อยู่ให้คุ้มค่า! ด้วยบ้านโซลาร์เซลล์ ฟังก์ชันด้วยนวัตกรรมตอบโจทย์ทุก GEN


เพิ่มเพื่อน    

ช่วงนี้อากาศร้อนจัด! จนทำให้หลายๆ คนต้องหันมาพึ่งเครื่องปรับอากาศ (แอร์) พัดลม ช่วยคลายความร้อน แต่นั่นก็ต้องแลกมากับบิลค่าไฟที่ต้องควักจ่ายสูงขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว...แน่นอนว่ายังมีผู้ที่โชคดีที่สามารถพลิกวิกฤติจากอากาศที่ร้อนจัดของเมืองไทย แปลงแสงแดดให้ลดค่าใช้จ่าย แถมเพิ่มรายได้อีกทางจากบ้านโซลาร์เซลล์

เนื่องด้วยเทคโนโลยีการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูฟท็อป) หรือบ้านโซลาร์เซลล์ ปัจจุบันกลายเป็นเทรนด์โลกที่สามารถตอบโจทย์ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมเพราะเป็นพลังงานสะอาดในการร่วมกันลดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) หรือลดโลกร้อนแล้ว ยังมีต้นทุนค่าไฟเฉลี่ยที่ลดลงต่อเนื่องจนหลายส่วนคาดการณ์ว่าต้นทุนจะเท่ากับพลังงานฟอสซิลในไม่ช้า
    

ประกอบกับประเทศไทยโดยกระทรวงพลังงงานยังมีนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาด โดยเฉพาะจากแสงอาทิตย์ ด้วยการเปิดโครงการโซลาร์ภาคประชาชน รับซื้อไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้จากโซลาร์รูฟท็อปปัจจุบันเพิ่มเป็น 2.20 บาทต่อหน่วย จากเดิม 1.68 บาทต่อหน่วย ซึ่งทำให้ไฟที่เหลือใช้สามารถนำไปขายสร้างรายได้อีกทางที่มีความคุ้มค่ามากขึ้น ทำให้การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์คืนทุนได้เร็วกว่าเดิม เรียกว่าประหยัดรายจ่ายที่ปกติต้องจ่ายค่าไฟแพงกว่า 3 บาทต่อหน่วยแล้ว พอช่วงใดที่ไฟเหลือก็ยังส่งขายได้อีกด้วย
    

ปัจจุบัน การติดตั้งโซลาร์ฯ ในบ้านที่อยู่อาศัยและอาคารโรงงาน โรงพยาบาลจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและได้เปลี่ยนแปลงตลาดพลังงานไปอย่างสิ้นเชิง เพราะทำให้คนที่เคยเป็นเพียงผู้บริโภค หรือ Consumer กลายเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคอยู่ในคนคนเดียวกัน หรือ Prosumer ซึ่งตลาดในต่างประเทศได้เติบโตอย่างมาก คาดว่าในที่สุดไทยจะเดินตามทิศทางของโลกอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
    

อย่างไรก็ตาม การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยเพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใครสักคนหนึ่งที่กำลังมองหาบ้านใหม่เริ่มกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เพราะมีการติดตั้งมาให้พร้อมสรรพ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อ และหนึ่งในผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ดังกล่าวก็เพื่อรองรับอนาคตไว้ให้ลูกบ้านหมดแล้ว คงหนีไม่พ้น “บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)” หรือ SENA
    

นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ SENA กล่าวว่า เป็นการออกแบบรายละเอียดของฟังก์ชันที่เข้ามาตอบโจทย์ไว้ให้คนรักบ้านทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่การลดค่าใช้จ่ายให้ผู้อยู่บ้านช่วงกลางวัน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ทำให้ใครหลายคนต้องมาทำงานที่บ้าน (Work From Home) หยุดกิจกรรมนอกบ้าน กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น ส่งผลให้การใช้ไฟโดยเฉพาะจากเครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และหากไฟฟ้าเหลือใช้ SENA ยังได้ผลักดันลูกบ้านเข้าร่วมโครงโซลาร์ภาคประชาชน เพื่อขายไฟที่เหลือเข้าระบบรัฐ ระยะแรก 6 โครงการ 164 ราย คิดเป็นจำนวนขายไฟฟ้าเข้าระบบ 394.40 กิโลวัตต์ และล่าสุดอีก 7 โครงการ รวม 237 ราย นับเป็นการเพิ่มรายได้ที่คำนวณหักลบแล้วก็จะทำให้รายจ่ายต่ำลงอย่างมาก เหมาะกับยุควิถีใหม่ (New Normal) อย่างแท้จริง
    

บ้านของใครวันนี้อาจจะไม่ใช่เป็นการซื้อบ้านหลังแรก แต่จะเป็นบ้านที่พวกเขาต้องอยู่ไปตลอดชีวิต โครงการ SENA ทั้ง 17 โครงการในปีนี้ต้องตอบสนองความสะดวกสบาย มีฟังก์ชันใช้งานครบและเหมาะกับคนทุกกลุ่ม และเป็นบ้านโซลาร์เซลล์เพื่อตอบโจทย์พลังงานสะอาด ลดโลกร้อน แม้แต่โครงการบ้านขนาดเล็ก หรือทาวน์โฮม เราก็ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้ ขนาด 1.28 กิโลวัตต์ เมื่อประหยัดค่าไฟได้ก็สามารถนำเงินไปผ่อนบ้านได้ และที่สำคัญต่อให้อายุในการซื้อบ้านครั้งแรกเป็นวัยทำงาน แต่บ้านต้องสามารถอยู่ได้แม้จะเข้าสู่ช่วงผู้สูงอายุ ก็ต้องอยู่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย และมีความสุข เป็นการลงทุนครั้งเดียวที่คุ้มค่า” นางเกษรากล่าว
    

อย่างไรก็ตาม เขาย้ำให้เห็นว่า บ้านที่ติดตั้งแผงโซลาร์ฯ ก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน เพราะรัฐส่งเสริมมากขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย ดังนั้นการเลือกโซลาร์เซลล์ต้องเลือกจากบริษัทที่มีความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานระดับสากล ที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าแผงโซลาร์ฯ ที่มีอายุถึง 25 ปีจะอยู่ได้ครบจริงๆ เพราะหากบริษัทที่ไปซื้อแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่สามารถอยู่ถึง 25 ปี การซ่อมบำรุง ดูแลรักษา ประกันจะทำอย่างไร ดังนั้นควรศึกษาแผงโซลาร์เซลล์ ตัวแปลงไฟ สายไฟและอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนการติดตั้งให้มีคุณภาพดี และการดูแลหลังการขายที่ครบวงจร และเป็นมืออาชีพ มีความรู้และประสบการณ์จริง เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการใช้งาน
  

 นอกจากนี้ SENA ยังนำเทคโนโลยีมาติดตั้งในบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมถึงมีฟีเจอร์ระบบที่เรียกว่า SOS ช่วยดูแลคุณยามฉุกเฉินตลอด 24 ชม., Triple Security สามารถดู CCTV เชื่อมโยงผ่าน App 360° ช่วยให้คุณสะดวกสบายตลอด 24 ชม. ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่มีผู้สูงอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง และมีการออกแบบห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องผู้สูงอายุในอนาคตได้ ปลั๊กไฟถูกออกแบบให้สูงกว่าพื้น 40 ซม. เพื่อผู้สูงอายุสามารถเสียบปลั๊กได้เองโดยไม่ต้องก้ม เป็นต้น เหล่านี้จึงเข้ามาตอบโจทย์ให้กับทุกช่วงจังหวะชีวิตของผู้อยู่อาศัย
  

 “การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม ทุกโครงการของเสนาจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ โดยในปี 2564 มีเป้าหมายที่จะเปิดทั้งหมด 17 โครงการ เพราะเรามุ่งที่จะตอบสนองให้คนรักบ้านมีครบทุกฟังก์ชัน ทั้งความสะดวกสบาย ลดค่าใช้จ่าย ลดโลกร้อน ที่สำคัญต้องเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ 3 เจเนอเรชั่น หรือเหมาะสมกับทุกช่วงวัยของชีวิตตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ไปสู่สังคมสูงวัย จากการเปิดโครงการที่น่าสนใจที่จะได้เห็นในช่วง ต้นเดือน พ.ค.นี้ ภายใต้แบรนด์เสนา เวล่า เทพารักษ์-บางบ่อ” นางเกษรากล่าว
    

โครงการเสนา เวล่า เทพารักษ์-บางบ่อ เป็นทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ที่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจญี่ปุ่น บ.ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป จำกัด ได้นำการออกแบบในแนวคิดญี่ปุ่น “Geo fit+” มาปรับใช้ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทย เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ได้ทั้งการประหยัดพลังงาน สิ่งแวดล้อมที่ดี รองรับทุกไลฟ์สไตล์ และใส่ใจทุกดีเทลที่มีความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน ด้วยนวัตกรรมการออกแบบความสะดวกที่หลากหลายในความเป็นส่วนตัว จากรูปแบบของที่อยู่อาศัยทาวน์โฮมในอดีตที่มีผนังเดียวกัน ปัจจุบันได้ออกแบบแยกผนังกั้นเพื่อให้ความรู้สึกที่อยู่อาศัยเสมือนการอยู่บ้านเดี่ยว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
    

แนวโน้มเทคโนโลยีแผงโซลาร์เซลล์ปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของประสิทธิภาพ ที่จะมีขนาดการใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยแต่ได้ไฟในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเทรนด์ของโลกกำลังมาแรง เพราะไม่เพียงตอบโจทย์เป็นพลังงานสะอาดช่วยลดโลกร้อน แต่ยังช่วยให้การผลิตไฟฟ้ามีการพึ่งพาตนเองมากขึ้นในการลดค่าใช้จ่าย....


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"