คิดดี...พูดดี...ทำดี ย่อมไม่มีคนต่อต้าน


เพิ่มเพื่อน    

 กรณีที่กรมสุขภาพจิตยุติบทบาททูตของนางงาม เพราะประชาชนส่วนใหญ่มองว่าไม่เหมาะสม จากการแสดงทัศนคติทางการเมืองไม่ถูกใจคนเป็นจำนวนมาก เธอเรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชน โดยที่คำว่า “ประชาชน” ของเธอนั้นหมายถึงคนที่ออกมาชุมนุมเรียกหาประชาธิปไตย ขับไล่รัฐบาล จึงเกิดการตั้งคำถามว่า ถ้าคนที่ออกมาชุมนุมเป็นประชาชน แล้วคนที่ไม่ได้ออกมาชุมนุม หรือคนที่แสดงทัศนะไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมล่ะ พวกเขาไม่ใช่ประชาชนหรือไร ถ้าหากรัฐบาลจะฟังเสียงคนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม (ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ) รัฐบาลผิดกระนั้นหรือ รัฐบาลจะต้องฟังเฉพาะข้อเรียกร้องของคนที่มาชุมนุมเท่านั้นจึงจะเรียกว่าเป็นการฟังเสียงประชาชน ถ้าหากตรรกะเป็นอย่างนี้ การจะทำให้คนยอมรับการเป็นทูตของเธอก็คงเป็นเรื่องยากแล้วนะ

เธอเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง แสดงว่าเธอมองการจัดการผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่เป็นความรุนแรง แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้ดูคลิปดูข่าว ก็เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีความอดทนกับผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก หลายอย่างที่ผู้ชุมนุมทำนั้นเป็นการกระทำที่ทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ใช้วาจาที่หยาบคาย มีการกระทำที่หมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเจ้าหน้าที่ บางคนก็มองว่าน่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ บางคนก็ไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ มองว่าหย่อนยาน บางคนถึงขนาดกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่เป็นพวกเดียวกับผู้ชุมนุมหรือไร จึงปล่อยให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง

แต่เมื่อพูดจากันดีๆ ขอร้องกันดีๆ ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องจัดการตามขั้นตอนที่เป็นสากล แต่ก็มีการดรามาสร้างข่าวปลอมต่างๆ นานา ฉีดน้ำวิถีโค้งเพื่อไม่ให้มีความรุนแรงก็บอกว่ารุนแรง ไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาก็หาว่าใช้ และเมื่อถึงจุดที่ต้องใช้กระสุนยาง ก็หาว่าเป็นกระสุนจริง (กระสุนหัวเหล็ก) ที่หุ้มยาง เธอขอร้องเจ้าหน้าที่ไม่ให้รุนแรงกับผู้ชุมนุม ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้กระทำการรุนแรงอันใด แต่เธอไม่เคยคิดที่จะพูดขอร้องผู้ชุมนุมไม่ให้กระทำการรุนแรงกับเจ้าหน้าที่บ้างเลยหรือ จะบอกว่าเธอไม่เห็นภาพความรุนแรงของผู้ชุมนุม ก็ต้องบอกว่าก่อนจะแสดงความคิดเห็นก็ควรจะหาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อน จะได้ไม่ถูกมองว่ามีอคติ ลำเอียง เหมือนคนหลับหูหลับตาพูดตามที่ตัวเองคิดและอยากที่จะพูด​ หาก​ต้องการที่จะเรียกร้องให้มีการยุติความรุนแรง เธอควรที่จะขอร้องทุกฝ่าย ไม่ใช่ขอร้องแต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ (ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ใช้ความรุนแรง) แต่กลับไม่เคยขอร้องฝ่ายผู้ชุมนุม (ทั้งที่ผู้ชุมนุมนั่นแหละที่ใช้ความรุนแรง คลิปที่แสดงให้เห็นการใช้ความรุนแรงของผู้ชุมนุมมีให้เห็นมากมาย) การแสดงทัศนคติแบบเลือกข้างนั้นไม่ผิด ถ้าหากข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกข้างเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ถ้าหากเลือกข้างด้วยข้อมูลที่ผิด ไม่ตรงกับความเป็นจริง การเลือกข้างดังกล่าวนั้นก็ยากที่จะทำให้คนยอมรับ

สิ่งที่เธอควรจะมองเห็นก็คือ เจ้าหน้าที่โดนผู้ชุมนุมหยามเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ทำร้ายทั้งการทุบตีและขว้างปา ถูกด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ต่ำช้า ถ่อยสถุล แต่ก็ยังต้องอดทน เพราะไม่ต้องการทำร้ายประชาชน แต่ผู้ชุมนุมก็ฉกฉวยโอกาสจากความอดทนของเจ้าหน้าที่ด้วยการกระทำที่รุนแรงทั้งทางกายและวาจา ทำไมเธอไม่แสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมเคารพความเป็นคนของเจ้าหน้าที่บ้างล่ะ ไหนล่ะความทัดเทียมที่ผู้ชุมนุมเรียกหา คำพูดและการแสดงออกของเธอทำให้หลายคนสงสัยว่า เธอเห็นด้วยกับการกระทำของผู้ชุมนุมที่หยามเกียรติเจ้าหน้าที่อย่างที่เราเห็นกันอยู่เวลานี้กระนั้นหรือ เมื่อเป็นเช่นนี้จะให้ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับบทบาททางสังคมของเธอได้อย่างไร

ทรัพย์สินของราชการถูกทำลาย พระบรมฉายาลักษณ์ถูกฉีก ถูกพ่นสีใส่ ถูกเผา เธอก็ควรจะเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมยุติการกระทำดังกล่าว เพราะในที่สุดแล้วทางราชการก็ต้องใช้เงินภาษีของพวกเรานี่แหละไปซ่อมแซมหรือไปซื้อของใหม่มาใช้ พวกที่มาชุมนุมชอบตะโกนหรือเขียนป้ายว่า “ภาษีกู” น่าจะคิดบ้างนะว่าประชาชนที่เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่รุนแรง และการสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินราชการก็มีสิทธิ์ที่จะตะโกนว่าทำไมต้องใช้ “ภาษีกู” ไปซ่อมแซมความเสียหายที่ผู้ชุมนุมได้ก่อขึ้นมา การที่เธอไม่เคยพูดจาต่อว่าการกระทำที่เลวร้ายของผู้ชุมนุมเลยนั้น เป็นเพราะเธอเห็นด้วยกับการกระทำของผู้ชุมนุมกระนั้นหรือ ตอนนี้ประชาชนจำนวนหนึ่งเขาคิดกันแบบนี้แล้ว เขาจึงต่อต้านบทบาททางสังคมของเธอ

การที่เธอบอกว่าเจ้าหน้าที่ทำร้าย​ประชาชนนั้น แสดงว่าเธอดูแต่การเสนอข่าวข้างเดียวของสื่อที่เป็นพวกเดียวกับผู้ชุมนุม ที่มักจะเสนอข่าวลวง ข่าวบิดเบือน เพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์และรัฐบาลอยู่เป็นประจำ เธอ​ไม่ได้ดูข้อเท็จจริงรอบด้าน เธอจึงไม่เห็นตามความเป็นจริงว่า​ ใครที่เริ่มความรุนแรงก่อน ใครเป็นคนก่อความรุนแรง​ ใครมีพฤติกรรมเป็นคนป่วนเมือง​ ใครวางแผนกันมาก่อความรุนแรงเพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่ หวังที่จะให้เจ้าหน้าที่ตอบโต้ แล้วเก็บภาพไปฟ้องประชาชนและประชาคมโลก​ หรือจริงๆ แล้วเธอเห็นสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน แต่จงใจที่จะบิดเบือนเพื่อด้อยค่ารัฐบาล หรือกล่าวหาว่ามีคนใช้อำนาจอยู่หลังม่าน ซึ่งเราก็รู้ว่าเวลาที่เธอพูดถึงอำนาจหลังม่านนั้น เธอกำหลังกล่าวหาว่าร้ายใคร แม้กฎหมายจะทำอะไรเธอไม่ได้จากคำพูดดังกล่าวนี้ แต่สังคมก็ไม่อาจจะยอมรับคนที่แสดงทัศนคติเช่นนี้ได้ หากเธอคิดดี พูดดี ทำดี ย่อมไม่มีใครต่อต้านการทำงานเพื่อสังคมของเธอแน่นอน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"