กต.วอนเมียนมา ยุติความรุนแรง จ่ออพยพคนไทย


เพิ่มเพื่อน    

  "บิ๊กตู่" เผยเตรียมพร้อมรับคนไทยกลับจากเมียนมาเมื่อสถานการณ์จำเป็น ยันห่วงโซ่การค้าชายแดนยังปกติ ไทยมีมนุษยธรรมดูแลเพื่อนบ้าน "กต." วอนเมียนมายุติใช้ความรุนแรงหาทางออกด้วยสันติวิธี "ผบ.ทอ.” สั่งสแตนด์บาย C-130 อพยพคนไทยหากสถานการณ์วิกฤติ "ทิพานัน" ซัด "พิธา" โหนวิกฤติเมียนมาตอกลิ่มความขัดแย้งในสังคม "ส.ส.เอ็นแอลดี" ประกาศจัดตั้ง "รัฐบาลพลเรือนชุดใหม่" สู้รัฐบาลทหาร

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 1 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินพร้อมรับคนไทยในเมียนมากลับประเทศ ว่า เขาประสานกันอยู่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เขาก็ได้เตรียมการทางโน้นไว้ ทางเราก็เตรียมความพร้อมไว้ เมื่อสถานการณ์จำเป็นก็ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การค้าระหว่างประเทศไทยและเมียนมายังปกติหรือไม่ เพราะตอนนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคขยับตัวสูงขึ้น จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อันนี้เป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศอยู่แล้ว คงไม่ใช่รัฐบาลที่จะไปขายตรงให้เขา แต่เป็นเรื่องด่านของเรา ซึ่งการขนส่งยังถือว่าเป็นปกติ เพียงแต่เขาต้องการมากขึ้นอะไรอย่างไรก็เป็นเรื่องพ่อค้าของเราที่อยู่ในห่วงโซ่ของเขา ก็ต้องทำต่อไป และต้องแยกแยะ เรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม มันคนละเรื่องกัน เรามีชายแดนติดกัน ผู้ผลิตของเรามีเยอะ อาหารการกินเรามีเพียงพอ ก็ต้องขายกันอยู่แล้ว ซึ่งหลายๆ อย่างก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่
    "สิ่งสำคัญที่สุดต้องเข้าใจบริบทประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการดูแลผู้อพยพอะไรต่างๆ ภาระหน้าที่ผูกพันกันมายาวนาน และวันนี้เราจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด แต่อย่างไรเราก็มีความพร้อม อย่างแรกคือมนุษยธรรม ใครบาดเจ็บอะไรต่างๆ ก็ดูแลรักษาให้ และการเตรียมรับหากเกิดสถานการณ์จำเป็นจริงๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่ต้องคำนึงว่าแล้วจะต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมตรงนี้ และผมได้สั่งการไปหมดแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว   
    ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ในประเทศเมียนมาว่า เราไม่สบายใจอย่างมากต่อรายงานการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชนชาวเมียนมาที่เพิ่มขึ้น จึงขอให้ทางการเมียนมาใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างมากในการดำเนินการใดๆ รวมถึงการคลี่คลายสถานการณ์ ยุติการใช้ความรุนแรง และปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้น ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามร่วมกันหาทางออกโดยสันติวิธีเพื่อประเทศเมียนมาและประชาชนเมียนมา ด้วยการพูดคุยผ่านช่องทางที่สร้างสรรค์ใดๆ ก็ได้ที่สะดวกโดยเร็ว ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียนที่รวมถึงเมียนมา เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนสำหรับประชาชนชาวเมียนมา และเพื่อให้เมียนมากลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด  
    นายธานีกล่าวว่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเมียนมา สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง รายงานว่าสถานการณ์ในเมียนมายังไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม โดยยังมีการชุมนุมประท้วง แต่ยังสามารถจัดหาอาหารได้ ทุกฝ่ายของไทยได้ประชุมหารือติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จากการประเมินโดยรวม พบว่าปัจจุบันยังไม่ถึงระดับที่ต้องแจ้งเตือนให้คนไทยออกจากเมียนมากลับมายังประเทศไทย แต่ถ้าสถานการณ์ระดับรุนแรงจนจำเป็นต้องอพยพคนไทย สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้จัดทำแผนการเตรียมพร้อมไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยที่ต้องเดินทางออกจากเมียนมา กลับสู่ไทย ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตอนนี้ได้ประสานเที่ยวบินไว้ 3 เที่ยวบิน คือในวันที่ 6 เม.ย. 2 เที่ยวบิน และวันที่ 9 เม.ย. 1 เที่ยวบิน
    นายธานีกล่าวอีกว่า ยอดรวมผู้หนีภัยการสู้รบที่ข้ามจากฝั่งเมียนมา ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 2,788 คน เดินทางกลับฝั่งเมียนมาแล้ว 2,572 คน ยังเหลืออยู่ 216 คน โดยส่วนใหญ่เป็นเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ได้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ซึ่งทั้งหมดผลตรวจเป็นลบ ไม่พบเชื้อ ขอย้ำว่าไทยไม่มีนโยบายในการผลักดันผู้อพยพอย่างแน่นอน โดยจะต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยธรรม และผู้ที่เดินทางกลับไปเป็นการเดินทางด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่การผลักดัน
     พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือน ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) สั่งการให้กองบิน 6 เตรียมความพร้อมเครื่องบินลำเลียง C-130 และเครื่องบินในส่วนของกองทัพอากาศไว้สำหรับรองรับภารกิจแล้ว หากรัฐบาลสั่งการให้ส่งเครื่องบินไปรับคนไทยในเมียนมาก็ความพร้อม ปรับเปลี่ยนภารกิจมาใช้ในภารกิจนี้ได้ทันที หากเกิดสถานการณ์ขั้นวิกฤติ แต่จะส่งไปเมื่อใดนั้น แล้วแต่สถานการณ์ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ตอนนี้จึงเป็นเพียงการติดตามสถานการณ์เท่านั้น  ไม่ว่าวิกฤตการณ์ไหน ภัยพิบัติใดกองทัพอากาศก็พร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนตามคำสั่งของรัฐบาล
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา มีทั้งข้าราชการในส่วนสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงพ่อค้า นักธุรกิจ รวมประมาณเกือบ 700 คน โดยขณะนี้ยังไม่มีผู้แจ้งความประสงค์ในการขอเดินทางกลับ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ในเมืองดังกล่าวไว้ได้
    น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประณามรัฐบาลหาว่าให้การสนับสนุนความรุนแรงและกองทัพที่เข่นฆ่าประชาชนชาวเมียนมาว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เป็นการตีความเกินเลยไปมาก เป็นการปรักปรำที่ไม่ยุติธรรมและไม่เป็นสุภาพบุรุษต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นการกล่าวหาใส่ร้ายโดยไร้หลักฐานที่ใช้มาตรฐานระดับเด็กเลี้ยงแกะ ไม่เคยมีผู้นำหรือผู้แทนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดๆ ดำเนินการเช่นนั้น รัฐบาลพยายามรักษาบทบาทในฐานะชาติสมาชิกอาเซียน และในฐานะที่ประเทศไทยมีชายแดนใกล้ชิดติดกัน ซึ่งเชื่อว่าทุกคนรวมทั้งนายพิธาทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนแค่ไหน แต่กลับมองเห็นโอกาสในการฉกฉวยเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล นำการเมืองระหว่างประเทศมาเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง
    “ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยด้วยกันเอง นักการเมืองบางคนพยายามที่จะโหนกระแสวิกฤติในเมียนมา มาตอกลิ่มความขัดแย้งในสังคมและขยายผล พยายามทำร้ายประเทศไทย บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ แต่เชื่อว่าประชาชนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่หลงไปกับกระแสที่นักการเมืองพยายามเสี้ยมให้เข้าใจผิดรัฐบาล ที่หวังสุมไฟหวังให้เกิดสงครามกลางเมืองซ้ำเติมให้ประเทศบอบช้ำ” น.ส. ทิพานันกล่าว
     ส่วนสถานการณ์ในเมียนมา ชาวเมียนมายังคงใช้กระบวนการอารยะขัดขืนต่อต้านรัฐบาลทหาร โดยในวันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน ยังคงมีการเดินขบวนช่วงเช้าตรู่ และการชุมนุมจุดเทียนในช่วงกลางคืนอย่างท้าทายเคอร์ฟิว รายงานของสื่อท้องถิ่นและภาพที่เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เผยด้วยว่า หลายเมืองยังมีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วง และมีคนบาดเจ็บ 2 คนที่เมืองโมนยวาเมื่อตำรวจเปิดฉากยิง
     กลุ่มอดีต ส.ส.จากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ที่โดนคณะรัฐประหารขับออกจากตำแหน่งและกำลังเคลื่อนไหวต่อต้านอยู่ใต้ดิน ได้ประกาศแผนจัดตั้ง "รัฐบาลพลเรือนชุดใหม่" ในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน พร้อมกับประกาศด้วยว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างโดยรัฐบาลทหารเมื่อปี 2551 ถูก "ยกเลิก" พวกเขายังให้คำมั่นว่าจะจัดตั้งระบอบประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องยาวนานของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่ต้องการอำนาจปกครองตนเอง
     คำประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับทหารนำไปสู่กิจกรรมประชุมเพลิงรัฐธรรมนูญ โดยกลุ่มผู้ประท้วงนำสำเนารัฐธรรมนูญมาเผาบนท้องถนนหรือในบ้าน แล้วถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเมื่อวันพฤหัสบดี
     เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อคืนวันพุธ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ทหารเป็นเจ้าของ 2 แห่งในย่างกุ้งโดนวางเพลิง นางอองซาน ซูจี วัย 75 ปี มีกำหนดให้การต่อศาลผ่านระบบประชุมทางไกลอีกในวันพฤหัสบดี โดยสื่อท้องถิ่นแห่งหนึ่งกล่าวเมื่อวันพุธว่า นางอาจถูกตั้งข้อหากบฏซึ่งมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต แต่มิน มิน โซ หนึ่งในทนายความของนางซูจีกล่าวว่า ไม่มีการตั้งข้อหาใหม่กับนางในวันพฤหัสบดี
     ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับเมียนมา โดยเป็นการประชุมลับ คริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ทูตพิเศษของยูเอ็นประจำเมียนมา กล่าวเตือนต่อที่ประชุม 15 ชาติสมาชิกว่า กองทัพเมียนมาไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ในเมียนมาได้ และสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงที่จะเลวร้ายลงเป็นสงครามกลางเมือง
     บาร์บารา วูดวาร์ด เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำยูเอ็น กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคง "เป็นหนึ่งเดียวกันในการประณาม" และได้หารือถึงมาตรการหลากหลายที่สามารถทำได้
    ทว่า รัฐบาลจีนซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของเมียนมา ไม่เห็นด้วยกับการคว่ำบาตรหรือมาตรการบีบบังคับอื่นๆ จาง จวิน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็น กล่าวว่า จีนหวังว่าเมียนมาจะฟื้นฟูสันติภาพ เสถียรภาพ และความสงบเรียบร้อยตามรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างมั่นคงต่อไป
     เมื่อวันพุธ รัฐบาลสหรัฐเพิ่งเรียกร้องให้จีน ซึ่งมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ในเมียนมา ใช้อิทธิพลกดดันผู้ที่รับผิดชอบต่อการยึดอำนาจในเมียนมา
     ชาติอาเซียนทั้ง 4 กำลังพยายามวิ่งเต้นหาทางคลี่คลายวิกฤติในเมียนมา แต่หวังกล่าวว่า จีนยินดีและสนับสนุนหลักการของอาเซียนที่ไม่แทรกแซงกิจการภายในของเพื่อนสมาชิก.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"