
วธ.โดย สวธ. จัดเต็มการแสดงวัฒนธรรมต้อนรับประชุมฟีฟ่า คองเกรส 2024 ถ่ายทอดอัตลักษณ์แต่ละภาคของไทย เน้นกระชับ มีความเป็นสากล โชว์ Soft Power ไทย
15 พ.ค.2567 – นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ทางคณะกรรมการการฯ ได้มอบหมายให้ สวธ. จัดการแสดงทางวัฒนธรรม ในวันที่ 15 พฤษภาคม และวันที่ 16 พฤษภาคม โดยวันที่ 15 พฤษภาคม จะมีการจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล เพื่อต้อนรับตัวแทนจาก 212 ประเทศ ที่เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ครั้งที่ 74 สวธ. ได้จัดการแสดงทั้งหมด 4 ชุด ซึ่งจะมีความกระชับ สะท้อนมีความเป็นไทยในระดับสากล เปิดงานต้อนรับด้วย “รำฝรั่งคู่ ” ชุดวิจิตรนาฏกร เฉลิมพรมงคล ซึ่งเป็นการร่ายรำของคู่ละครพระ-นาง พร้อมกับถือพัดด้ามจิ๋วสีทองอร่าม โดยองค์ประกอบของการแสดงมีความประณีตทั้งในด้านกระบวนท่ารำ พัสตราภรณ์ ถนิมพิมพาภรณ์ และศิราภรณ์ แสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างงดงาม การแสดงชุดนี้จึงเหมาะแก่การแสดงต้องรับอาคันตุกะสำคัญของประเทศ
จากนั้นจะเป็นการแสดงพิเศษ “การขับร้องเพลงประสานเสียง” โดยคณะขับร้องประสานเสียงเยาวชนไทย ประกอบด้วย เพลงสงกรานต์ ภาษาอังกฤษ เพลง Can You Feel the Love Tonight และเพลง The Lion Sleeps Tonight ต่อด้วยการแสดง “หุ่นละครเล็ก” โดยคณะโจหลุยส์ ซึ่งการแสดงครั้งนี้ ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ ผสมผสานแบบร่วมสมัย โดยเหล่าพลวานรโชว์ลีลมเดาะฟุตบอล อีกทั้งหุ่นละคนจะนำของที่ระลึกไปมอบให้กับแขกผู้ทีเกียรติ สร้างความสุข สนุกสนาน และไฮไลท์การแวดง “โขน เรื่องรามเกียรติ์” โดยกรมศิลปากร
นายโกวิท กล่าวต่อว่า สำหรับการแสดงวันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งทางฟีฟ่า เลี้ยงขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ราชกรีฑาสโมสร จะเน้นการแสดง 4 ภาค ความเป็นทางการน้อยลง รูปแบบการแสดงเป็นการนำเสนอให้เห็นวัฒนธรรมไทยในหลายมิติ สร้างสรรค์การแสดงโดยการใช้รูปแบบการแสดงนาฏศิลป์ร่วมสมัย ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละช่วงการแสดงมาร้อยเรียงสร้างสรรค์ให้เป็นการแสดงในครั้งนี้ โดยเริ่มจากช่วงที่ 1 เปิดการแสดงด้วยการตีกลองอินทรเภรี ที่มีเสียงอันกึกก้องเกรียงไกร สื่อถึงปฐมฤกษ์แห่งความงดงามอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ต่อด้วยช่วงที่ 2 การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยใน 4 ภาค นำเสนอในรูปแบบของริ้วบวนทางวัฒนธรรม ที่จะมาถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแต่ละภาค ซึ่งแต่ละช่วงจะนำมาด้วย “นางเทพีจตุรทิศ” ทั้ง 4 ที่มีความวิจิตร สง่างาม นำพาแขกผู้มีเกียรติทุกคนได้สัมผัสถึงดินแดนแห่งความสุข เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันทางวัฒนธรรม อันได้แก่ ภาคเหนือ ขบวนฟ้อนผางประทีป ที่มีความอ่อนช้อยสวยงาม ,ภาคอีสาน ขบวนฟ้อนลำแคน ที่มีความสนุกสนานรื่นเริง ,ภาคใต้ ขบวนหนังตะลุงผืนใหญ่ ที่ผสมผสานกับผืนผ้าบาติก พร้อมด้วยขบวนรำราตรีบุหงา ซึ่งเป็นการแสดงที่มีอัตลักษณ์ กลิ่นอายวัฒนธรรมแห่งภาคใต้ที่งดงาม และภาคกลาง ขบวนกลองยาวหรรษา ที่จะนำพาความสุข สนุกสนาน พร้อมด้วยหัวโต กลองยาวที่จะมาสร้างสีสันแห่งความรื่นเริงให้กับแขกที่มาร่วมงานได้สัมผัส
ช่วงที่ 3 การแสดงเฉลิมฉลง ประเพณีสงกรานต์ไทย ที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก ให้เป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ปี2566 เปิดการแสดงด้วย นางมโหธรเทวี ซึ่งเป็นนางสงกรานต์ประจำปี 2567 ใช้ผู้แสดงทั้งหมด 5 คน ทุกคนจะร่วมเต้นพร้อมกับถือขันน้ำจำลองบรรยากาศความสนุกสนาน และสร้างความประทับใจ โดยให้แขกได้ร่วมรำวงไปพร้อมกับนักแสดง จากนั้นจบการแสดงด้วย นักแสดงทั้งหมด ร่วมระบำเฉลิมฉลอง ในความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ที่จะทำให้แขกที่เข้าร่วมเกิดความประทับใจไม่รู้ลืม ส่วนของที่ระลึก สวธ.ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือก โดยมี 4 รายการ คือ หัวโขน จัดทำโดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มอบให้ประธานฟีฟ่า เข็มกลัดมาลัย ,เครื่องหอม และผ้าขาวม้า ทำเป็นรูปพวงมาลัย ซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้ดำเนินการจัดหา
“ ทางคณะกรรมการฯ เน้นย้ำให้การจัดแสดงกระชับ ไม่ยืดเยื้อ และเป็นเรื่องที่มีความเป็นสากล เกี่ยวข้องกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือ ICH ของไทย ไม่ว่าจะเป็นประเพณีสงกรานต์ โขน ที่ได้รับยกย่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งผมได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมรับทราบแล้ว โดย รมว.วธ. ได้มอบให้ จัดเตรียมการแสดงที่สื่อถึงวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ สู่สายตาชาวโลก” นายโกวิท กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วธ.ถวายพระสมัญญา‘สิริศิลปิน ศิลปินแห่งชาติ’ แด่กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ - รุ่งเพชร แหลมสิงห์ - นันทวัน เมฆใหญ่ คว้าศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง
วันที่ 27 ส.ค. 2568 เวลา12.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ ศูนย์การประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม ว่า คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาติ มายกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ ใน 3 สาขา ได้แก่ สาขาทัศนศิลป์ สาขาวรรณศิลป์ และสาขาศิลปะการแสดง เป็นประจำ


