'พาณิชย์’ผนึกโลตัสเปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชน


เพิ่มเพื่อน    

4 มี.ค.2564 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับนโยบายส่งเสริมการตลาดแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการสินค้าชุมชนทุกระดับ เนื่องจากเอสเอ็มอีเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศและเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ ดังนั้น การส่งเสริมด้านการเพิ่มและขยายช่องทางการตลาดให้เอสเอ็มอีไทยจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการระยะยาว และสามารถพัฒนาให้เป็นผู้ส่งออกที่นำรายได้เข้าประเทศต่อไปในอนาคต”

“การส่งเสริมการตลาดแก่ผู้ประกอบการดำเนินการได้หลายรูปแบบทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้พัฒนาความรู้และเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการชุมชน ทั้ง 2 รูปแบบอย่างครบวงจร รวมถึง ได้ประสานความร่วมมือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ โมเดิร์นเทรด และท่าอากาศยานภายในประเทศ ในการนำสินค้าชุมชนเข้าจำหน่ายในพื้นที่ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ล่าสุด ได้ร่วมมือกับ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น จำกัด หรือ โลตัส เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โอทอปซีเล็กซ์ สินค้าชุมชน และ ม็อคบิสคลับ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นำสินค้าขึ้นจำหน่ายบนพื้นที่ทำเลทอง ‘ห้างโลตัส รามอินทรา’ เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อทดลองและเปิดตลาดสินค้า หลังจากนั้น จะมีการประเมินผลความสำเร็จของยอดขาย ก่อนนำสินค้าที่ได้รับความนิยมขึ้นจำหน่ายเป็นการถาวร โดยจะสลับสับเปลี่ยนสินค้าให้มีความหลากหลายและตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด เบื้องต้น ได้มีการนำสินค้าของผู้ประกอบการชุมชน จำนวน 10 ราย 19 รายการ ขึ้นวางจำหน่ายที่ ‘มุมสินค้า SME ไทย ถูกใจมหาชน’ คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าของโลตัสเป็นอย่างดี เนื่องจาก ห้างโลตัส รามอินทรา เป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ที่จำหน่ายอาหารและสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในชีวิตประจำวัน และมีผู้บริโภคทุกระดับเข้าจับจ่ายใช้สอยจำนวนมาก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการช่วยขยายและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง”

 “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ โลตัส จะประสานความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดพื้นที่ภายในห้างโลตัสสาขาอื่นๆ ให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้ามาทำการตลาด เนื่องจากลูกค้าของโลตัสแต่ละสาขาจะมีรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกัน จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะได้นำสินค้ามาทดลองตลาด รวมทั้ง เป็นการขยายช่องทางการตลาดและการจำหน่ายสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่มีความสามารถและมีศักยภาพด้านการผลิตสินค้า แต่อาจจะไม่ชำนาญด้านการตลาด การจำหน่าย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดังนั้น การเปิดพื้นที่ให้จำหน่ายสินค้าจึงเปรียบเสมือนการเพิ่มพูนทักษะ โอกาส และประสบการณ์ เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจตลาดและผู้บริโภคต่อไปในอนาคต เป็นการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการระยะยาว” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"