สร้างต้นแบบพื้นที่เรียนรู้ เชื่อมสัมพันธ์ต่างศาสนา

เปิดบ้านศาสนิกสัมพันธ์ พุทธ คริสต์ และอิสลาม ชุมชนเขตบางรัก ถือเป็นก้าวสำคัญของการเชื่อมโยงศาสนาที่ต่างกันสู่สังคมไทยที่งดงามและอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ กิจกรรมนี้สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ร่วมกันใจกลางกรุงเทพฯ ให้ประชาชนต่างศาสนาได้เข้าใจ เคารพ และอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลด้วยมิตรภาพ  นำไปสู่สังคมสงบสุชและสมานฉันท์   จัดโดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับวัดม่วงแค มัสยิดฮารูณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ องค์กรเครือข่ายทางศาสนาและชุมชนในพื้นที่  โอกาสนี้ นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นางพรพัน วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก เเละผู้เเทนองค์การศาสนา เข้าร่วม ณ ศาสนสถาน 3 ศาสนา วัดม่วงแค มัสยิดฮารูณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ  ซึ่งอยู่ย่านบางรัก

ชมการร้องเพลงประสานเสียงโดยคณะนักร้องอาสนวิหารอัสสัมชัญ

เพลิดเพลินกับการเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมของทั้ง 3 ศาสนา เรียนรู้คุณค่าและความสำคัญของศาสนสถาน ตลอดจนความศรัทธาและวัฒนธรรมแต่ละศาสนา เริ่มต้นที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ สถาปัตยกรรมคาทอลิกเก่าแก่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1809 และเป็นศูนย์กลางพิธีกรรมของคาทอลิกในกรุงเทพฯ   จากนั้นเข้าสู่วัดม่วงแค วัดเก่าแก่ที่สะท้อนพหุวัฒนธรรมของย่านบางรักได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะโรงเรียนวัดม่วงแคมีนักเรียนกว่า 10 เชื้อชาติอยู่ร่วมกัน ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปโบราณ จัดแสดงพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ที่หาชมได้ยาก ก่อนจะไปมัสยิดฮารูณ  นับเป็นหนึ่งในมัสยิดเก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพฯ อายุเกือบ 200 ปี ทั้งยังเป็นศูนย์กลางชุมชนมุสลิมบางรัก และผู้นำด้านพหุวัฒนธรรมของย่าน       

ชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดี ศน. ถวายเครื่องสักการะแด่เจ้าอาวาสวัดม่วงแค

ลานอเนกประสงค์ของชุมชนมัสยิดฮารูณเป็นพื้นที่เปิดกิจกรรมเปิดบ้านศาสนิกสัมพันธ์ สร้างการเรียนรู้ผ่านการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานโดยเยาวชนมุสลิม การนำเสนอแนวคิดการขับเคลื่อนศาสนิกสัมพันธ์ Harmony Circle โดยอธิบดีกรมการศาสนา การเสวนาศาสนิกสัมพันธ์ของผู้นำศาสนสถานทั้งสามแห่ง ตลอดจนการแสดงขับร้องอานาซีด การแสดงชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ สำหรับสุภาพสตรี ชุดพระราชทาน 3 แบบ สำหรับสุภาพบุรุษ และการแสดงชุดแต่งกายของชาวไทยมุสลิมและคริสตชน สะท้อนความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม   ช่วยต่อยอดความร่วมมือของชุมชนและสร้างต้นแบบการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมของไทย

แฟชั่นชุดไทยพระราชนิยม-แฟชั่นเครื่องแต่งกายมุสลิม

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวว่า การส่งเสริมให้ศาสนาเป็นพลังแห่งคุณธรรมและขับเคลื่อนงานศาสนิกสัมพันธ์ให้เป็นกลไกเชื่อมโยงความเข้าใจระหว่างประชาชนต่างศาสนา มุ่งสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเคารพ เสมอภาค และเกื้อกูลต่อกัน กรมการศาสนาดำเนินงานภายใต้เจตนารมณ์สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ร่วมกันที่ทุกศาสนาและทุกวัฒนธรรมสามารถแบ่งปันคุณค่าทางจิตวิญญาณ ถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม และร่วมธำรงรักษาสันติสุข หัวใจสำคัญความงดงามตามแบบสังคมพหุวัฒนธรรมของประเทศไทย

“ กิจกรรมเปิดบ้านชุมชนศาสนิกสัมพันธ์ไม่เพียงเป็นภาพสะท้อนพลังของการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมเท่านั้น ยังเป็นเวทีสำคัญเผยแพร่ต้นแบบของชุมชนที่ธำรงความเข้าใจ ความร่วมมือ และความเอื้ออาทรระหว่างศาสนิกไว้อย่างงดงาม  แม้กิจกรรมจะเสร็จสิ้น แต่เจตนารมณ์และความยั่งยืนของความสัมพันธ์ระหว่างศาสนิกจะยังคงดำเนินต่อไป ผ่านการสานต่อความร่วมมือของชุมชนและเครือข่ายทางศาสนา รวมทั้งการส่งเสริมของภาครัฐที่พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจในระยะยาว นับเป็นหมุดหมายสำคัญด้านศาสนาและวัฒนธรรมสำหรับเยาวชน นักท่องเที่ยว และประชาชน ช่วยเสริมพลังในการสร้างสังคมไทยที่สงบสุข สมานฉันท์ และร่วมกันสืบสานคุณค่าทางศาสนาและวัฒนธรรมให้คงอยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป

ภายในงานเปิดบ้านศาสนิกสัมพันธ์ แต่ละศาสนาและชุมชนศาสนิกพร้อมใจจัดกิจกรรมมากมายที่น่าสนใจ แสดงถึงความหลากหลายของศาสนาและวัฒนธรรมให้ได้เรียนรู้พหุวัฒนธรรมของย่านบางรักอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน