ดัชนีผู้ประกอบการค้าปลีกปรับตัวดีขึ้น 43%


เพิ่มเพื่อน    

 

11 มี.ค. 64-  นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมผู้ค้าปลีกไทยร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ทำการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกไทย ในทุกภาคส่วนของค้าปลีกสินค้าและค้าปลีกบริการทุกๆ เดือนโดยครั้งนี้เดือนกุมภาพันธ์เป็นการสำรวจทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ 2564 มีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามประกอบด้วยร้านค้าปลีกสินค้าทั่วประเทศ ซึ่งมีช่องทางจำหน่ายรวมกันกว่า 23,000 แห่ง และร้านค้าปลีกบริการภัตตาคารร้านอาหารที่มีช่องทางบริการกว่า 4,000 แห่ง
       
สำหรับความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีต่อสถานการณ์ในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2564 เพิ่มสูงขึ้นมาก จากเดือนมกราคมในปีเดียวกัน คิดเป็น 43% แต่ยังต่ำกว่าความเชื่อมั่นของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563
2. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการต่อยอดขายสาขาเดิมเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม ไปในทิศทางเดียวกันทุกภูมิภาค
      
ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อบิลและความถี่ในการจับจ่ายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 ก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าในเดือนมกราคม 12% แต่ยังต่ำกว่าค่าใช้จ่ายต่อบิลในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563

ส่วนยอดการใช้บริการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 20% หลังร้านค้าปลีกเปิดทำการ
ได้ตามปกติ และกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มพื้นตัวจากเดือนมกราคม เนื่องจากผู้บริโภคคลายความกังวล จากสถานะการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการใช้จ่ายช่วงตรุษจีน
           
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการแยกตามประเภทร้านค้าปลีก ทุกประเภทร้านค้าปลีก มีดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะร้านค้าปลีกประเภทภัตตาคาร ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าค่าเฉลี่ยกลางระดับที่ 50 แต่กลับสวนทางกับร้านค้าประเภทสะดวกซื้อที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยและอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ 50 เป็นผลจากร้านค้าประเภทสะดวกซื้อไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ เป็นต้น
       
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจร้านค้าปลีกกว่า 27,000 แห่ง จะเห็นได้ว่า ดัชนีความมั่นใจในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 ทุกหัวข้อเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนมกราคม ในปีเดียวกันแต่ยังน้อยกว่าเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 สะท้อนให้เห็นว่า หลังจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการ เริ่มมีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมของภาครัฐที่ได้ผล และเริ่มมีทิศทางฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่ก็ยังไม่เท่ากับช่วงก่อนมีการแพร่ระบาดของ
โควิด-19 ในปี 2563 ถึงแม้จะมีข่าวสารจากทางภาครัฐยืนยัน เรื่องการนำวัคซีนเข้ามาให้ประชาชนไทย ความเชื่อมั่นก็ยังไม่เท่าเดิม
         
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ขอตอกย้ำและกระตุ้นภาครัฐ ให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าปลีก เรื่องสภาพคล่องอย่างเร่งด่วนด้วยมาตรการภาษี ลดภาระค่าใช้จ่าย และสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการอย่างจริงจังและรวดเร็ว เพราะด้วยสภาพคล่องที่เหลืออยู่ของผู้ประกอบการค้าปลีกจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อีกเพียง 6 เดือน พร้อมให้ภาครัฐประกาศการจ้างงานแบบรายชั่วโมง เพื่อให้สอดคล้องกับการบริการต่อผู้บริโภคที่มาเป็นช่วงเวลา โดยให้ใช้กับธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารเป็นการเฉพาะก่อน
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"