เหลียวมองรอบๆเหตุบ้าน-การเมือง


เพิ่มเพื่อน    

      ปิดท้ายสุดสัปดาห์...ข่าวคราวความเป็นไปในบ้านยังคงทะลักออกมาเป็นลิ่มๆ มีทั้งจับพระ จับเด็กที่ถูกนำไปขยายวงให้เป็นเรื่อง เป็นราว ยิ่งขึ้นไปอีก มีทั้งความเคลื่อนไหวของผู้ที่อยากเลือกตั้งแต่ไม่อยากถูกจับ อย่างพวกบรรดานักการเมืองทั้งหลาย ที่เริ่มออกมาขยับเนื้อ ขยับตัว เข้มข้น ขุ่นคลั่ก ขึ้นไปตามลำดับ...

                                                             ---------------------------------------------------------

      สำหรับจับพระนั้น...คงต้องซุบซิบ นินทา กันอีกยาว ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเก่า เรื่องเดิมๆ แต่การเอาจริง-เอาจัง ไม่ลูบหน้า ปะจมูก ลูบบาตร ปะจีวร เหมือนอย่างเท่าที่เคยเป็นมา น่าจะก่อให้เกิด ผลบวก มากกว่า ผลลบ อยู่แล้วแน่ๆ การพิสูจน์กันระหว่าง กฎพระธรรมวินัย กับ กฎหมาย ว่าอะไรจะดุเดือด เลือดพล่าน มากกว่า คงต้องถือเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากันไปตาม กฎแห่งกรรม นั่นแหละ...เจริญพร ส่วนสำหรับพระดี พระแท้ ที่ท่านพลอยถูก ลูกหลง ไปด้วย ก็คงไม่ถึงกับน่าห่วง น่ากังวล มากมายซักเท่าไหร่นัก ถ้าว่ากันตาม พุทธภาษิต ที่สรุปเอาไว้ประมาณว่า ธัมโม หเว รักขติ ธรรมะจาริง หรือ ธรรมะ...ย่อมคุ้มครอง ผู้ประพฤติธรรม นั่นแล...

                                                                ---------------------------------------------------

      ส่วนจับเด็กนั้น...อันที่จริงต้องถือว่าเขาก็ยังคงเป็น เด็ก อยู่นั่นเอง ไม่ได้ถึงกับประพฤติผิด คิดร้าย อันตรายต่อบ้านเมืองแบบชนิดมิอาจให้อภัยได้ ใครที่เคยเป็นเด็กมาก่อนก็น่าจะพอเข้าถึง-เข้าใจได้ไม่ยาก ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากอะไรมันไม่ถึงกับหนักหนา สาหัส จนเกินไป การเปิดโอกาส ให้โอกาส และการให้อภัยต่อเด็กๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้ซึ่งได้ชื่อว่า ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ที่ไม่ใช่ใหญ่แบบไร้หลัก ก็ไม่น่าจะถึงกับต้องไปเคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ไล่บี้ ไล่เช็ด กะจะเอาให้ตายให้จงได้ อะไรที่มันไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบกระเทือนต่อตัวบทกฎหมาย อย่างการ ประกันตัว เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันตามลำดับขั้น ก็น่าจะผ่อนๆ คลายๆ อย่าถึงขั้นต้อง เชือดเด็กให้ลิงดู อะไรประมาณนั้น...

                                                                 ---------------------------------------------------

      แต่ที่สอดแทรกตามมาติดๆ...คือเรื่องของการขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว ของบรรดาผู้ที่กำลังเตรียมตัวเอาไว้สำหรับการเลือกตั้ง ซึ่งออกจะคึกคัก โครมคราม ขึ้นไปตามลำดับ อันนี้...ก็น่าคิด น่าติดตามอยู่ไม่น้อย คือด้วยเหตุเพราะแนวโน้มการเมืองในอนาคตข้างหน้า มันคงออกไปในแนว ประชาธิปไตยแบบไฮบริด อยู่แล้วแน่ๆ คือประชาธิปไตยแบบลูกผสม หรือแบบจัดสรรปันส่วนผสมก็แล้วแต่จะว่ากันไป การขยับเนื้อ ขยับตัว การเตรียมตัวสำหรับการเมืองในแนวโน้มเช่นนี้ จึงออกจะแตกต่างไปจากครั้งเดิมๆ ไม่มากก็น้อย และใครก็ตามที่ไม่ได้คิดในเรื่องนี้เอาไว้ด้วย ย่อมมีสิทธิ์ ใครไม่ทัน...เป็นคนหลงทาง เอาง่ายๆ...

                                                                ------------------------------------------------------

      ซึ่งในแง่ของความเป็นประชาธิปไตยนั้น...คงแทบไม่ต้องเสียเวลาเก็บมาคิดมากมายซักเท่าไหร่ เพราะคิดๆ กันมาเกือบร่วมศตวรรษเข้าไปแล้ว ก็ยังคงไม่ไปไหน คือวนไป-วนมา ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ จนกลายเป็น วงจรอุบาทว์ รอบแล้ว รอบเล่า มาโดยตลอด แต่ที่น่าสนใจ และน่าคิด น่าติดตามเอามากๆ ก็คือ สิ่งที่จะถูกนำมา ผสม กับประชาธิปไตยนั่นแหละ ว่ามันจะผสมกันแบบไหน อย่างไร ถึงจะทำให้พ้นๆ ไปจากวงจรอุบาทว์ เกิดการ เดินหน้าประเทศไทย ไปสู่แผ่นดินอันงดงาม หรือแผ่นดินอันงดงอม กันแน่!!!

                                                                  --------------------------------------------------------

      จะเอา พลังงานชีวภาพ มาผสมกับ พลังงานฟอสซิล....ให้กลายเป็น แก๊สโซฮอล์ แบบที่นำมาใช้กับรถราทั้งหลาย ได้อย่างเหมาะสม ลงตัว หรือไม่ อย่างไร สูตรผสม หรือส่วนผสม ระหว่างพลังงานทั้งสองควรจะมี สัดส่วน ระหว่างกันและกันในระดับไหน ถึงจะไม่ทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการติดๆ ดับๆ หรือเกิดอาการ น็อกรอบ ขึ้นมาดื้อๆ อะไรที่มันไม่ควรจะมากไป และอะไรที่มันไม่ควรจะน้อยไป อันนี้นี่แหละ...ที่ต้องคิดคำนวณกันแบบละเอียด ประณีต และลึกซึ้งให้มากๆ เข้าไว้ เพราะถ้าคิดกันแบบหยาบๆ ง่ายๆ คิดไปตาม ระบบอุปถัมภ์ ยึดเอาการต่อเส้น ต่อสาย ยึดอยู่กับ ตัวบุคคล เป็นหลัก แทนที่มันจะให้พลังงานแบบน้ำมันเบนซิน ดีเซล แก๊สโซฮอล์ เผลอๆ...มันอาจกลายเป็น น้ำมันหมู ไปแทนที่...

                                                                   -------------------------------------------------------

      ส่งผลให้เกิดอาการหมูหก หมูตก จนสุดท้าย...อาจต้องย้อนกลับไปสู่ วงจรอุบาทว์ กันจนได้ เพราะตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหมูหก หมูตก ไปแล้วไม่รู้จะกี่ชิ้นต่อกี่ชิ้น เล่นเอาหัวหน้าหมู่ หัวหน้าหมู ออกอาการหัวทิ่ม คะแนนนิยมหล่นวูบชนิด แฟนเพจ ที่ถูกเรียกร้องให้ กดไลค์ ให้กับนายกรัฐมนตรี ดันหันไป กดไม่ไลค์ รวดเดียวกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุเพราะสูตรผสม หรือส่วนผสม มันไม่เหมาะสม ลงตัว มาโดยตลอดนั่นแล ยิ่งถ้าหากคิดจะเติมรถ ด้วย น้ำมันหมู ไปอีกช่วง 4 ปีข้างหน้า โอกาสที่เครื่องยนต์จะสะดุด หัวทิ่ม หัวตำ ก็น่าจะพอเห็นๆ กันอยู่...

                                                                  --------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าการขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว ของพรรคการเมืองในแต่ละพรรค จะคึกคัก โครมคราม ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ คงต้องอาศัยหลักพิจารณาสูตรผสม หรือส่วนผสม ของแต่ละพรรค แต่ละกลุ่ม ลงไปให้ลึกๆ นั่นแหละว่า อะไรที่มันเหมาะสำหรับการเติม เครื่องยนต์ประเทศไทย ให้มีโอกาสเดินหน้าไปได้อย่างเรียบ นิ่ง สม่ำเสมอ เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเหมาะสม สอดคล้อง กับคุณลักษณะพิเศษของสังคมไทย ได้แบบจริงๆ จังๆ อะไรที่เป็น ของจริง-ของแท้ และอะไรที่เป็นแค่ ของปลอม กันแน่ ก่อนที่จะตัดสินใจโดดลงไปใน บ่อเกรอะ กันแต่ละบ่อ...

                                                                       -------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Doug Floyd... You dont get harmony when everybody sings the same note.- ความกลมกลืนมิอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าหากทุกคนร้องเพลงด้วยตัวโน้ตตัวเดียวกัน...

                                                                          --------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"