จับตาเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยหลังเปิดประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

 

3 เมษายน 2564  นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนมิถุนายน หรือในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 145.55 ปรับตัวลดลง 4.4% จากเดือนก่อน ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ โดยนักลงทุนคาดหวังการคลี่คลายสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จากการกระจายวัคซีนเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด  รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิเ-19 ที่ยังระบาดในหลายประเทศ การท่องเที่ยว และสถานการณ์การเมืองในประเทศ
 
สำหรับรายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับตัวลดลง 1% อยู่ที่ระดับ 139.47 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35% อยู่ที่ระดับ 154.55 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% อยู่ที่ระดับ 150.00 และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับตัวลดลง 18% อยู่ที่ระดับ 150.00 ทั้งนี้ นักลงทุนสนใจลงทุนในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD) มากที่สุด รองลงมาคือหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETRO) ขณะที่นักลงทุนเห็นว่าหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ไม่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด  รองลงมาคือหมวดแฟชั่น (FASHION) และหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) 
 
"ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2564 ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกด้านความคืบหน้าของการทยอยฉีดวัคซีนในประเทศ โดยในช่วงกลางเดือนมีปรับตัวลงบ้างเล็กน้อย จากอัตราราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ช่วงครึ่งเดือนหลังดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ เนื่องจากข่าวดีในประเทศ อาทิ การออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเพิ่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (มาตรการฟื้นฟูฯ) ของธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังวงเงินรวม 350,000 ล้านบาท และการออกแนวทางการผ่อนปรนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม ดัชนีปิดที่ 1,587.21 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.04% จากเดือนก่อนหน้า"

อย่างไรก็ตาม มองกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 2 ปี 2564 จะพลิกกลับมาเป็นบวกจากไตรมาสแรกที่ติดลบ และชัดเจนในช่วงสิ้นปี จากการเปิดประเทศ รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นต่อได้ จากผลสำรวจนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้ปรับเพิ่มเป้าดัชนี ณ สิ้นปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,629 จุด ตามการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS) จะมากกว่า 50% จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติหากการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นไปตามแผน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"