นักวิจัยค้นพบ'เมืองโบราณอีกเมือง' ตั้งซ้อนทับ' เมืองเก่านครราชสีมา'

ภาพถ่ายทางอากาศ ปี พ.ศ. 2497 พื้นที่โดยรอบเมืองเก่านครราชสีมา(ที่มา : กรมแผนที่ทหาร)

สืบเนื่องจาก โครงการวิจัย “การสังเคราะห์ภูมิสารสนเทศและสถิติของ คูเมืองโบราณ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย” ศ.ดร. สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบร่องรอยการเคยมีอยู่ของแนวคันดินโบราณในพื้นที่ เมืองเก่านครราชสีมา อ. เมือง จ. นครราชสีมา ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของชุมชนโบราณ ก่อนที่จะมีการสร้างแนว คูเมืองเก่านครราชสีมา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2199 – พ.ศ. 2231)

การค้นพบนี้เกิดจากการสำรวจและแปลความหมายภาพถ่ายทางอากาศ ที่ถ่ายไว้ในปี พ.ศ. 2497 โดยกรมแผนที่ทหาร ซึ่ง ศ.ดร. สันติ พบว่าในทางภูมิศาสตร์ พื้นที่โดยรอบเมืองเก่านครราชสีมา เป็นที่ราบน้ำท่วมถึงของ คลองตะคองเก่า ที่ไหลมาจากลำตะคองทางทิศตะวันตก ผ่านทางตอนเหนือของแนวคูเมือง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนปัจจุบันอย่างหนาแน่น

แต่เมื่อพิจารณาภาพถ่ายทางอากาศ ที่ถ่ายไว้ในปี พ.ศ. 2497 ศ.ดร. สันติ พบแนวคล้ายคันดินที่ทอดยาวเป็นเส้นตรงอย่างต่อเนื่อง ทางตอนเหนือ ตะวันตกและทางตะวันออกของคลองตะคองเก่า จึงแปลความว่า อาจจะเป็นขอบเขตของอีกชุมชนโบราณ ทางตอนเหนือของพื้นที่เมืองเก่านครราชสีมา ซึ่งมีคูเมืองล้อมรอบเป็นสี่เหลี่ยมอย่างชัดเจน

ถึงแม้ว่าสภาพปัจจุบัน พื้นที่โดยรอบเมืองเก่านครราชสีมา จะถูกเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากกิจกรรมการอยู่อาศัยของชุมชนเมืองในปัจจุบัน แต่จากการแปลความ แนวที่คาดว่าเป็นแนวคันดินโบราณ พิจารณาร่วมกับพฤติกรรมการไหลของคลองตะคองเก่า พบว่าไม่เป็นไปตามธรรมชาติของกระบวนการทางน้ำปกติทั่วไป ซึ่งมีตัวบ่งชี้ความผิดปกติทางภูมิศาสตร์อยู่ 2 ประเด็น คือ

ตัวอย่างชุมชนโบราณที่กำหนดขอบเขต โดยแนวคันดินรูปร่าง 4 เหลี่ยม
  1. ในฤดูน้ำหลาก เมื่อมวลน้ำจากลำตะคองเก่าไหลหลากจากทิศตะวันตก เข้ามาปะทะแนวคันดินทางทิศตะวันตก (ปัจจุบันคือ แนวถนนซอยประปา) มวลน้ำจะถูกกั้นด้วยคันดิน ทำให้น้ำเอ่อนองอยู่บริเวณนอกคันดิน ซึ่งในเวลาต่อมา ผลจากการที่มวลน้ำทั้งหมดต้องทยอยไหลเข้าช่องแคบ ๆ ตามร่องน้ำที่แนวคันดินเปิดระบายไว้ พื้นที่ร่องน้ำนอกคันดินจึงถูกกัดกร่อนสูง ตะกอนถูกพัดพาไปตามร่องน้ำมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ จนกลายเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และพัฒนาเป็นบึงหรือหนองน้ำในเวลาต่อมา อยู่หน้าแนวคันดิน (ปัจจุบันคือ อ่างอัษฎางค์)
  2. มวลน้ำจำนวนมากที่ขังอยู่นอกคันดิน จะถูกคันดินบังคับให้ไหลผ่านเข้ามาหลังแนวคันดิน ด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลำตะคองเก่าเมื่อเข้ามาภายในพื้นที่หลังแนวคันดิน (พื้นที่ชุมชนโบราณ) จะถูกกัดก่อนในแนวราบอย่างรุนแรงเช่นกัน ทำให้ธารน้ำมีความคดโค้งมากกว่าปกติ (กวัดแกว่งมากกว่าธารน้ำทั่วไป) ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากมวลน้ำจำนวนมากที่ควรไหลหลากทั่วทั้งพื้นที่เท่า ๆ กัน ถูกรวมไว้นอกคันดินและถูกบีบถูกรีด ให้ฉีดเข้ามาตามร่องลำตะคองเก่าเพียงอย่างเดียว

ขอบเขตพื้นที่จากการรังวัดแนวคันดิน พบว่าแนวคันดินดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่รูปสี่เหลี่ยม ประกอบด้วยคันดินที่เห็นได้ชัดเจนด้านทิศเหนือยาว 2 กิโลเมตร ส่วนคันดินทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ในเบื้องต้นไม่สามารถประเมินความยาวได้ เนื่องจากแนวคันดินเดิม ต่อเนื่องล้อไปกับแนวคูเมืองนครราชสีมา

ซึ่งจากสมมุติฐานตั้งต้นที่ว่า ขอบเขตทางทิศใต้คือถนนจอมพล จะประเมินได้ว่า ชุมชนโบราณนี้มีรูปร่างใกล้เคียงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ช่วยสนับสนุนในอีกแง่มุมว่า แนวคันดินนี้ไม่ใช่ บาราย (Baray) หรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ในวัฒนธรรมเขมรโบราณ ที่นิยมสร้างเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในอัตตราส่วน กว้าง : ยาว มักมีสัดส่วน 1 : 2 แทบทั้งสิ้น

นอกจากนี้ จากการตรวจวัดขนาดพื้นที่ กว้าง 2 กิโลเมตร x ยาว 1.7 กิโลเมตร คำนวณได้ว่าชุมชนนี้ มีพื้นที่ 3.4 ตารางกิโลเมตร หรือ เทียบเท่ากับ 2,125 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ใหญ่กว่าเมืองเก่านครราชสีมาถึง 2 เท่า และใหญ่กว่าชุมชนโบราณอื่น ๆ ที่กล่าวมาในข้างต้น

จากการค้นพบดังกล่าว ศ.ดร. สันติ ภัยหลบลี้ ให้ความเห็นว่า เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้นจากข้อมูล โทรสัมผัส (remote sensing) ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการสำรวจและขุดค้นทางโบราณคดีเพิ่มเติมในรายละเอียด เพื่อพิสูจน์ทราบความถูกต้องจากการแปลความนี้ อย่างไรก็ตาม หวังว่าผลการแปลความนี้จะช่วยเป็นแนวทางตั้งต้นในการศึกษาวิจัยทางโบราณคดีในพื้นที่ และเป็นข้อมูลจุดประกายให้พี่น้องชาว จ. นครราชสีมา มีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ความเป็นมา ที่ยิ่งใหญ่และยาวนานในท้องถิ่นของตน

ศ.ดร. สันติ ภัยหลบลี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พสกนิกรโคราชปลูกต้นไม้ 9 พันต้น เฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง ร.9'

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวามหาราช

ชาวโคราชสวมเสื้อเหลืองทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล 'ในหลวง ร.9'

ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

โคราชแจ้งเตือนประชาชน 3 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 25-30 ก.ย.นี้

นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ออกหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 24 กันยายน 2568 ถึงหน่วยงานทุกหน่วยงาน ในพื้นที่ 32 อำเภอ แจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก โดยในช่วงวันที่ 25 - 30 กันยายน นี้