10 เม.ย.64 - เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. โพสต์ข้อความว่า บทสนทนานี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ผ่านทางหลังบ้านเพจฯ ทางกรรมการศูนย์ฯ ตัดสินใจอยู่นานว่าควรจะเผยแพร่สู่สาธารณชนไหม สุดท้ายต้องขอเผยแพร่ด้วยเหตุผลดังนี้

1. ประโยคสุดท้ายที่เจ้าตัวบอกว่า “เพื่อมาชี้แจงและขอโทษสังคมครับ” กรณีนี้ควรเป็นเรื่องที่สังคมต้องได้รับรู้ร่วมกัน
2. ศูนย์ฯ กำลังรวบรวมเอกสารเพื่อจะไปแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 112 เมื่อมีการติดต่อมาจากผู้กระทำความผิด ศูนย์ฯ จึงต้องกลับมาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง และโยนให้สังคมช่วยกันถกปัญหานี้เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด

เนื้อความสนทนาที่อาจารย์ท่านนี้เขียนมา
“สวัสดีครับคุณแน่งน้อย อัศวกิติกร กับคุณนพดล พรหมภาสิต ผมคืออดีตอาจารย์ที่กำลังเป็นที่วิจารณ์ในโพสดังกล่าวครับ ก่อนอื่นผมต้องขอโทษสังคมและขออนุญาตประณามตัวเองที่ปล่อยให้ความคิดเลวทรามแบบนั้นมันฝังเข้าไปในหัวผมครับ ผมเผลอไผลหลงเชื่อข้อมูลข่าวเท็จเพียงเพราะความสนุกคึกคะนองในช่วงเวลานึง ไปอ่านข้อความที่หลายคนจงใจโพสต์บิดเบือน จนความคิดมันบิดเบี้ยว จะไม่ใช่การรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรอกครับ แต่มันคือความเลวร้ายที่ไปหลงเชื่อคำโกหกของคนรุ่นใหม่พูดที่หวังจะเปลี่ยนแปลงประเทศแต่กลับใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ มันทำให้ผมหลงผิดไปครับ

วันนี้ผมคุยกับครอบครัว พวกเขาเสียใจที่ผมทำลงไปแบบนั้น ท่านพูดมาประโยคนึง คือ ผ้าพันคอ หมวก และบัตรจิตอาสาที่เอาไป เอามาคืนด้วย เพราะตอนนี้เธอลืมวันที่รับของไปแล้ว ลืมสิ่งที่เคยปฏิญาณไปแล้ว ผมไม่ได้เสแสร้งใดๆ ผมร้องให้กอดคุณแม่แทบตายครับ ทำให้ผมรู้ว่าจริงๆแล้วเมื่อก่อนผมรักสถาบันมาก แต่ผมกลับมาหลงผิดเผลอไปเชื่อคำโกหกของเด็กวัยรุ่นที่ไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้ แต่กลับบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงประเทศ วันนี้ ผมตาสว่างแล้วครับ

ผมอ่านคอมเม้นในทุกคอมเม้น แล้วก็รู้ตัวว่าผมมันเลวทรามแค่ไหน ผมอยากจะขอให้คุณแน่งน้อย และคุณนพดล และพี่น้องในเพจ ทั้งข่าวโฉด และเพจศอช. ขอเพียงโอกาส 1 ครั้งในการแก้ตัว เพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไป 

หากโอกาสนี้ผมได้รับ ผมสัญญาว่าจะใช้มันอย่างดีที่สุด เหมือนที่ได้รับมอบมาครับ เวรกรรมที่ผมทำ มันติดจรวดจริงๆครับ ประกาศที่ออกไป ขอรับรองว่าเป็นความจริงครับ ผมพ้นสภาพจากการเป็นอาจารย์แล้วครับ เช่นที่กล่าวมา ผมไม่สามารถสอนใครได้ครับ ขอได้รับโอกาสจากท่านทั้งสอง ด้วยความเสียใจในการกระทำอย่างหาที่สุดมิได้ และด้วยความเคารพอย่างสูงครับ

ปล. ตอนนี้เฟซบุ๊กหลักผมปิดไปแล้วครับ แต่จะขออนุญาตเปิดเร็วๆนี้เพื่อหางานใหม่ ขอโอกาสให้ผมแก้ไขด้วยนะครับ

ขออนุญาตชี้แจงเรื่องการใช้เฟซบุ๊กเฉพาะกิจนะครับ ต้องปิดเฟซบุ๊กหลักเพราะโดนสังคมประณาม ซึ่งผมสมควรโดนแล้วอย่างแน่นอน และเปิดไม่ได้นอกจากจะผ่านไปแล้ว 7 วัน เลยต้องสร้างเฟซบุ๊กเฉพาะกิจเพื่อมาชี้แจงและขอโทษสังคมครับ”