ก็ว่า...กันไปตาม “กรรม”


เพิ่มเพื่อน    

      อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...สำหรับ การเมืองบ้านเรา ต่อให้หลับไปซักสี่ตื่น ห้าตื่น หรือ หลับยาวว์ว์ว์ แบบชนิด ริป แวน วิงเคิล แต่เมื่อตื่นขึ้นมา...อะไรต่อมิอะไรมันคงยังไม่ถึงกับไปไหน ยังวนไป-วนมา ระดับร่วมๆ ศตวรรษเข้าไปแล้ว ก็ยังคงเหมียนเดิมม์ม์ม์ ยังอยู่ใน อ่างประชาธิปไตย สลับกับ เผด็จการละมุนภัณฑ์ เป็น วงจรอุบาทว์ ต่อไปได้เรื่อยๆ...

                                        -----------------------------------------------

                ต่างไปจาก การเมืองพม่า ที่ต้องตามไป เจาะ-เกาะ-ติด คุณน้า อาเฮีย สุทธิชัย หยุ่น ต้องรับประทาน กาแฟดำ ชนิดวันละ 2 แก้ว 3 แก้ว เพราะมันไปไว-มาไวยิ่งเข้าไปทุกที ต้องอัพด่ง อัพเดต กันไปเป็นระยะๆ นี่ก็เห็นว่ามีข่าวๆ คาวๆ ว่าทหารจีนเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังไปแถวๆ ชายแดนรัฐคะฉิ่น จะไปปกป้อง ดูแล ท่อก๊าซ หรือไปทำอะไรยิ่งไปกว่านั้นหรือไม่ อย่างไร ยังคงเป็น ปริศนา ที่จะต้องรอไข รอหลักฐาน ข้อพิสูจน์ กันไปตามลำดับ แม้แต่จีนอีกจีน อย่าง จีนไต้หวัน ก็ดูจะไม่เบาอยู่อีกเหมือนกัน โดยเฉพาะในประเทศพม่า ข่าวคราวความเคลื่อนไหวออกจะคึกคักไม่น้อยไปกว่า จีนแผ่นดินใหญ่ เอาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งคงต้องไป เจาะ-เกาะ-ติด เอาเองกันตามสภาพ...

                                    ---------------------------------------------------

                ดังนั้น...สำหรับบ้านเราในช่วงระหว่างนี้ คงไม่ถึงกับต้องตื่นเต้ลล์ล์ล์ ตกอก ตกใจ มากมายซักเท่าไหร่ สำหรับกรณีที่ใครต่อใครลุกขึ้นมาจาก ป่าช้าสามัคคี ตามสำบัด สำนวน ของคอลัมนิสต์วัยย่างๆ 80 แต่ยังสามารถ แล่เนื้อ-เอาเกลือทา ได้เป็นอย่างดี หรืออย่าง ป๋าเปลว สีเงิน ท่านว่าไว้เมื่อวานนี้ คือโดยส่วนใหญ่...ก็น่าจะเป็นคนหน้าเก่าๆ หน้าเดิมๆ ไปด้วยกันทั้งสิ้น และโดยความปรารถนาความต้องการ ก็น่าจะไม่มีอะไรผิดแผก แตกต่าง ไปจากเมื่อ ทศวรรษ ที่แล้ว คือยังวนไป-วนมากับเรื่องเผด็จการ เรื่องประชาธิปไตย ที่สุดท้าย...มักหาทางออก ทางไป ไม่ค่อยจะเจอ เลยต้องวนไป-วนมา อยู่ภายในอ่าง ร่วมๆ ศตวรรษ หรือกว่า 80-90 ปีของประชาธิปไตยแบบไทยๆ เข้าไปแล้วก็ว่าได้...

                                   ----------------------------------------------------

                เรียกว่า...ตั้งแต่ พี่ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน ท่านยังหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว เอาเลยโน่นแหละ ที่ ท่านขุนน้อย ในฐานะคนบ้านเดียวกับท่าน คือคนจังหวัด ซรัง (ตรัง) มีโอกาสได้ยินเรื่องราวของเผด็จการและประชาธิปไตย จากเวทีโฆษณาหาเสียงของพรรคประชาธิกัด มานับตั้งแต่บัดนั้น แต่ผ่านมา-ผ่านไป...เกือบๆ จะร่วม 50-60 ปี ก็ยังหนีไม่พ้นต้องได้ยินคำพูดประเภทนี้ ที่มักถูกนำไปเป็น ไฮไลต์ ทางการเมืองแบบชนิดคราวแล้ว คราวเล่า จนกระทั่ง พี่ชวน ยุคนี้ ออกจะเป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล เป็นอย่างยิ่ง ต่อการไหลเวียน การสูบฉีดเลือดและโลหิตภายในร่างกาย น่าหวั่น น่าวิตก ว่าระหว่างทำหน้าที่ประธานรัฐสภาแต่ละนัด อาจต้องถูกหามส่งไปโรงพยาบาลเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ เมื่อเจอกับการเอาแพ้-เอาชนะ ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการในรัฐสภา หรือการแก้รัฐธรรมนูญเที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า นั่นเอง...

                                   --------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...จึงแทบไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ใครต่อใครแห่ไปตั้งหน้า ตั้งตา รอฟังการพูดจา ปราศรัย ของนักประชาธิปไตยรุ่นเก่ารุ่นแก่ อย่างคุณปู่ พิภพ ธงไชย ที่อายุ อานาม ไม่น่าจะน้อยไปกว่า ป๋าเปลว สีเงิน มากมายซักเท่าไหร่ คือร่ำๆ จะ 80 อีกแค่ไม่กี่ปี-กี่เดือนเท่านั้นเอง หรือไม่ถึงกับน่าแปลกใจ ที่ระดับ อาจารย์ชาญวิทย์ หรือ อาจารย์ธเนศ ที่น่าจะเดินเหินไป-มาแทบไม่ค่อยจะไหว ท่านจึงยังคงอ๊อคดง อ๊อคเดม ยังดาหน้าออกมานั่งแถลงข่าว ว่าด้วยเรื่องเผด็จการและประชาธิปไตย โดยมีคุณน้า เกรียง หรือ เกรียงกมล อดีตผู้นำนักศึกษายุคพระเจ้าเหายังใส่กางเกงหูรูด คอยเป็น ฉาก อยู่เบื้องหลัง พร้อมด้วยคุณปู่ คุณทวด อีกหลายต่อหลายราย ทั้งหมอม้ง หมอมิ้ง อ้วน ภูมิธรรม จาตุรงค์ จาตุรนต์ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย...

                                --------------------------------------------------------

                พูดง่ายๆ...หลับไปประมาณ 400-500 ตื่น แต่ลุกขึ้นมาล้างหน้า แปรงฟันเมื่อไหร่ ก็คงยังหนีไม่พ้นต้องเห็นประดาบุคคลเหล่านี้ ออกมาแสดงบทบาท ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ในลักษณะที่แทบไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเดิมๆ มากมายซักเท่าไหร่ คือยังว่าด้วยเรื่องราวของประชาธิปไตยและเผด็จการ แบบไม่คิดจะไปไหนเอาเลยนั่นแหละ แต่ทำไงได้...ในเมื่อบรรดา เด็กๆ มันดันติดคุก ติดตะราง ไปซะหมดแล้ว!!! อย่างน้อย...การออกมาส่งเสียงแหบโหย ครวญคราง ให้ใครก็ได้ ช่วยหามลุง...ไปตีกะมันที ของบรรดาคนแก่และคนชราทั้งหลายเหล่านี้ ก็น่าจะยังดีกว่าพวกที่ชอบแอบๆ ซ่อนๆ อยู่เบื้องหลัง โดยไม่คิดจะทำอะไรเลย...

                                -----------------------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...มันจะเป็นสิ่งดี-ไม่ดี เหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร สอดคล้องและเหมาะสมกับความเป็นไปของการเมืองไทยมากหรือน้อยเพียงไหน หรือไม่ อย่างไร คงต้องว่าไปตาม รสนิยม ของใคร-ของมันเอาเองก็แล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือมันคงไม่ใช่เรื่อง แปลก หรือเรื่อง ใหม่ แต่เป็นเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ เรื่องที่เคยวนไป-วนมา เมื่อร่วมๆ ศตวรรษที่ผ่านมานั่นแหละทั่นเอ๋ย ไม่ว่าจะมี ฉาก ใหม่ๆ สตอรี่บอร์ด ใหม่ๆ แต่ย่อมมิอาจปฏิเสธ ตัวละคร เดิมๆ ได้เลย ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเป็นไปในแบบ...โลกนี้คือละคร บทบาทบางตอน ชีวิตยอกย้อนยับเยิน ชีวิตบางคนรุ่งเรืองเจริญ แสนเพลิน เหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน ขึ้นอยู่กับ จังหวะ และ โอกาส ของแต่ละชีวิต ที่คงต้องไปลิขิตกันเอาเอง...

                                 -----------------------------------------------------------

                สรุปเอาเป็นว่า...ด้วยเหตุเช่นนี้นี่เอง การหันไป ฉีกกรอบ-แหวกกรอบ โดยหันหน้าไปหา พระ หรือหมั่นเข้าวัด-เข้าวา อาจถือเป็นทางออก ทางรอด ที่ออกจะใหม่กว่า แปลกกว่า การวนไป-วนมาอยู่กับเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ ได้มั่ง ไม่มาก-ก็น้อย คือแทนที่จะมัวเสียเวลาไปตั้งคำถามว่าเผด็จการคืออะไร ประชาธิปไตยคืออะไร อย่างน้อย...เมื่อเจอกับคำถามของพวก พระ ประเภทชีวิต...คืออะไร??? อะไรเป็นเหตุให้ต้องเกิดมา-ให้ต้องตายไป??? มีอะไรจริงๆ หรือ???...ที่ทำให้ไม่ต้องเกิด-ไม่ต้องตาย ให้พ้นไปจากวัฏจักร วงจร แห่ง วัฏสงสาร ที่ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่ผูกพัน เชื่อมโยง ไปด้วยกันทั้งสิ้น อันนี้นี่แหละออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าฟัง น่าแห่ไปร่วม ป่าช้าสามัคคี อย่างมิพึงต้องลังเลเอาเลยแม้แต่น้อย...

                                 ------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก คัมภีร์ฤคเวท... “Let all be happy, Let all be healthy, Let all experience the good, Let none remain is sorrow. - สระเว ภวันตุ สระเว สันตุ นิรามยะ สระเว ภัทรานิ ปศันนะตุ มา กศะจิต ทุกขะภาค ภเวตะ...ขอให้ทุกคนมีความสุข ขอให้ทุกคนมีพลานามัยแข็งแรง ขอให้ทุกคนประสบพบเห็นสิ่งดีงาม ขออย่าให้ผู้ใดมีทุกข์เลย...”

                                ----------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"