จีนหนุนไทยติดตั้งกล้องโทรทรรศน์วิทยุ VGOS แห่งที่ 2 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์          

กล้องโทรทรรศน์วิทยุVGOSของไทย   (VLBI Global Observing System Radio Telescope) ได้ถูกออกแบบและสร้างเพื่อนํามาศึกษาทางด้าน Geodesy หรือ ภูมิมาตรศาสตร์ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการวัดและทําความเข้าใจรูปทรงเรขาคณิตและสัณฐานของโลก ตําแหน่งในอวกาศ และสนามโน้มถ่วง พร้อมทั้งศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของโลกเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปหรืออาจวัดเพื่อเทียบเคียงกับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ โดจะทําการเก็บข้อมูลผ่านอุปกรณ์รับสัญญาณย่านความถี่เอสและเอกซ์ (S-/X-band) ช่วงคลื่นความถี่ 2-14 GHzควบคู่กับการสังเกตการณ์ด้วยเทคนิคแทรกสอดระยะไกล หรือ VLBI (Very Long Baseline Interferometry) โดยใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุสองตัวขึ้นไปเก็บข้อมูลในเวลาเดียวกัน ทําให้ได้พิกัดที่แม่นยําถึงระดับมิลลิเมตร ซึ่งสามารถนําไปใช้ตรวจสอบการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกได้ (Tectonic Plate Motion) ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถนําไปวิเคราะห์แผ่นดินไหว อีกทั้งยังสามารถประมวลผลลัพธ์ต่อจนได้ตัวแปรต่าง ๆ ที่บ่งบอกการวางตัวของโลกในอวกาศ (EarthOrientation Parameters) ไปจนถึงความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก

ล่าสุด มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จับมือ กับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT )และหอดูดาวแห่งชาติเซี่ยงไฮ้หรือ Shanghai Astronomical Observatory(SHAO) ภายใต้การสนับสนุนจาก Chinese Academy of Sciences (CAS)  ติดตั้ง “กล้องโทรทรรศน์วิทยุวลัยลักษณ์ 13 เมตร” แห่งที่ 2 ของประเทศ เพื่อสนับสนุนงานวิจัยภูมิมาตรศาสตร์และธรณีวิทยาของไทย

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ลงพื้นที่สังเกตการณ์การติดตั้ง จานกล้องโทรทรรศน์วิทยุ VGOS (VLBI Global Observing System Radio Telescope) ขนาด 13 เมตร อย่างใกล้ชิด ณ ไซต์งานโครงการก่อสร้างฯ พื้นที่ศูนย์สมาร์ทฟาร์ม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุ VGOS แห่งที่ 2 ของประเทศไทย โดยมี ดร.วิภู รุโจปการ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) และ รศ.ดร.วาริท เจาะจิตต์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ 

กล้องโทรทรรศน์วิทยุ VGOS ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) และหอดูดาวแห่งชาติเซี่ยงไฮ้  ได้รับชื่ออย่างเป็นทางการว่า “กล้องโทรทรรศน์วิทยุวลัยลักษณ์ 13 เมตร” ดำเนินการติดตั้งบนหอสังเกตการณ์ โดยมีอาคารรองรับกล้องโทรทรรศน์วิทยุ (tower) อาคารควบคุม และห้องพักสำหรับเจ้าหน้าที่และนักวิจัย เพื่อรองรับการดำเนินงานอย่างสมบูรณ์

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ   กล่าวว่า  การติดตั้งกล้องโทรทรรศน์วิทยุภายในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์นี้ จะเป็นประโยชน์โดยตรงในการเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญให้กับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) และที่สำคัญยิ่งคือ การเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านภูมิมาตรศาสตร์ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับธรณีวิทยาภายในประเทศ สำหรับนักศึกษา นักวิจัย และบุคลากรที่สนใจ ได้อย่างลึกซึ้งและครบวงจร

ด้าน ดร.วิภู รุโจปการ กล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการติดตั้งกล้องโทรทรรศน์วิทยุ VGOS ซึ่งเป็นแห่งที่สองของประเทศบนพื้นที่ของมหาวิทยาลัยฯ โดยเน้นย้ำว่า กล้องโทรทรรศน์วิทยุนี้จะเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ใช้ศึกษาการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก ด้วยความแม่นยำสูงถึง 0.1 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการคาดการณ์และรับมือกับการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

NARIT, SHAO และ WU ได้ร่วมกันสํารวจพื้นที่ที่เหมาะสม  เป็นพื้นที่ที่มีสัญญาณรบกวนน้อยและมีสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับ ในการก่อสร้างหอสังเกตการณ์ ซึ่งพบว่า  ศูนย์สมาร์ทฟาร์ม ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในพื้นที่ประมาณ 5000 ตร.ม. (3.2 ไร่) มีความเหมาะสมในการสร้างอาคารรองรับกล้องโทรทรรศน์วิทยุ (tower) อาคารควบคุม และห้องพักสําหรับเจ้าหน้าที่และนักวิจัย โดยได้เริ่มทําการก่อสร้างในเดือน ต.ค. 67 และจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย 68

ส่วนทาง SHAO จะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการจัดสร้างหอสังเกตการณ์และการจัดหากล้องโทรทรรศน์วิทยุฯรวมทั้งการขนส่ง ติดตั้ง และจัดหาอุปกรณ์ส่วนร่วมต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ นาฬิกาไฮโดรเจนเมเซอร์ ซึ่งมีมูลค่าโดยรวมทั้งโครงการประมาณ 150 ล้านบาท มอบให้กับประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-จีน เสริมสร้างนักวิจัยทั้ง 2 ประเทศ และร่วมกันใช้งานกล้องโทรทรรศน์ดังกล่าวในการศึกษาวิจัยทางด้าน Geodesy

กล้องโทรทรรศน์วิทยุฯ ก็ได้ถูกขนส่งทางเรือจากประเทศจีน มายังมหาวิทยาลัย ในวันที่ 14 ส.ค. 68 โดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ถึง 8 คัน เพื่อขนส่งกล้องฯ และอุปกรณ์ต่างๆ จากท่าเรือคลองเตยมายังมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นทาง SHAO ได้ส่งวิศวกรและช่างเทคนิคจํานวน 5 คน จากบริษัท CECT39  ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล้อง มาทําการติดตั้งกล้องในวันที่ 25 ส.ค. 68 โดยเริ่มจากการประกอบโครงสร้างของจาน 13 เมตร จัดเตรียมฐานกล้อง Az cabin ติดตั้งนาฬิกา H-Maser จํานวน 2 เครื่อง จนกระทั่งวันที่ 21 ก.ย. 68 จึงได้เริ่มทําการยกอุปกรณ์หลักขึ้นติดตั้งบนอาคารรองรับกล้อง (tower) โดยเริ่มจากฐานกล้อง, counter weight, Az Cabin โดยใช้เครนขนาด 130 ตัน เป็นตัวยกอุปกรณ์หลักต่างๆ เข้าไปติดตั้ง

ในวันที่ 22 ก.ย. 68 ซึ่งเป็นวันสําคัญสําหรับยกอุปกรณ์หลักชิ้นสุดท้ายในการติดตั้ง นั่นคือ จานสะท้อนสัญญาณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร ได้รับเกียรติจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ศ.ดร.สมบัติ ธํารงธัญวงศ์รองอธิการบดี รศ.ดร.วาริท เจาะจิตต์ และ ดร.วิภู รุโจปการ ผู้อํานวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ รวมทั้งทีมงานของทั้ง 2 หน่วยงาน มาร่วมกันเป็นสักขีพยานในการยกจานสะท้อนสัญญาณเข้าไปติดตั้ง ซึ่งถือว่าการโครงการนี้มีผลสําเร็จถึง80 เปอร์เซนต์ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นการติดตั้งระบบควบคุม (ACU – Antenna Control Unit), อุปกรณ์รับสัญญาณ(receiver) และทดสอบการใช้งาน

กล้องโทรทรรศน์วิทยุ VGOS ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้เทคนิคที่เรียกว่า VLBI (Very Long Baseline Interferometry) ซึ่งเป็นการนำสัญญาณวิทยุที่ได้รับจากแหล่งกำเนิดคลื่นวิทยุในอวกาศ เช่น ควอซาร์ มาประมวลผลร่วมกันจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุหลายตัว ทำให้ได้พิกัดที่มีความแม่นยำสูงมากในระดับมิลลิเมตร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดภาพ 'ซูเปอร์ฟูลมูน' คืนลอยกระทง ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี

ภาพดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี “ซูเปอร์ฟูลมูน” (Super Full Moon) คืน 5 พฤศจิกายน 2568 ระยะห่างจากโลกประมาณ 356,966 กิโลเมตร

เปิดภาพ 'จันทรุปราคา' เต็มดวงเหนือฟ้าเมืองไทย รอชมอีก 3 มี.ค. 69

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผยภาพปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงเหนือฟ้าเมืองไทย

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ คาดลูกไฟสีเขียวใหญ่บนฟ้า-เสีงดังสนั่น เป็นดาวตกชนิดระเบิด

สดร. ชี้แจงกรณี ลูกไฟสีเขียวใหญ่บนฟ้าและเสียงดังสนั่น หลายพื้นที่ในไทย ช่วงคืน 3 ส.ค.คาดอาจเป็นดาวตกชนิดระเบิด ส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์

สดร. โชว์ภาพ ปรากฏการณ์ 'ดาวอังคาร' ใกล้โลกที่สุด

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยแพร่ภาพดาวอังคารช่วงใกล้โลกที่สุด