“ป้อม”ปราบศัตรูพ่าย แต่ กทม. -พปชร. โคม่า เสี่ยงสูญพันธุ์!

สนามเลือกตั้งพื้นที่”กรุงเทพมหานคร”ที่จะมีขึ้น ซึ่งมีส.ส.เขต ให้ชิงชัยกัน 33 เก้าอี้ เห็นแววมาแต่ไกล จะเป็นการเลือกตั้งที่ เข้มข้น แน่นอน

เพราะลำพัง แค่คู่แข่งเดิม ที่มีอยู่จากตอนเลือกตั้งปี 2562 แต่ละพรรค ก็มีฐานเสียง -คะแนนนิยม-กระแสพรรค แบบไม่มีใครยอมใคร ไม่ว่าจะเป็น พรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล-ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ

แต่เลือกตั้งที่จะมีขึ้น จะมีพรรคการเมืองที่มาร่วมแชร์เก้าอี้ -แบ่งคะแนนอีกหลายพรรค ไม่ว่าจะเป็น”ภูมิใจไทย”ที่เลือกตั้งรอบนี้ คาดหวังกับการต้องปักธงมีส.ส.กทม.ให้ได้ หลังทุ่มสรรพกำลังไปเยอะ

และยังมี”รวมไทยสร้างชาติ”ที่ได้ บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ มาเป็นตัวหลักในการเรียกคะแนน สร้างกระแสในกทม.รวมถึงได้ส.ส.กทม.จากพลังประชารัฐ เช่น ประสิทธิ์ มะหะมัด -ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ตลอดจน ยังมี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. พลังประชารัฐ ที่แม้จะสอบตกตอนเลือกตั้งรอบที่แล้ว แต่ก็ได้คะแนนมาอันดับสองแพ้ไม่ห่างมากนัก  เช่น อ้น ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกรัฐบาล  

รวมไทยสร้างชาติ จึงเป็นอีกหนึ่งพรรค ที่มีโอกาสลุ้นปักธงในกทม.

อีกทั้งยังมีพรรคอื่นๆเช่น ไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์

และ สร้างอนาคตไทย ของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่หากสองพรรคนี้ รวมพรรคกันได้ ทำให้มีลุ้นเบียดแย่งเก้าอี้ในกทม.ได้เช่นกัน

ทั้งหมด ทำให้สนามเลือกตั้ง กทม.สุดเข้มข้นเร้าใจ

อย่างไรก็ตาม  เลือกตั้งรอบนี้ หลายคนดูจะมองตรงกันว่า

พรรคที่น่าจะเหนื่อยหนักในการลงทำศึกกทม.ก็คือ”พลังประชารัฐ” เพราะจากที่เคยเป็นแชมป์ส.ส.เขต กทม. 12 เก้าอี้ ตอนเลือกตั้งปี 2562

ทว่าเลือกตั้งรอบนี้ ไม่แน่เผลอๆ พลังประชารัฐ อาจเข้าขั้นโคม่า มีความเสี่ยงสูงที่จะถึงขั้น”สูญพันธุ์” ซ้ำรอยเดิม  ประชาธิปัตย์ ตอนเลือกตั้งปี 2562 ก็ได้

เพราะสนามกทม. ใครต่อใครก็รู้กันดี เรื่อง”กระแส”สำคัญมาก ต่อการกำหนดผล”แพ้-ชนะ”

โดยพบว่า รอบนี้ พลังประชารัฐ กระแสในกทม.ตกลงอย่างมาก  ยิ่งการไม่มี พลเอกประยุทธ์ มาเป็นตัวชูโรง ในการหาเสียงในสนามกทม. ก็ยิ่งทำให้ พรรคไม่มีจุดขาย ที่จะสร้างกระแสได้

ขณะเดียวกัน บรรดาส.ส.กทม.พลังประชารัฐเดิม ก็แยกย้ายออกจากพรรคกันไปเกือบหมด เหลือแค่”ศิริพงษ์ รัศมี ส.ส.กทม.เขตหนองจอก”คนเดียว

ทำให้สถานการณ์โดยรวม ในพื้นที่กทม. พลังประชารัฐ ทรงไม่ค่อยดีในการลงทำศึก โดยเรื่องว่าจะ”รักษาแชมป์กทม.”ให้ได้เป็นสมัยที่สอง เรื่องนี้จบไปแล้ว ลำพังแค่จะได้สักหนึ่งเก้าอี้ หากกระแสพรรคในช่วงใกล้เลือกตั้งไม่กระเตื้อง พรรคไม่มีหมัดเด็ดอะไรมาหาเสียง ก็หนักเอาการในการสู้กับพรรคอื่น

อย่างไรก็ตาม เมื่อการศึกยังไม่เริ่ม ยังมีเวลาและโอกาสให้สู้อยู่ พลังประชารัฐ ก็ยังไม่ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ ทำให้เห็นการขยับ ของพรรคพลัง ในการลงทำศึก

เห็นได้จาก เมื่อ 24 มกราคมที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรและแกนนำพรรค ร่วมกันเปิดตัว “สกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. “ที่เข้ามาเป็น หัวหน้าทีม กทม.ให้พลังประชารัฐ  ภายใต้ สโลแกนหาเสียงกทม.คือ “พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ” พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต กทม. 28 เขต ที่ก็มีทั้งอดีตส.ส.-อดีตผู้สมัครส.ส.-นักการเมืองหน้าใหม่ที่ลงรอบนี้ครั้งแรก

อาทิ นิธิ บุญยรัตกลิน บุตรชาย บิ๊กบัง พลเอกสนธิ อดีตประธานคมช. ที่ทำรัฐประหารตอนปี 2549 สามี เป้ย ปานวาด เหมมณี นักแสดงและนางแบบดัง -ร.อ.รชฎ พิสิษฐบรรณกร อดีตส.ส.กทม. ไทยรักไทย - -สุวัฒน์ ม่วงศิริ อดีตส.ส.กทม. ยุคไทยรักไทย -นาถยา แดงบุหงา อดีตส.ส.กทม. ประชาธิปัตย์ อดีตนางเอกหนังไทยชื่อดัง

โดย บางคนรอบที่แล้ว เคยลงสมัครส.ส.เขต กทม.เพื่อไทย แต่สอบตก มารอบนี้ เปลี่ยนมาอยู่กับพลังประชารัฐแทนเช่น พ.ต.ท.วันชัย ฟักเอี้ยง  -ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อํานรรฆสรเดช  

พบว่า พลังประชารัฐ วางคิวให้ บิ๊กป้อม คิกออฟลงพื้นที่และขึ้นเวที ปราศรัย ครั้งแรกที่เขตเลือกตั้ง ”ป้อมปราบศัตรูพ่าย”

เพื่อถือเคล็ด เอาฤกษ์เอาชัย เพราะป้อมปราบศัตรูพ่าย ไปคล้องกับ ชื่อเล่น ของ พลเอกประวิตร คือ ป้อม ที่จะปราบคู่แข่งศัตรูการเมืองให้พ่ายแพ้

แต่สุดท้าย “ป้อม”จะปราบศัตรู จนพ่าย ทำให้ พลังประชารัฐ ได้ส.ส.กทม.หรือไม่ หลายคนบอกว่า เสียวจะสูญพันธุ์ เสียมากกว่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของไทยโพสต์ได้ทุกช่องทางที่

Website : https://www.thaipost.net/

Youtube : https://www.youtube.com/c/ThaipostTV

Facebook : https://www.facebook.com/thaipost

Twitter : https://twitter.com/thaipost

Instagram : https://www.instagram.com/thaipost_ig/

Line : https://lin.ee/ukteb32