ตายผ่อนส่ง!


เพิ่มเพื่อน    

      วานนี้มีการประชุมที่ตัดสินความเป็นความตายประเทศไทยอยู่ ๒ วง

      วงแรกคือศาลรัฐธรรมนูญ

      วงที่สองการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย

      ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา  พ.ศ. ... มาตรา ๙๑, ๙๒, ๙๓, ๙๔, ๙๕ และมาตรา ๙๖ ไม่มีข้อความขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา  ๑๐๗

      ส่วนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยวันที่ ๓๐ พฤษภาคมนี้

      มองในภาพรวมไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฉะนั้นไม่เป็นเหตุให้เลื่อนการเลือกตั้งแน่นอน

      การเลือกตั้งยังคงเป็นไปตามโรดแมป คือต้นปีหน้าแน่นอน

      อีกหนึ่งความเป็นความตาย ที่อาจนำไปสู่การล้มตายของประชาชนจริงๆ นั่นคือ การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อพิจารณาการจำกัดหรือยกเลิกการใช้วัตถุอันตราย ๓ รายการ คือ พาราควอต, คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ตามมติของ ๕ กระทรวงหลัก

      ผลที่ออกมาคือ ไม่ยกเลิก แต่ให้จำกัดการใช้สารทั้ง ๓ ชนิดแทน

      ฟังแล้วเศร้าใจ เหตุผลของคณะกรรมการชุดนี้คือ

      ข้อมูลผลกระทบทางด้านสุขภาพยังไม่เพียงพอ!

      จึงมอบให้กรมวิชาการเกษตรเป็นแม่งาน ในการไปออกมาตรการควบคุมเพื่อนำเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายอีกครั้งภายใน ๒ เดือน

      สรุปคือสารเคมีทั้ง ๓ ชนิด ยังถูกกำหนดให้เป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ ๓ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายเช่นเดิม

      ยังซื้อง่ายขายคล่องเหมือนเดิม

      อันตรายอย่างไร?

      พาราควอต เป็นสารเคมีกำจัดวัชพืชที่มีพิษเฉียบพลันสูง ไม่มียาถอนพิษ เป็นสาเหตุของโรคพาร์กินสัน ระบบประสาท โดยสามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังของเกษตรกรได้ ๔๘ ประเทศทั่วโลกห้ามขาย

      เจ้ายาฆ่าหญ้านี้คืออุปกรณ์ฆ่าตัวตายราคาถูก คนไทยจำนวนไม่น้อย เลือกที่จะกินเพื่อจบชีวิต

      คลอร์ไพริฟอส เป็นยาฆ่าแมลง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสมองเด็กทารกอย่างถาวร

      ไกลโฟเซต เป็นสารเคมีกำจัดวัชพืชที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์

      เมื่อกรรมการชุดนี้อ้างว่าผลกระทบด้านสุขภาพยังไม่เพียงพอ แทนที่จะระงับชั่วคราวก่อน กลับให้ใช้ต่อ ในการควบคุม

      ถามว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ควบคุมการใช้ได้ไหม

      เอาแค่บริษัทเครื่องสำอางเถื่อนโฆษณาออกสื่อขายสินค้ากันโครมๆ คนใช้ตาย เจ้าของรวยเป็นพันล้าน อย.เพิ่งจะตามจับได้

      แล้วสารเคมีที่ใช้กันตามท้องไร่ท้องนาตามสวน จะควบคุมกันแบบไหน

      กรณีเช่นนี้ประชาชนควรได้รับการปกป้อง แต่เปล่าเลย กลับดูเหมือนว่าบริษัทขายสารเคมีได้รับการปกป้องจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย 

      ลูกเมีย สามี พวกท่านไม่กินไม่ใช้ผลผลิตทางการเกษตรกันเลยหรือ

      รู้หรือเปล่าว่าแต่ละปีมีคนตายผ่อนส่งจากสารเคมีทางการเกษตรเท่าไหร่

      หมดค่าหมอ ค่าพยาบาล ค่าทำศพ กันไปเท่าไหร่

      หรือรอให้พวกท่านตายแล้วหมอชันสูตรว่ามาจากเหตุกินพืชผักสัตว์เลี้ยงที่ปนเปื้อนสารเคมีทางการเกษตร

      ถึงจะสำนึกกัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"