นายกฯ ขอบคุณ อสม.ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ดูแลสุขภาพคนไทย โอดเจอดรามาฉีดวัคซีนปลอม ฟุ้งหลังโควิดผ่อนคลายไทยมีโอกาสก้าวเป็นประเทศมีรายได้สูง "คกก.เฉพาะกิจฯ" เคาะจัดสงกรานต์วิถีใหม่ ห้ามสาดน้ำ-ประแป้ง-ปาร์ตี้โฟม เสนอศบค.ชุดใหญ่ 19 มี.ค.นี้ พร้อมลดระดับเข้มงวดสมุทรสาครจากสีแดงเป็นส้ม พบติดเชื้อรายวันอีก 248 ราย กทม.พุ่ง 167 ราย

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 17 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านดีเด่นระดับชาติ จำนวน 17 ราย เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2564
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องขอบคุณไปยัง อสม.ทุกคน ทุกจังหวัด ที่มีจำนวนกว่า 1 ล้านคน ซึ่งถือเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศของเราเหมือนกัน หลายประเทศถามว่าเราดูแลพื้นที่ ดูแลคนจำนวนมากได้อย่างไร ตนก็ยกตัวอย่างกับต่างประเทศว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเรามี อสม. เขาก็แปลกใจว่าทำได้อย่างไร ซึ่งจริงๆ เราทำมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องวัคซีนวันนี้ได้นำเข้ามาแล้ว ตนก็ฉีดไปเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) เมื่อไหร่หมอให้ฉีดก็ฉีด ก็ดรามาทุกอย่างนั่นแหละ มาวันแรกก็นายกฯ ไม่กล้าฉีด เบี้ยวไม่ยอมฉีด ตนก็บอกหมอไม่ให้ฉีดก็ไม่ฉีด ฉีดเมื่อไหร่ก็ฉีดเมื่อนั้น พอฉีดเสร็จบอกฉีดปลอมหรือเปล่า มียาหรือเปล่า ของจริงหรือเปล่า ปัดโธ่ ไม่มีอะไรจะเล่นหรือไงบรรดาสื่อต่างๆ  ไม่เข้าใจ ก็ไม่อยากจะไปทะเลาะกับท่านอยู่แล้ว ขี้เกียจพูด
    นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องสงกรานต์ขอให้สนุกแต่พอเพียงพอสมควร ไม่ใช่เต็มที่เลยคงไม่ได้ในช่วงนี้ รัฐบาลไม่ต้องการจะปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น เป็นประเพณีอยู่แล้ว ทำแบบประเพณีก่อนๆ ได้หรือไม่ ที่ไม่ใช่ครึกครื้นจนมีการแพร่ระบาดไปอีก ประเพณีเก่าๆ รดน้ำใส่มือขอพร จะสนุกสนานรื่นเริงอะไรต่างๆ ก็ระมัดระวัง กินเหล้าแล้วก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นในโลกใบนี้ พอหายเมาก็กลัวหมดว่าไปทำอะไรมาบ้าง ติดเชื้อมาบ้างหรือเปล่า ดังนั้นก็ขอให้ระวังกันด้วย  
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าสังเกตไหมฉีดวัคซีนแล้วอารมณ์ดี ไม่รู้สึกอะไร ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่รู้สึกอะไร แต่ก็ไม่ประมาท ระมัดระวังตัวเอง เพราะนายกฯ ต้องทำงานหลายอย่างด้วยกัน ทั้งการเดินหน้าประเทศ การแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ความขัดแย้งเยอะแยะไปหมด
    "ผมยืนยันว่าประเทศเรามีโอกาสมากที่จะเป็นประเทศที่ก้าวไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงในระยะต่อไปหลังจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ผ่อนคลายไปแล้ว" นายกฯ กล่าว
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงความปลอดภัยในการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ว่า ต้องระมัดระวังการเดินทาง ต้องเตรียมแผนการเดินทางให้ปลอดภัย เชื่อฟังกฎจราจร ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง การจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ ต้องเหมาะสม มีความปลอดภัย ฉะนั้นต้องระวังโควิดไปด้วย อย่าสนุกเกินเหตุ ต้องมีการควบคุมพื้นที่การจัดงาน มีการจัดทำทางเข้า-ออก สวมแมสก์ให้เรียบร้อย
    ขณะที่ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 248 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 242 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 79 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 163 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย โดยพื้นที่ที่ติดเชื้อมากที่สุดในวันนี้คือพื้นที่ กทม. 167 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 13 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกที่บางแค 86 ราย และสถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบางเขน 68 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 27,402 ราย หายป่วยสะสม 26,339 ราย อยู่ระหว่างรักษา 975 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 88 ราย
    พญ.อภิสมัยกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือถึงการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการจัดกิจกรรมสงกรานต์ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอแคมเปญและสโลแกน ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ พร้อมทั้งเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอการจัดเทศกาลสงกรานต์วิถีใหม่ ซึ่งให้จัดกิจกรรมโดยยึดความปลอดภัย มาตรการควบคุมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมเดินหน้าต่อไปได้
    "ที่ประชุมได้ออกแนวทางจัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์ที่สามารถทำได้คือ จัดพิธีสรงน้ำ การจัดพิธีรดน้ำดำน้ำตามประเพณีนิยม หรือรูปแบบที่กระทรวงวัฒนธรรมกำหนด การเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อไปท่องเที่ยว สามารถดำเนินการได้ทุกท้องที่ แต่ขอให้ทุกกิจกรรมยึดแนวทางป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงการสัมผัส ควรจัดในพื้นที่โล่งแจ้ง ระบายอากาศดี หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมในพื้นที่คับแคบ และงดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก ได้แก่ การรวมกลุ่มสาดน้ำ คอนเสิร์ต ประแป้ง และงดเล่นปาร์ตี้โฟม แต่ในส่วนของแต่ละจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสามารถพิจารณาปรับรูปแบบให้เข้มงวดขึ้นได้หากเห็นว่ามีความเสี่ยง โดยจะนำเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 19 มี.ค." พญ.อภิสมัยกล่าว
     นอกจากนี้ คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ยังได้พิจารณาตามที่ ศปก.มหาดไทย นำเสนอเพื่อขอปรับพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมจากพื้นที่สีแดงปรับเป็นพื้นที่สีส้ม ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.นี้เป็นต้นไป
    วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยเฉพาะการกระจายให้กับกลุ่มเสี่ยงว่า เป็นไปตามแนวทางและแผนกระทรวงสาธารณสุขที่ตั้งไว้ ส่วนการแพร่ระบาดที่บางแคจะไม่กระทบกับยอดวัคซีนเดิมที่มีการจัดสรรเอาไว้ โดยในวันที่ 20 มี.ค.นี้ วัคซีนจะมาถึงอีก 8 แสนโดส ใช้เวลา 3-4 วันในการเตรียมการตรวจมาตรฐานและเอกสารทั้งหมด เมื่อเสร็จแล้วก็สามารถนำมาใช้ได้ ในช่วงเดือนเม.ย.นี้วัคซีนจะมาถึงอีกประมาณ 1 ล้านโดส และขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำลังเจรจานำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาอีก
    ถามว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ยังออกมาโจมตีเรื่องของวัคซีน โดยระบุว่านำข้อมูลเก่ามาชี้แจง นายอนุทินกล่าวว่า เขาไม่เคยทันอะไรอยู่แล้ว เขาเคยทันอะไรรัฐบาลบ้าง มีแต่เรื่องเก่าพูดแล้วเป็นวาทกรรม พูดแล้วสนุกในกลุ่มของตัวเอง แต่พอออกมาสาธารณะก็โป๊ะแตกทุกที ฉะนั้นอย่าให้ความสนใจคนไม่หวังดีกับชาติบ้านเมือง
    "คนที่มีวุฒิภาวะทางการเมืองต้องไม่นำเรื่องนี้มาเล่น ไม่นำประชาชนมาเป็นตัวประกัน ถ้าอยากรู้อะไรให้ถามมา อันไหนบอกได้จะบอก อันไหนมีขั้นตอนก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน อย่ามาสร้างชื่อเสียงเพราะกลัวตกเทรนด์ หรือกลัวคนจะลืม แล้วนำเรื่องที่รุนแรงมาทำลายขวัญกำลังใจประชาชน" นายอนุทินกล่าว
    ที่ตลาดย่านบางแค พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม. และ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ลงตรวจเยี่ยมหน่วยบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่โควิด-19 ตลาดย่านบางแค โดย พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า การฉีดวัคซีนในพื้นที่ กทม.ช่วงสัปดาห์นี้ เป็นการฉีดให้กับผู้มีความเสี่ยงสูงก่อน สำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการฉีดหรือมีความเสี่ยงรองลงมาจะรออีกไม่นาน วัคซีนชุดที่ 2 จะมาประมาณวันที่ 20-25 มี.ค.นี้
    ด้านสำนักงานอัยการสูงสุดเผยแพร่ข่าวว่า ศบค.จังหวัดราชบุรี รายงานตรวจพบบุคลากรของสำนักงานอัยการภาค 7 เป็นผู้ป่วยยืนยัน ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 42 มีความเกี่ยวข้องกับตลาดวันเดอร์บางแค โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวพบว่ามีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 37 ของจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นพี่สาว และนอกจากนี้ยังมีสมาชิกในครอบครัว คือลูกสาวและสามีติดเชื้อโควิดด้วย โดยสามีซึ่งเป็นบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดนครพนมได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี และยังไม่ได้เดินทางกลับไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดนครพนมแต่อย่างใด.