสองเรื่องใหญ่ๆ ที่นายกฯ สั่งการมายัง ศบค. และทาง ศบค.ชุดเล็กต้องนำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งต้องการให้ผ่อนคลายเพื่อเป็นของขวัญกับคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์
    ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในขณะนี้จะเป็นสัญญาณได้หรือไม่ว่าถึงเวลาที่จะผ่อนคลายให้คนไทยเล่นสงกรานต์ได้แล้ว พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ได้ เพราะเราคงต้องอยู่กับตัวเลขการแพร่ระบาดโควิด-19 ประมาณนี้ คงไม่ได้อยู่กับตัวเลขเป็นศูนย์อีกแล้ว เพราะตัวเลขหลักสิบทาง สธ.สามารถควบคุมจัดการได้ ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น และจากที่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่า สธ.ประเมินว่าเราสามารถผ่อนคลายได้กลางเดือน มี.ค.นี้เราจะได้ลดระดับลงไปอีกจากระดับในปัจจุบัน
    เลขาธิการ สมช.กล่าวถึงการผ่อนคลายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ว่าได้เรียนกับนายกฯ แล้ว เพราะมีมาตรการบางอย่างซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เราต้องเตรียมแผนที่จะลดระดับลง อาจจะภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อที่จะใช้กฎหมายปกติ ปัจจุบัน ศบค. ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพียงเรื่องการป้องกันโรคติดต่อ สิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็น เช่น การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยทุกประเทศ แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ก็สามารถที่จะไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้
    นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการจัดงานเทศกาลสงกรานต์และวันขึ้นปีใหม่ของไทยว่า  ในปีนี้กระทรวงวัฒนธรรมเห็นว่าสามารถจัดกิจกรรมวัฒนธรรมประเพณี ทำบุญ เหมือนอดีตที่เคยจัดก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ แต่ให้เข้มงวดเรื่องมาตรการป้องกันโรค เว้นระยะห่าง และจำกัดจำนวนคนเข้าพื้นที่ โดยถนนสายสำคัญที่เคยมีการจัดกิจกรรม เช่น ถนนข้าวสาร และถนนสายอื่นๆ ให้เจ้าภาพที่จะจัดเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้ และในปัจจุบันเราเริ่มมีวัคซีนที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีแพทย์หญิง รพ.สมุทรสาคร เกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนโควิด-19 ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าอาการที่เกิดขึ้นกับแพทย์หญิงคนนี้ ทั้งอาเจียน ความดันโลหิตตกเหลือ 90/50 มิลลิเมตร ปรอทและชีพจรเบา เกิดจากการแพ้วัคซีนโควิดที่ได้รับ ต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการวัคซีนฝ่ายวิชาการ ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านภูมิแพ้ คาดว่าทราบผลในสัปดาห์นี้
    ขณะนี้แพทย์หญิงคนดังกล่าวอาการดีขึ้นแล้ว แต่ยังต้องนอนรักษาที่ รพ. สืบประวัติพบว่ามีประวัติการแพ้ยาเพนิซิลลิน (ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย) มาตั้งแต่เด็ก เกิดอาการหลังรับวัคซีน 5 ชม. ซึ่งปกติการเกิดความรุนแรงจากวัคซีนจะเกิดทันที ภายใน 15 นาที ไม่เกิน 30 นาที จึงต้องรอการสอบสวนก่อน เพราะส่วนใหญ่ของคนแพ้รุนแรงที่มีอาการช็อก ต้องมีอาการผื่นร่วมด้วย สำหรับแพทย์หญิงคนนี้ไม่มีผื่นขึ้น และหลังได้รับยาอะดรีนาลีนกระตุ้นความดันโลหิตมีอาการดีขึ้น
    ส่วนยอดการรับวัคซีนโควิด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ถึง 2 มี.ค.64 มีผู้รับวัคซีนไปแล้ว 7,282 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 6,784 คน เจ้าหน้าที่อื่น 365 คน โรคประจำตัว 22 คน ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 91 คน ส่วนการพบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์ พบรวม 20 คน โดย 19 คนไม่รุนแรง และรุนแรง 1 คน (คือ พญ.วัย 28 ปี)
    ที่ รพ.นครพิงค์?เชียงใหม่? พญ.ลัดดาวัลย์ หาญไพโรจน์ รอง ผอ.รพ.นครพิงค์ พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลนครพิงค์ แถลงข่าวชี้แจงกรณีการที่มีสื่อออนไลน์เสนอข่าวว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ได้การจัดสรรมาจำนวน 3,500 โดส มีกลุ่มวีไอพีลัดคิวฉีดวัคซีนก่อนบุคลากรทางการแพทย์ว่า  เรื่องดังกล่าวนี้เป็นการเข้าใจผิดของบุคลากรของโรงพยาบาลนครพิงค์เองที่เกิดจากความคลาดเคลื่อนในการประสานงานส่งรายชื่อของผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีน โดยการฉีดวัคซีนวันแรกนั้น รพ.นครพิงค์รับหน้าที่ฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรของ รพ.นครพิงค์จำนวน 455 คน บุคลากรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ 26 คน บุคลากรกรมควบคุมโรค 22 คน และกลุ่มบุคลากรด่านหน้าที่มีความเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยและบุคลากรภาคบริการและการท่องเที่ยว จำนวน 300 คน โดยกลุ่มนี้ได้รับการจัดสรรมาโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มวีไอพีที่ลัดคิวฉีดวัคซีนดังกล่าว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"