อว. เตรียมประกาศปรัชญาอุดมศึกษาใหม่ มุ่งพลิกโฉม มหาวิทยาลัย 


เพิ่มเพื่อน    

 

12 มี.ค.64-ที่โรงแรมแคนทารี เชียงใหม่ - กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดการประชุมสัมมนาวิชาการ "พลิกโฉมมหาวิทยาลัย เดินหน้าสู่อนาคต" เร่งสร้างความเข้าใจสถาบันอุดมศึกษาพื้นที่ภาคเหนือโดยมีนายศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว.กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่องนโยบายของ อว.กับทิศทางของมหาวิทยาลัยในยุค New normal ตอนหนึ่งว่า เร็วๆ นี้ อว.จะมีประกาศเกี่ยวกับปรัชญาอุดมศึกษาใหม่ โดยการอุดมศึกษาจะการสร้างบัณฑิตและพัฒนากำลังคนทุกช่วงวัย ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และสมรรถนะที่จำเป็น และสามารถรับรองทุกการเปลี่ยนแปลงได้ อีกทั้งต้องร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐ เอกชน ชุมชน และภาคประชาสังคม ซึ่งเราจะใช้ปรัชญานี้ในการดำเนินการเรื่องต่างๆ
นอกจากนี้ อว.จะต้องมีการกำหนดนโยบาย เป้าหมายที่ชัดเจน ให้สอดคล้องกับปรัชญานี้ เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษา สามารถสร้างบัณฑิตและพัฒนากำลังคนได้ตามปรัชญานี้ และการจัดสรรงบประมาณก็จะสอดรับกับปรัชญานี้ด้วย ส่งเสริมการจ้างงานที่อิงสมรรถนะมากขึ้น และต้องมีการปรับปรุงระบบมาตรฐานอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับไปปรัชญานี้ รวมถึงจะมีการปรับปรุงกฏระเบียบต่างๆ ให้สถาบันอุดมศึกษา สามารถขับเคลื่อนไปได้ตามปรัชญานี้ ทั้งนี้ อว.พยายามที่จะผลักดันการจัดตั้งกองทุนพัฒนาการอุดมศึกษา ที่จะนำมาใช้ในการยกระดับสถาบันอุดมศึกษาให้พัฒนาให้ไปสู่สากล ซึ่งคาดว่าจะผลักดันให้เกิดขึ้นได้ในปลายปี 2564 นี้ และจะต้องมีการสร้างระบบมาตรฐานอุดมศึกษา

"บทบาทของ อว.ในช่วงการแพร่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เราน่าจะเป็นหน่วยงานเดียวที่ทำทุกเรื่องทั้งวิชาการ การป้องกัน งานวิจัย องค์ความรู้ต่างๆ อุปกรณ์ป้องกัน รวมถึงบทบาทในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ อว.ก็เป็นหน่วยงานที่ขับเคบื่อนเรื่องเหล่านี้ ซึ่งต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อน อย่างก็ไรตาม จากนี้มหาวิทยาลัยจะต้องไม่ใช่ทำหน้าที่แค่พัฒนาพื้นที่เท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยต้องได้ประโยชน์จากพื้นที่ในเชิงองค์ความรู้ด้วย"รองปลัด อว.กล่าว

ด้านายพีระพงศ์ ทีฆสกุล ประธานอนุกรรมการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย กล่าวว่า เรื่องการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย อว. ต้องการให้มหาวิทยาลัยดำเนินการเรื่องนี้ในลักษณะเป็นภารกิจไม่ใช่แค่การดำเนินโครงการหนึ่งเท่านั้น เพราะเรื่องนี้จะมีส่วนในการช่วยพลิกโฉมมหาวิทยาลัยได้ และยังจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ อีกทั้งหากมหาวิทยาลัยยังอยู่เหมือนเดิมไม่พัฒนาไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนเร็ว การที่เราเดินช้าจะส่งผลให้คนอื่นจะไปเร็วกว่า จนเหมือนกับมหาวิทยาลัยของเราถอยหลัง ดังนั้นมหาวิทยาลัยจะต้องเปลี่ยนและเปลี่ยนเร็ว เพราะมหาวิทยาลัยถือเป็นผู้ชี้นำสังคม สามารถบอกสังคมได้ว่าจะทำอะไร อย่างไร และการการพลิกโฉมมหาลัยนั้น จำป็นต้องใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยในการตอบโจทย์เรื่องต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันประเทศไทยมีทิศทางการขับเคลื่อนประเทศที่ชัดเจนขึ้น จากแผนพัฒนาต่างๆ เช่น เรื่อง BCG (Bio-Circular-Green Economy) เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เป็นต้น ดังนั้นเราจะใช้เรื่องเหล่านี้มาเป็นตัวตั้งและขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้ตอบโจทย์ทิศทางประเทศ

นายพีระพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยเกิดจากการที่ทุกมหาวิทยาลัย ดำเนินงานเหมือนกัน และแข่งกัน ทำให้การขับเคลื่อนเดินไปอย่างช้า อว. จึงเห็นว่าต้องมีการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยตามการแบ่งกลุ่ม ตามความถนัดของแต่ละมหาวิทยาลัย ภายใต้การขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยตาม 5 กลุ่มยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1.กลุ่มมุ่งยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา การวิจัยระดับแนวหน้าของโลก (Global & Frontier Research) 2.กลุ่มมุ่งยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม (Technology & Innovation) 3.กลุ่มมุ่งยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ (Area-Based & Community) 4.กลุ่มมุ่งยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา (Moral & Intellectual Cultivation) และ 5.กลุ่มมุ่งยุทธศาสตร์ด้านการผลิตและพัฒนาบุคลากรวิชาชีพและสาขาเฉพาะทาง (Specialized & Professional) ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจะต้องประเมินตัวเอง เพราะบางแห่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่ตวามถนัดก็ต่างกัน อีกทั้งการดำเนินงานต่อจากนี้ อว.ต้องการให้มหาวิทยาลัยมีการบูรณาการร่วมกันกับท้องถิ่น ภาคเอกชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะผลักดันให้มหาวิทยาลัยขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"อย่างไรก็ตาม หากร่างกฎ อว. เรื่องการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.... เรียบร้อยแล้ว ผมเชื่อว่าการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ จะขับเคลื่อนอย่างตรงจุดและช่วยให้มหาวิทยาลัยมีจุดเน้นพัฒนาทักษะ ความถนัดให้มีความเข้มแข็ง ตอบโจทย์ประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ"ประธานอนุการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"