รักสนุก...ทุกข์สนัด


เพิ่มเพื่อน    

    เราสบายใจกันได้ไม่นานในการจัดการกับโควิด-19 แม้ว่าเราจะมีการติดเป็นกลุ่มก้อนที่สมุทรสาครและที่ตลาดบางแค ด้วยประสบการณ์ของคณะทำงานเราสามารถทำให้จำนวนคนติดเชื้อลดลงมาเป็นหลักสิบได้ ทางรัฐบาลก็ใจดี ยอมให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดทำการได้เกือบจะเป็นปรกติ โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีเหลือง สีเขียวและสีขาว ทาง ศบค.ก็กล่าวเตือนเราตลอดเวลาว่า อย่าประมาท การ์ดอย่าตก แต่แล้วก็มีคนที่ประมาทเพราะรักสนุก เห็นแก่ตัว ไม่มีจิตสาธารณะ ยังคงไปเที่ยวสนุกสนานกันเต็มที่ ดูจากคลิปที่เผยแพร่กันในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ก็เห็นได้ชัดว่าไปสถานบันเทิง (บางแห่ง) นั้น ไปทำอะไรกัน ทั้งผู้ประกอบการก็อยากมีรายได้ ไม่ต้องการรบกวนแขก จึงไม่มีการรักษามาตรการตามที่ ศบค.เขาแนะนำ ทั้งกิน ทั้งดื่ม ทั้งสรวลเสเฮฮาโดยไม่มีการใส่หน้ากาก ไม่มีการเว้นระยะห่าง กิจกรรมที่ทำกันนั้นสะท้อนชัดเจนว่าต้องการความสนุกเต็มที่โดยไม่ห่วงอะไรเลย ไม่ได้คิดเลยว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ใด

               นอกเหนือจากประชาชนโดยทั่วไปที่รักสนุกจะไปเที่ยวกันแบบไม่ระมัดระวัง ไม่ทำตามมาตรการที่ ศบค. กำหนดแล้ว ยังมีคนบางคนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ก็รวมอยู่ในผู้รักสนุกเหล่านี้ด้วย คนพวกนี้เป็นคนที่ควรปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประชาชน ถ้าจะพูดให้ชัดๆ ก็คือ เป็นรัฐมนตรีต้องคิดเป็น ต้องยับยั้งชั่งใจเป็น อย่าคิดแต่จะสนุกในเวลาเช่นนี้ ถ้าหากคนที่เป็นรัฐมนตรียังอดใจไม่ได้ที่จะไปเที่ยวสถานบันเทิง และใช้บริการในบางเรื่องที่เสี่ยงกับการติดโรค เมื่อประชาชนได้รับรู้เรื่องแบบนี้ หลายคนมีความรู้สึกหดหู่และรังเกียจ ว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ทำไมจึงไม่รู้จักคิดและทำสิ่งที่เหมาะที่ควร จริงอยู่กฎหมายไม่ได้ห้าม แต่คนเราจะยึดแต่หลักนิติธรรมไม่ได้ ต้องยึดหลักจริยธรรม ศีลธรรม คุณธรรม และความชอบธรรมด้วย

               พอติดเชื้อขึ้นมา ก็ไม่กล้าที่จะบอกว่าไปไหนมาไหนบ้าง ที่เป็นเช่นนั้นก็คงเป็นเพราะอาจจะไปที่ไม่ควรไป ก็คงรู้สินะว่าได้ไปในที่ไม่ควรไปมา จึงไม่กล้าบอก แต่การให้ข้อมูลไม่ครบ หายไปบางช่วง บางวันนั้น ประชาชนย่อมตั้งข้อสงสัยและปักใจเชื่อไปแล้วว่าต้องไปยังที่อโคจรมาเป็นแน่แท้ และการไปยังสถานที่ดังกล่าวนั้น ก็น่าจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควรทำ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้ คนที่เขาต้องทำงานด้วย เขาก็จะกลายเป็นคนที่เสี่ยง แล้วใครจะดูแลตัวเองได้อย่างไร การเป็นบุคคลสาธารณะนั้น จะต้องทำงานร่วมกับผู้คนจำนวนมาก ดังนั้น ถ้าคิดเป็นย่อมตระหนักรู้ดีว่าในสภาวะเช่นนี้ ควรประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ตัวเองปลอดภัย ให้คนอื่นที่ต้องทำงานด้วยปลอดภัย การกระทำที่เอาตัวเองไปติดโรคมานั้น นอกเหนือจากเป็นอันตรายด้านสุขภาพแล้ว ยังทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนเรื่องการฉีดวัคซีนด้วย และยังทำลายความเชื่อมั่นในวัคซีน และการทำงานของ ศบค.ด้วย เป็นรัฐมนตรีแต่ยังไปเที่ยวสนุกสนาน ไม่ทำตามมาตรการที่หมอแนะนำ สมควรถูกตำหนิแรงๆ หรือถ้าทำสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร ก็น่าจะพิจารณาตัวเองนะ เวลาประชาชนทั่วไปติด หมอจะขอร้องให้คนไข้บอกรายละเอียดว่าไปไหนมาไหนมาบ้าง และขอร้องว่าอย่าปิดบัง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คนที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน และอยู่ใกล้ชิด เป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อไม่บอกความจริง แล้วจะตามคนที่เสี่ยงมาตรวจได้อย่างไร

               เมื่อสถานการณ์มาถึงจุดนี้ มีคนติดเป็นจำนวนมากเช่นนี้แล้ว มีสำนึกกันบ้างไหม รู้สึกผิดกันบ้างไหม ได้บทเรียนกันบ้างไหม อะไรที่ไม่ควรทำก็อย่าทำกันเลยนะ มีจิตสาธารณะคิดถึงคนอื่น คิดถึงประเทศชาติกันบ้างเถอะ เราเป็นประเทศที่ชาวโลกยกย่องว่าจัดการโควิดได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ มีคนติดน้อย มีคนตายน้อย เรามีภาพลักษณ์เป็นประเทศที่ปลอดภัย และรัฐบาลก็ตั้งใจจะเปิดประเทศรองรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาเที่ยวในประเทศ ทีแรกเรามั่นใจว่านักท่องเที่ยวส่วนมากจะมองว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศที่ปลอดภัยกว่าประเทศของเขา ดังนั้น การมาเที่ยวในประเทศไทยน่าจะทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ ไม่เสี่ยงกับการติดโควิด แต่เมื่อเราทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปแบบนี้ เราจะยังรักษาภาพลักษณ์ที่ดีงามดังกล่าวนั้นได้อีกหรือไม่

               ตอนนี้ตกอกตกใจกันทั่วบ้านทั้งเมือง ความสุขหายไปหมดแล้ว นี่ก็กำลังจะกลับบ้านไปเที่ยวสงกรานต์กันอีก จะทำตามมาตรการที่ ศบค.กำหนดกันหรือเปล่า ถ้าไม่ให้หยุดสงกรานต์เหมือนปีที่แล้ว คงด่ารัฐบาล เมื่อรัฐบาลให้มีสงกรานต์ที่มีมาตรการให้ระมัดระวัง ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก หวังว่าจะทำตามที่รัฐบาลขอร้องนะคะ กลัวจริงๆ ว่าจะมีคนดื้อ เห็นแก่ตัว สนุกสนานเต็มที่จนไม่ระมัดระวัง แล้วก็ติดเชื้อกันเป็นร้อยเป็นพัน หมดสภาพของการเป็นประเทศที่จัดการโควิดได้ดีในอันดับต้นๆ

               เหตุการณ์ที่เรากำลังเผชิญในขณะนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เตือนใจพวกเราทุกคนว่าจะร่วมงานสงกรานต์แบบไหน อย่างไร เพื่อร่วมมือกันต่อสู้กับโควิดกันต่อไป อย่าให้ในช่วงสงกรานต์มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเป็นพันๆ นะคะ เรากำลังจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว อย่าทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ว่าไม่ปลอดภัยเลยนะคะ อันที่จริงแล้ว อยากจะชวนให้พิจารณากันนะคะ ไม่รู้ว่าจะสายไปหรือเปล่า ถ้าจะชวนให้ลองพิจารณาตัดสินใจเรื่องการปฏิบัติตนในช่วงสงกรานต์นี้

               ถ้าสงกรานต์ปีนี้จะไม่กลับบ้านอีกสักปีจะดีไหมคะ เป็นห่วงพ่อแก่แม่แก่ที่เป็นกลุ่มสี่ยง เพราะการที่ใครคนใดคนหนึ่งติดเชื้อนั้น อาจจะไม่แสดงอาการ แต่ก็เป็นคนที่แพร่เชื้อให้คนอื่นได้ หนุ่มสาวแข็งแรง หากติดเชื้อก็ไม่ได้เจ็บป่วยรุนแรง และอาจจะรักษาหายได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับผู้สูงวัยนั้น หากติดเชื้อ อาการจะรุนแรง และถึงแก่ชีวิตได้

               ถ้าจะต้องไปจริงๆ ก็ควรอยู่ที่บ้านกับญาติผู้ใหญ่ด้วยการปฏิบัติตนตามมาตรการที่ ศบค.แนะนำได้อย่างเคร่งครัด ยึดหลักไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับญาติผู้ใหญ่

               การออกไปเล่นสงกรานต์ ไม่ว่าจะไปเล่นที่ใดก็ตาม ก็ควรปฏิบัติตามที่ ศบค.ขอร้อง นั่นคือต้องไม่มีการสาดน้ำ ไม่มีการประแป้ง และไม่ควรไปร่วมงานที่มีคนจำนวนมาก เวลาไปร่วมงานไหนก็ตาม ต้องใส่หน้ากาก พกเจลล้างมือ หยิบจับอะไร ก็ควรจะหยิบเจลออกมาล้างมือเสมอ ให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างเอาไว้เสมอ ไม่เข้าใกล้คนในระยะที่น้อยกว่าหนึ่งเมตร จำไว้ว่าระวัง “รักสนุกจะทุกข์สนัด” นะคะ.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"