จับตาคดีข้าวจีทูจี"ภาคสอง" 3พี่น้องชินวัตรรอดหรือร่วง?


เพิ่มเพื่อน    

          ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มี.ค. ต่อต้นเดือน เม.ย.2564 เรียกได้ว่าอุณหภูมิทางการเมืองกำลังระอุไม่แพ้สภาพอากาศตอนนี้!   

            เนื่องจากศาลปกครองกลางนัดฟังคำพิพากษา 2 คดีสำคัญ ได้แก่ 29 มี.ค.2564 คดีชดใช้ค่าเสียหายโครงการระบายข้าวจีทูจี ที่มีบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์, ภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ กับอดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ เป็นคนโดนคำสั่งให้ชดใช้เงินรวมกันกว่า 2 หมื่นล้านบาท

            ต่อด้วยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2564 คดีชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว กรณีกล่าวหา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปล่อยปละละเลย ไม่ระงับยับยั้งความเสียหาย โดนคิดความเสียหายทางละเมิด 20% หรือราว 3.5 หมื่นล้านบาท จากยอดรวมทั้งหมด 1.78 แสนล้านบาทเศษ

            2 คดีดังกล่าวหากดูเผินๆ เหมือนจะคล้ายคลึงกัน คือ กรณีบุญทรงกับพวกโดนกระทรวงพาณิชย์สั่งชดใช้ค่าเสียหายรวม 2 หมื่นล้านบาทเศษ ส่วนกรณียิ่งลักษณ์โดนกระทรวงการคลังสั่งชดใช้ค่าเสียหาย 20% หรือราว 3.5 หมื่นล้านบาท

            แต่หากพิจารณาจากเนื้อหาคำพิพากษาให้ละเอียด เห็นได้ชัดเจนว่า ข้อโต้แย้งฝั่งบุญทรงและฝั่งยิ่งลักษณ์แทบจะโยนกันไปมา เช่น กรณีขายข้าวจีทูจี บุญทรงกับพวกโต้แย้งว่า การดำเนินการเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลขณะนั้น และผ่านมติ ครม.ทุกอย่าง นัยคือ ‘ผ่านตา’ ยิ่งลักษณ์ที่เป็นนายกฯ มาแล้วใช่หรือไม่?

            ทว่า ฝ่ายยิ่งลักษณ์โต้แย้งลักษณะว่า ตัวเองเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับบน มีหน้าที่กำกับนโยบาย พอทราบว่าโครงการมีปัญหาได้สั่งการระดับเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการแก้ไขแล้ว และไม่มีส่วนได้เสียอะไรในการทุจริตระบายข้าวจีทูจีแม้แต่นิดเดียว?

            ในรายละเอียดของคดีขายข้าวจีทูจี พยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนมัดแน่นว่า บุญทรงกับพวกรวมหัวกับเอกชน กลุ่มโรงสีข้าว ในการทำสัญญาจีทูจีเก๊ เปิดช่องให้นำข้าวมาเวียนขายในประเทศ สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ ทำให้ตัวละครสำคัญบางคนถึงกับต้องหนีไปต่างประเทศ

            ส่งผลให้ศาลปกครองกลางเชื่อว่า บุญทรงกับพวกมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต และต้องชดใช้ค่าเสียหายรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท

            ส่วนคดีปล่อยปละละเลย ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการจำนำข้าวที่ยิ่งลักษณ์โดนนั้น ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการสอบรับผิดทางละเมิดของสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่มีพยานหลักฐานอย่างแน่ชัดว่า "ยิ่งลักษณ์" มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นนายกฯ และประธานบอร์ดข้าวแห่งชาติ (กขช.) กำกับดูแลนโยบายเพียงอย่างเดียว

            ทำให้นารีขี่ม้าขาวรอดตัวไป เล่นเอาลิ่วล้อออกมาสดุดี ชมกระบวนการยุติธรรม โจมตีรัฐบาลประยุทธ์ที่สืบทอดอำนาจมาจาก คสช. กลั่นแกล้ง และเจ้านายตัวเองไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายละเมิดกว่า 3 หมื่นล้านบาท  

            ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็บอกว่าคดียังไม่จบ คาดกระทรวงคลังจะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีในศาลปกครองสูงสุดต่อไป 

                "เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดก็ต้องว่ากันไปเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อชนะบ้างแพ้บ้างก็ว่ากันไป ไม่ได้ติดใจหรือมีปัญหาอะไร ขออย่าโทษก็แล้วกันว่า พอฝ่ายใดชนะแล้วศาลตัดสินยุติธรรม พอแพ้ก็บอกว่าไม่ยุติธรรม ลำเอียง สองมาตรฐาน อย่าคิดอย่างนั้น ปล่อยให้ท่านดำเนินคดีไปให้ถึงที่สุด" รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายระบุ

                นอกจากนี้ นึกว่าคดีดังกล่าวจะมีเพียงเท่านี้ เพราะคดีข้าวจีทูจียังมีภาคสองรออยู่ในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. โดยมีการกล่าวหาบุคคลทั้งระดับนักการเมือง อดีตข้าราชการ ข้าราชการ และเอกชน รวมกว่า 71 ราย โดยมีคนสำคัญถูกเชื่อมโยงถึงด้วย ได้แก่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เข้าไปพัวพันด้วย

            มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่า สาเหตุสำคัญทำให้ 3 พี่น้องชินวัตรต้องพัวพันติดร่างแหในข้าวจีทูจีภาคสอง เพราะปรากฏพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอทักษิณกำลังโฟนอินเข้ามาสั่งการเกี่ยวกับการระบายข้าวจีทูจีให้แก่บุญทรงและเยาวภา โดยมียิ่งลักษณ์ร่วมฟังด้วย ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ เพราะไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่

                รอดูผลคดีข้าวจีทูจี "ภาคสอง" กันให้ดีๆ คราวนี้คนตระกูลชินวัตรจะรอดหรือไม่.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"