
ท่ามกลางคลื่นความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจยุคดิจิทัล หนึ่งในความท้าทายสำคัญคือการทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่ทั้งใช้งานได้จริงและตอบโจทย์การค้าขายในชีวิตประจำวัน ล่าสุด ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขับเคลื่อนด้วยการเปิดตัว “Micro Pay e-Wallet” โฉมใหม่ ที่มาพร้อมฟีเจอร์สำคัญอย่างการรับเงิน โอนเงิน และสร้างประวัติทางการเงินเพื่อเข้าถึงสินเชื่อในระบบโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน กลไกเสริมวินัยทางการเงิน สร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ลดการพึ่งพาเงินทุนนอกระบบ
รอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของลูกค้าทุกกลุ่มมาโดยตลอดตลอดระยะเวลากว่า 18 ปี ภายใต้กลยุทธ์หลักที่มุ่ง “เข้าใจและเข้าถึง” ลูกค้าอย่างแท้จริง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยอย่างพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย เพราะเชื่อว่าความยั่งยืนของประเทศต้องเริ่มจากเศรษฐกิจฐานรากที่แข็งแรง
โดยได้มีการเปิดให้บริการ ไมโครเพย์ ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อช่วยให้ร้านค้ารายย่อยสามารถรับเงินได้สะดวก เข้าสู่ระบบดิจิทัล และมีโอกาสเข้าถึงบริการผ่อนชำระและสินเชื่อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ได้ตระหนักว่าพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากยังขาดเครื่องมือทางการเงินที่สะดวกและเหมาะสม จึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Micro Pay e-Wallet โฉมใหม่ เพื่อให้การค้าขายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งในด้านการรับเงิน โอนเงิน และบริหารจัดการรายได้ พร้อมทั้งสร้างพฤติกรรมทางการเงินที่เป็นระบบ เข้าถึงบริการทางการเงินในระบบอย่างเป็นธรรม โดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบ

“ธนาคารมุ่งมั่นช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการหลุดพ้นจากหนี้นอกระบบ หรือการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบอย่างมั่นคง เป้าหมายของเราคือการสนับสนุนให้ธุรกิจเล็กๆ เหล่านี้เติบโตอย่างยั่งยืน และมีโอกาสขยายตัวในระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” รอยย์ กล่าว
ด้านกมลภู ภูริดิฐสกุล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครไฟแนนซ์และสาขาสินเชื่อ ธนาคารไทยเครดิต และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไมโคร ดิจิทัล โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า Micro Pay e-Wallet ได้เปิดให้บริการมากว่า 5 ปี โดยมีมูลค่าการทำรายการผ่านวอลเล็ทกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 650,000 ราย ด้วยยอดธุรกรรมสะสมกว่า 48 ล้านรายการ

กมลภู กล่าวต่อว่า ย้อนกลับไปในปีแรก 2563 ไมโครเพย์เปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้งาน ต่อมาจึงได้เปิดให้พ่อค้าแม่ค้าลงทะเบียนร้านค้ากับทางไมโครเพย์ในปี 2564 โดยตั้งแต่ปี 2564-2567 มีร้านค้าลงทะเบียนกว่า 280,000 ราย ครอบคลุมมากกว่า 5,000 ตลาดสดทั่วประเทศ มีจำนวนการทำรายการผ่านร้านค้ารับชำระสะสมกว่า 30.6 ล้านรายการ เฉลี่ยเดือนละ 4 ล้านรายการต่อเดือน มีมูลค่าการทำรายการผ่านร้านค้ารับชำระกว่า 4,400 ล้านบาท สำหรับในปี 2568 มีร้านค้าลงทะเบียนกว่ามากกว่า 320,000 ราย และคาดว่าหลังจากเปิดให้บริการเวอร์ชันล่าสุดของแอปไมโครเพย์ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จะมียอดจำนวนการทำรายการผ่านร้านค้ารับชำระเพิ่มขึ้นแตะ 40-50 ล้านรายการ
ทั้งนี้ในการพัฒนาฟังก์ชั่นในไมโครเพย์ถูกพัฒนาออกแบบภายใต้แนวคิด Customer-Centric & Inclusion-First” เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มาพร้อมฟีเจอร์สำคัญที่ออกแบบมาเพื่อรองรับร้านค้า-ตลาดสดทั่วประเทศ สู่ Smart Market โดยเฉพาะ เช่น Prompt QR Merchant รับเงินทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน QR ร้านฉัน ช่วยสร้างประวัติทางการเงินเพื่อใช้ในการขอสินเชื่อ และ Request to Pay เครื่องมือใหม่สำหรับเจ้าของตลาดในการจัดเก็บค่าเช่าและบริหารข้อมูลผู้เช่าในระบบเดียว

“ที่สำคัญคือพ่อค้าแม่ค้าของเราส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งกว่าร้อยละ 80 ไม่เคยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ ถือเป็นกลุ่ม Unbanked ธนาคารจึงได้ร่วมออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามต้องเข้าเงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อเป็นการช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าได้ดำเนินกิจการได้สะดวกขึ้น โดยตั้งแต่เปิดให้บริการแอปฯ ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมในการทำรายการ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง” กมลภู กล่าว
กมลภู กล่าวต่อว่า ในปี 2569 จะมีการเปิดให้บริการฟังก์ชั่นในไมโครเพย์ ได้แก่ 1. ระบบแจ้งเตือน สำหรับร้านค้าที่มีหลายสาขา เจ้าของร้านสามารถดูยอดธุรกรรมของทุกสาขาได้แบบเรียลไทม์ 2. ระบบความปลอดภัย ที่สอดคล้องกับแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย 3. การใช้ข้อมูล Transaction เพื่อสนับสนุนสินเชื่อกับทางธนาคารไทยเครดิต โดยสามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านแอปได้ 4. รองรับการรับชำระผ่านบัตรเครดิต โดยร่วมกับ Visa, Mastercard และ e-Wallet อื่นๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและลูกค้าทั่วไป

ศศิธร สุนทโรทก เจ้าของร้านมีแตน ขนมหวาน เล่าว่า พนักงานจากธนาคารไทยเครดิคมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานไมโครเพย์จึงเกิดความสนใจและได้ลงทะเบียนใช้งานมานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งหลังจากได้ลองใช้ก็รู้สึกว่าสะดวกมาก เพราะเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารไทยเครดิตโดยตรง เมื่อลูกค้ามาจ่ายเงินก็เพียงแค่สแกน QR Code ระบบจะแจ้งเตือนให้ทันที ไม่ต้องขอถ่ายสลิปจากลูกค้า และยังสามารถตรวจสอบยอดรายรับย้อนหลังได้ง่ายด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'อรรถกร' โอด รับดราม่าซีเกมส์คนเดียวอาจผิดธรรมชาติไปนิด ย้ำพิธีเปิดจะทำได้ดีแน่นอน
'อรรถกร' โอด รับดราม่าซีเกมส์คนเดียวอาจผิดธรรมชาติไปนิดนึง เชื่อไม่ได้ถูกวางงานจากรบ.ก่อน แจงปมใช้โปสเตอร์ AI ด้อยค่านักออกแบบ จ่อคุยผู้รับผิดชอบ ย้ำ พิธีเปิดจะทำได้ดีแน่นอน
🛑LIVE เบื้องลึก..ใครปล่อยภาพลับ เดือดร้อน..บิ๊กแดง!! | ตรงปก ตรงประเด็น กับสำราญ รอดเพชร
ตรงปก ตรงประเด็น กับสำราญ รอดเพชร : วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568


