ความเหมือน และความแตกต่าง การเมืองยุคถนอมกับรัฐบาล คสช.  


เพิ่มเพื่อน    

 

      พรรคเพื่อไทยถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เล่นงานด้วยกฎหมายเพราะเปิดแถลงในวาระ 4 ปี คสช. เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 โดยระบุว่าล้มเหลว

      นึกๆ ไปก็มีบางอย่างเหมือนและบางอย่างก็แตกต่างกับเมื่อคราวนายอุทัย พิมพ์ใจชน และเพื่อนอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์รวม 3 คนยื่นฟ้องจอมพลถนอม กิตติขจร

      พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยื่นฟ้อง คสช. เพียงแค่แถลงข่าวก็โดน คสช.ส่งทหารไปแจ้งความร้องทุกข์กองปราบปรามให้ดำเนินคดีแกนนำพรรค 4 ข้อหา

1.ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 57/2557 ห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วดำเนินการประชุมหรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมือง

2.ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2557 ในข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

3.ผิดมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา ยุยงปลุกปั่น

      4.ผิดมาตรา 14 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก

      ปกติแกนนำของพรรคก็เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นระยะๆ อยู่แล้ว                 

      กรณีนายอุทัย อดีต ส.ส.ชลบุรี และเพื่อนอดีต ส.ส.อีก 2 คนคือ นายบุญเกิด หิรัญคำ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ และนายอนันต์ ภักดิ์ประไพ อดีต ส.ส.พิษณุโลก ยื่นฟ้องคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2515

      ...ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะปฏิวัติ ซึ่งมีจอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติกับพวกอีกรวม 17 คนเป็นจำเลยต่อศาลอาญาหาว่าเป็นกบฏ อ้างในฟ้องว่าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514  จอมพลถนอม กิตติขจร กับพวกได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายและขู่เข็ญประชาชนชาวไทย เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลพิจารณาลงโทษตามกฎหมาย"

      ตอนที่นายอุทัยและเพื่อนยื่นฟ้องจอมพลถนอมและคณะนั้น มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ.2515 แล้ว จึงถูกคณะผู้มีอำนาจสั่งจับบุคคลทั้ง 3 มาคุมขัง และสอบสวนพร้อมกับใช้อำนาจสั่งลงโทษผู้ที่ยื่นฟ้องทั้ง 3 คนในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2515 ให้ติดคุกเสียเลย  

      นายอุทัยโดนลงโทษจำคุก 10 ปี ส่วนนายอนันต์ ภักดิ์ประไพ กับนายบุญเกิด หิรัญคำ สองคนนี้โดนโทษจำคุกคนละ 7 ปี

      ทั้งสามคนติดคุกที่เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี

ในเดือนตุลาคม 2516 มีกลุ่มนักศึกษาประชาชนออกมาทวงถามเรื่องรัฐธรรมนูญจะร่างเสร็จเมื่อไร  ก็ถูกตำรวจจับกุมคุมขังจำนวน 13 คน เรียกกันว่าเป็น 13 กบฏรัฐธรรมนูญ

      หลังเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 คณะปฏิวัติล้มด้วยพลังประชาชน จอมพลถนอม, จอมพลประภาส จารุเสถียร, พันเอกณรงค์ กิตติขจร และครอบครัวต่างเดินทางออกนอกประเทศ จากนั้น 13 กบฏจึงเป็นอิสระ

      ส่วนนายอุทัยและเพื่อนรวม 3 คนได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่านกฎหมายให้ยกเลิกคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติในวันที่ 18 มกราคม 2517

      เมื่อประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ นั่นแหละนายอุทัย นายบุญเกิด และนายอนันต์ถึงได้ออกจากคุกบางขวางได้ รวมเวลาที่สูญสิ้นอิสรภาพ 22 เดือน

      วกกลับมาที่แกนนำพรรคเพื่อไทยที่ถูก คสช.ตั้งข้อหารวม 8 คน คือ 1.นายวัฒนา เมืองสุข 2.นายจาตุรนต์ ฉายแสง 3.นายชูศักดิ์ ศิรินิล 4.นายนพดล ปัทมะ 5.นายชัยเกษม นิติสิริ 6.นายภูมิธรรม เวชยชัย 7.พล.ต.ต.วิโรจน์ เปาอินทร์ และ 8.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง

      การตั้งข้อหา 8 แกนนำพรรคเพื่อไทยใน 4 ข้อหานั้น มี 2 ข้อหาที่ใช้คำสั่งของหัวหน้า คสช. 2 ฉบับ คือฉบับที่ 3/2557 และฉบับที่ 57/2557 อันเป็นอำนาจของคณะรัฐประหาร ทั้งที่ขณะนี้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ผ่านประชามติมาแล้ว และพรรคการเมืองกำลังเตรียมการเลือกตั้ง โดยตั้งพรรค หาสมาชิกหาผู้สมัคร จึงทำให้เห็นว่าประกาศของ คสช.นั้นใหญ่กว่าสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ 60 ใช่หรือไม่

      อีกด้านหนึ่ง นักการเมืองต่างรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่นัดประชุม 23 พฤษภาคมนี้  เพื่อลงมติว่ากฎหมายประกอบ รธน.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ขัด รธน.หรือไม่ 

       ขณะที่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ครบ 4 ปีของการรัฐประหาร การถูกทวงถาม ตรวจสอบอย่างเข้มข้นกำลังเกิดขึ้นกับ คสช.ว่าจะคืนอำนาจผ่านการเลือกตั้งได้เมื่อใด

นโยบายของ คสช.-รัฐบาลประยุทธ์ก็ดี คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่เป็นดาบอาญาสิทธิ์ และกฎหมายอื่นๆ ก็ดี กำลังออกฤทธิ์ต่อผู้ที่ยืนอยู่คนละฟากฝั่งกับ คสช.

      กลับมาที่พรรคเพื่อไทยผู้ไม่กลัวกฎหมาย ส่วน คสช.ก็ไม่กลัวการเมืองที่ถูกโจมตีว่าเป็นเผด็จการ แล้วอย่างนี้บทสรุปของบ้านเมืองจะออกมาอย่างไร...


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"