เตรียมงัดกม.ใหม่รับ117คนพ้นคุก

"สมศักดิ์" สั่งทุกหน่วยงานยุติธรรมเตรียมรับกฎหมาย JSOC บังคับใช้ 23 ม.ค. ประสานหน่วยงานต่างๆ-ทดสอบระบบให้เรียบร้อย ก่อนมีนักโทษในข่าย 117 คนพ้นคุก เผื่้อศาลสั่งคุมขังฉุกเฉินเพื่อคุมประพฤติต่อ  

เมื่อวันที่​ 3 ธ.ค.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม   กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง (JSOC) ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ม.ค.2566 ว่า ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ในกระทรวงได้เตรียมความพร้อมอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง คือกรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์ โดยขณะนี้ได้มีการประชุมคณะทำงานร่างกฎหมายลำดับรอง ทั้งร่างกฎกระทรวงกำหนดการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด ร่างระเบียบกรม รวมถึงการจัดทำคู่มือแนวทางในการทำงาน และการอบรมหลักสูตรต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ยังต้องมีการประสานหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงอื่นๆ ด้วย โดยขณะนี้กระทรวงได้ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการความร่วมมือเพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำฯ ซึ่งจะร่วมกันระหว่างศาล สำนักงานอัยการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของผู้ต้องขังที่เข้าข่าย พ.ร.บ.JSOC นั้น ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ 17,807 คน แบ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับเพศ 5,683 คน, ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย 12,068 คน และความผิดต่อเสรีภาพ 56 คน โดยจะมีผู้ที่พ้นโทษได้รับการปล่อยตัวระหว่างวันที่ 23 ม.ค.- 28 ก.พ.2566 จำนวน 117 ราย ซึ่งในส่วนนี้จะต้องประสานกับศาลและสำนักอัยการในพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน เผื่อกรณีที่ศาลจะมีคำสั่งคุมขังภายหลังพ้นโทษหรือคุมขังฉุกเฉิน รวมถึงการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่และอาสาสมัครคุมประพฤติเฝ้าระวัง

"ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ได้มีการกำหนดสถานที่คุมขังหลังพ้นโทษออกมาแล้ว  โดยจะเริ่มนำร่องที่เรือนจำกลางคลองเปรม จากนั้นจะขยายไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศคือ เรือนจำกลางพิษณุโลก, เรือนจำกลางคลองไผ่ จังหวัดนครราชสีมา,  เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี, เรือนจำกลางระยอง และเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช"

รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า การทำกฎหมายรองและกฎกระทรวงต่างๆ ต้องทำให้ทันกรอบเวลา 90 วัน ทุกกรมต้องทำให้ทัน อย่าให้ขาดตกบกพร่อง และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำลองการทำงานขึ้นมา เพื่อทดสอบระบบต่างๆ ให้สมบูรณ์ ทำให้เคยชินกับองค์ความรู้ใหม่ นอกจากนี้เราต้องเร่งสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ตัวกฎหมายให้ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับทราบ ทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ การลงพื้นที่ในเชิงรุกและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพและช่วยเหลือสังคมให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ การรับมือก่อนกฎหมาย JSOC  จะบังคับใช้ กระทรวงยุติธรรมเคยนำคดีดังในอดีตที่เข้าข่ายต้องถูกเฝ้าระวังหลังพ้นโทษ ยกขึ้นมาเป็นกรณีตัวอย่าง เช่น คดีนายสมคิด พุ่มพวง, ไอซ์ หีบเหล็ก รวมถึงผู้ที่ติดยาเสพติดและมีพฤติกรรมทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิตด้วย นักโทษคดีเหล่านี้หากพ้นโทษแล้วแต่ศาลมีคำสั่งคุมขังต่อเพื่อคุมประพฤติ ทางกระทรวงยุติธรรมต้องเข้าไปดำเนินการทันที.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง

'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล

จ่อฟันซ้ำ! 'ผบ.คุก - 19 ผู้คุม' พักราชการ-ให้ออกไว้ก่อน

'โฆษกกรมราชทัณฑ์' เผยอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 'ผบ.เรือนจำฯ-จนท.' รวม 20 ราย ส่อ 'พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ 'ดีเอสไอ' ลุยสอบปากคำเก็บหลักฐานมัดผิด

บุกค้นคุกเน่าสนิท! เจอห้องVIPจีนเทา

ค้นอีกรอบ! รมว.ยุติธรรม-อธิบดีราชทัณฑ์-ดีเอสไอ" บุกตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เจอห้องวีไอพี ดัดแปลงโซฟา-ตู้เย็น ประเคนนักโทษจีนเทาซื้อบริการทางเพศจาก

งามไส้เรือนจำกรุง! บุกเจอห้องลับหญิงจีน คราบอสุจิ ผู้คุมเอี่ยวอื้อ

รมว.ยุติธรรม ควงราชทัณฑ์-ดีเอสไอบุกตรวจเอง พบห้องดัดแปลงเอื้อผู้ต้องขังจีนเทา มีถุงยาง-กางเกงใน-คราบอสุจิ กล้องวงจรปิดถูกลบ ดีเอสไอตั้งคดีพิเศษล่าเส้นเงินสินบน เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องพุ่งเกิน 20 คน

เด้งเข้ากรุ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังจู่โจมตรวจค้นพบเจ้าหน้าที่กระทำผิด

นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม มีคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 233/2568 เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยที่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสืบเนื่องจากการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและพบการกระทำผิด