นายกฯ เรียกประชุมแก้ยาเสพติด สั่ง สธ.แก้กฎกระทรวง ยาบ้า 1 เม็ดก็ผิดแล้ว พร้อมขีดเส้นสิ้นปีนี้ ดึง "กัญชา" กลับเป็นยาเสพติด ขณะที่ "อนุทิน" ขู่ชายแดน หากเจอหนุนการผลิตและขนส่ง สั่งตัดไฟ-น้ำ
ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 14.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข (สธ.), พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, ตัวแทนฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
นายเศรษฐากล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า เรื่องปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมายเรื่องปริมาณยาบ้าและความผิด ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมีหลักเกณฑ์ไม่ชัดเจนในการจับผู้เสพผู้ค้า ขอให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขกฎกระทรวง กำหนดปริมาณที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยปรับลดให้เหลือ 1 เม็ด แทนที่จะเขียนว่าปริมาณเล็กน้อย เพื่อเป็นหลักการให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และขอให้สื่อสารให้ชัดเจน ย้ำว่าสื่อสารให้ชัดเจนว่ายาเสพติดจะ 1 เม็ด 2 เม็ด ก็ผิด และต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นผู้เสพ ไม่เช่นนั้นจะถูกแจ้งข้อหาครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานให้ชัดเจนด้วยว่า หลักในการจับและสันนิษฐานคือ ไม่ว่าจะมีกี่เม็ดก็ผิด และพนักงานสอบสวนต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อดูเจตนาอีกครั้งว่าเป็นผู้เสพหรือผู้ค้า
“ส่วนนโยบายหลักของรัฐบาลคือเรื่องกัญชา ขอมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขประกาศกระทรวง โดยดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวง อนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น โดยกำหนดไทม์ไลน์การดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้” นายกฯ กล่าว
นายเศรษฐากล่าวว่า สิ่งที่พูดไปและยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างชัดเจนคือเรื่องการใช้ค่ายทหารบำบัดผู้ติดยาเสพติด จึงของฝาก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหม พูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายปกครองว่าจะทำอย่างไร โดยวิธีการลองสักค่ายหนึ่ง ซึ่งยังไม่ต้องทำทั่วทุกจังหวัด เพราะไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ และให้นำงบการทำบำบัดเข้าไปดูแลด้วย ขอให้ทุกท่านทำงานให้หนักขึ้น และมีการปราบปรามยึดทรัพย์และบำบัดให้ทั่วถึง ขอให้มีความชัดเจนและมีความคืบหน้าภายใน 90 วัน
นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า วันนี้การจับกุมยาเสพติดมากขึ้น 4-5 เท่า แต่เรื่องเศร้าคือราคายาบ้ายังไม่ขึ้นเสียที ฉะนั้นคงต้องทำงานกันให้หนักขึ้น โดยใช้ทุกวิถีทาง
ขณะที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติด กรณีรัฐบาลนี้จะปราบปรามยาเสพติดประสบความสำเร็จเหมือนยุครัฐบาลไทยรักไทยหรือไม่ว่า เอาอะไรเป็นตัววัด ความตั้งใจ ความชัดเจนที่ประกาศเป็นศัตรูกับยาเสพติดและผู้ค้ายาเสพติด มีความชัดเจน ไม่ได้แตกต่างจากในอดีต แต่การดำเนินการต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก ทำตามใจชอบ ตามมิตรรักแฟนเพลงมากก็ไม่ได้ ทั้งที่อยากจะทำตามใจจะขาด แต่ว่ามีกฎหมายและการตรวจสอบ เราทำเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้เราทำ ทั้งนี้ หากกระทรวงมหาดไทยพบว่าขอไฟฟ้าและน้ำประปาข้ามแดนไปสนับสนุนการผลิตหรือขนส่งยาเสพติด เราจะตัดไฟตัดน้ำทันที ฝั่งนู้นใครจะเดือดร้อนก็เป็นเรื่องของเขา ให้ไปจัดการกันเอง เพราะเราไม่สนับสนุนในทุกกรณี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มั่นใจ‘ชาวหาดใหญ่’ใช้ชีวิตปกติ
"มท.3" สั่งทุกหน่วยระดมกำลังเร่งฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วม ตามเป้า “7 วันกลับบ้าน 14 วันสะอาด” ห่วง 11-14 ธ.ค.ฝนถล่มซ้ำ
คนรุ่นใหม่สำนึก พระราชปณิธาน ‘พระพันปีหลวง’
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย “สมเด็จพระพันปีหลวง” พสกนิกรทั่วถิ่นไทยกราบพระบรมศพ ชาวโพธารามน้อมสำนึกน้ำพระทัยแผ่ไพศาล
ชงครม.ซื้อคืน‘รถไฟฟ้า’ กฤษฎีกาเทเงินออมหวย
“พิพัฒน์” เตรียมชง ครม. 9 ธ.ค. เคาะหัวเชื้อซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า
เพื่อไทยขู่ยื่นฟันจริยธรรมก่อนดันซักฟอก!
"ไตรศุลี” โพสต์ อุ๊ย! สมัยเป็นเลขาฯ มท.1 ยืนยันข่าว "อนุทิน" ปฏิเสธสัญญาณบ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ให้สัญชาติ
ชายแดนระอุอีกรอบ ปะทะเดือดทหารไทยเจ็บ2/อนุทินลงพื้นที่8ธ.ค.
ชายแดนไทย-กัมพูชาเดือดอีกรอบ! ยิงสนั่น “ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน”
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

