
วธ.แจงพระธาตุโนนตาลพังทลาย เดิมมีรอยร้าวเตรียมซ่อมแซม แต่ฝนตกหนักต่อเนื่องจนเกิดเหตุ ‘ซาบีดา’สั่งรักษาความปลอดภัยไม่ถล่มซ้ำ เก็บรวมรวบวัตถุโบราณ มอบกรมศิลป์วางแนวทางฟื้นฟูบูรณะองค์พระธาตุคืนสภาพเดิมเร็วที่สุด
12 ต.ค.68 – นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนเกี่ยวกับเหตุการณ์พระธาตุโนนตาล โบราณสถานเก่าแก่ในพื้นที่บ้านธาตุ หมู่ 9 ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พังทลายลงทั้งองค์ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 ว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้รับรายงานเบื้องต้นจากกรมศิลปากร ซึ่งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที พร้อมประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในขั้นตอนเร่งด่วน ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ การเก็บรวบรวมวัตถุโบราณ และการวางแนวทางฟื้นฟูบูรณะองค์พระธาตุให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด พระธาตุโนนตาลถือเป็นโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่กว่า 121 ปี มีความสำคัญยิ่งต่อชุมชนและชาวจังหวัดนครพนม เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ และเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนความศรัทธาและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอีสาน โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ

นางสาวซาบีดา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ กรมศิลปากรได้สำรวจพบว่า องค์พระธาตุมีรอยร้าว ซึ่งน่าจะมีผลต่อโครงสร้างจึงได้ดำเนินการเสริมความมั่นคงชั่วคราวไว้ก่อน และในปีงบประมาณนี้กรมศิลปากรได้รับงบประมาณเพื่อบูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จัดพิธีบวงสรวงเพื่อเริ่มต้นการดำเนินงานและติดตั้งนั่งร้านเตรียมการบูรณะ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภายในองค์พระธาตุมีความชื้นสะสมและอุ้มน้ำจำนวนมาก จนเกิดการพังทลายลงก่อนที่จะเริ่มกระบวนการบูรณะอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับโบราณสถานเก่าแก่ในหลายพื้นที่เช่นเดียวกัน
” ภายหลังเกิดเหตุกรมศิลปากรได้ประสานให้อำเภอท่าอุเทนและฝ่ายปกครองท้องถิ่นเข้าดำเนินการเบื้องต้นทันที โดยได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจ กั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบเพื่อป้องกันอันตรายและมิให้ผู้ใดเข้าไปเคลื่อนย้ายสิ่งของจากซากพระธาตุ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เวรยามดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด จากนั้นในเวลา 16.00 น. สำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี ได้จัดประชุมชี้แจงร่วมกับวัดพระธาตุ หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจและวางแนวทางดำเนินงานร่วมกัน โดยมีการประสานเจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้อยเอ็ด เข้าร่วมสำรวจและเก็บรวบรวมวัตถุโบราณที่อยู่ภายในซากพระธาตุทั้งหมด ” นางสาวซาบีดา กล่าว

รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนมได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ร่วมกับอำเภอท่าอุเทน และสำนักศิลปากรที่ 9 เพื่อรายงานผลการดำเนินงานต่อกระทรวงวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกรมศิลปากรได้เริ่มกระบวนการสำรวจความเสียหายโดยละเอียด เพื่อจัดทำแบบแปลนการบูรณะใหม่ตามรูปแบบเดิม โดยมีแนวทางใช้กรอบงบประมาณเดิมที่ได้รับในปีนี้ ประกอบกับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในปี 2570 เพื่อดำเนินการบูรณะให้แล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์และคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมไว้ครบถ้วน โดยอาศัยแนวทางที่เคยใช้ในการบูรณะพระธาตุพนม
” เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นความสูญเสียทางจิตใจของพี่น้องประชาชนชาวนครพนมและชาวไทยทั้งประเทศ แต่ขณะเดียวกันสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์โบราณสถานและมรดกทางวัฒนธรรมที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชนทั่วไป กระทรวงวัฒนธรรมจะเร่งดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และเคารพต่อคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้การบูรณะพระธาตุโนนตาลครั้งนี้เป็นแบบอย่างของการฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ดิฉันขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่ากระทรวงวัฒนธรรมจะเร่งฟื้นฟูพระธาตุโนนตาลให้กลับมาเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนดังเดิม พร้อมส่งเสริมให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของภาคอีสานต่อไป” นางสาวซาบีดา กล่าว





ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมศิลป์ เตรียมบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม ค้นพบ 20 ต้น ใช้ในพระราชพิธีพระบรมศพพระพันปีหลวง
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการออกแบบพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังจากสำนักสถาปัตยกรรม


