10 มี.ค.64 - จากกรณีที่ผู้ปกครอง ชาวอำเภอกระสัง จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานคลิปวีดีโอ ที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ และข้อความแชทสนทนาที่ไม่เหมาะสมระหว่างครูประจำชั้นกับลูกสาวของตัวเอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กระสัง ให้ดำเนินคดีกับนายโอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นครูประจำชั้นและครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอกระสัง ที่หลอกล่อกระทำชำเรา ด.ญ.บี (นามสมมติ) ลูกสาวของตัวเอง ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 ทั้งยังมีการแอบถ่ายคลิปขณะครูมีสัมพันธ์กับลูกสาวในห้องน้ำของโรงเรียน นำไปแชร์ในโลกโซเชียลอีกด้วย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับลูกสาวของตัวเอง

ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยง (10 มี.ค.64) นายโอ (นามสมมติ) ครูประจำชั้น ที่ถูกแจ้งความกล่าวหากระทำชำเราลูกศิษย์ ม.1 ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง แล้ว โดยเบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา อ้างทำไปเพราะขาดความยับยั้งชั่งใจ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , กระทำชำเราเด็กซึ่งเป็นลูกศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลและพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง และผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร”

หลังจากสอบปากคำพนักงานสอบสวนก็ได้นำไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนจะปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจน ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายทีมสหวิชาชีพก็ได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้รอเพียงผลตรวจจากแพทย์เพื่อประกอบสำนวนคดี จากนั้นก็จะรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดส่งพนักงานอัยการ ซึ่งจากข้อมูลหลักฐานเบื้องต้นก็ค่อนข้างชัดเจน

ด้าน นายกฤษ ละมูลมอญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังได้รับรายงานกรณีดังกล่าว ก็ได้สั่งให้ทางโรงเรียนตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากพบมีมูลกระทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยตามระเบียบ ซึ่งความผิดต่อเพศถือเป็นความผิดร้ายแรงก็มีบทลงโทษถึงขั้นปลดออก ไล่ออก อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นก็ได้มีคำสั่งให้ครูที่ถูกกล่าวหามาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์แล้ว โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2564 จนกว่าผลการสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย   โดยยืนยันว่าทางเขตจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากผิดก็ต้องลงโทษทางวินัยโดยไม่ละเว้น ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามหลังมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่เขต ครูที่ถูกกล่าวหาก็ยังไม่ได้ไปรายงานตัวแต่อย่างใด