ภูมิธรรมคุมศูนย์น้ำท่วม พ่อนายกฯการันตีเอาอยู่

"แพทองธาร" ห่วงน้ำท่วม ปชช.เดือดร้อนหนัก เร่งจัดงบเยียวยาเต็มที่ เตรียมลงพื้นที่สุโขทัย 30 ส.ค.ติดตามสถานการณ์ "ครม."  ตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย มอบ "ภูมิธรรม" เป็นประธาน "ทักษิณ" เยี่ยมชาวเชียงราย อู้กำเมืองให้กำลังใจ มั่นใจกรมชลฯ  พร่องน้ำภาคกลางรับน้ำเหนือเพียงพอ ไม่ซ้ำรอยปี 54 แน่ "กลาโหม" ปรับศูนย์ฯ มั่นคงเป็นเรื่องน้ำท่วม มอนิเตอร์น้ำทุกจุด "คลัง" จับมือแบงก์รัฐ ออกมาตรการการเงินช่วยประชาชนน้ำท่วม ชูพักชำระหนี้-ลดดอกเบี้ย "กรมชลฯ" เตือน 11 จว.ลุ่มเจ้าพระยารับมือน้ำเหนือไหลผ่าน

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า เป็นห่วงมากที่สุด ล่าสุดได้คุยกับนายภูมิธรรม  เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ไม่ได้สั่งราชการอะไร แต่ด้วยความเป็นห่วงจึงรู้สึกว่าห่วงเรื่องการเยียวยามากกว่า เพราะเห็นชาวบ้านที่ขนของ บ้านก็พังเละ น้ำก็มากับโรค จึงอยากจะดูเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด

"ทราบว่ามีการเยียวยาระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ก็พยายามจะลงลึกเรื่องนี้ว่าจะเยียวยาได้เต็มที่แค่ไหนบ้าง งบกลางที่ยังมีจะช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ ต้องไปดูอีกครั้งในรายละเอียด เราเห็นใจพี่น้องจริงๆ" น.ส.แพทองธารกล่าว

ถามว่า วันที่ 30 ส.ค.จะลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าจะไปสุโขทัย ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ขณะที่ น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์น้ำตอนหนึ่งว่า ที่ประชุมหารือการแก้ปัญหาต้องแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ 1.ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องการระบายน้ำ 2.หลังน้ำลดจะเกิดการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนอย่างไร และ 3.การแก้ปัญหาในระยะยาวที่เป็นวาระแห่งชาติในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเมื่อมี ครม.เข้ามาบริหารประเทศแล้ว จะนำเรื่องนี้บรรจุเป็นวาระเร่งด่วนเพื่อดำเนินการรับสถานการณ์ได้ทันต่อไป

นอกจากนี้ นายภูมิธรรมได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัยในรูปแบบคณะกรรมการ แต่มีอำนาจหน้าที่และการใช้งบประมาณที่ชัดเจน มีนายภูมิธรรมเป็นประธาน และมีรองประธานที่สำคัญคือ รมว.มหาดไทย และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนองค์ประกอบเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ศูนย์ฯ ดังกล่าวมีหน้าที่ตั้งแต่การป้องกัน แก้ไข เยียวยา และฟื้นฟู จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย รวมถึงการใช้แหล่งเงินที่ถูกต้องตามระเบียบด้วย

"ภายใต้คำสั่งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญคือ 1.เรื่องการบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำ การแจ้งเตือน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข่าวและไม่ตื่นตระหนก ซึ่งที่ประชุมยืนยันไม่เหมือนปี 54  แน่นอน 2.เรื่องการช่วยเหลือดูแลประชาชน รมว.มหาดไทยจะเป็นหลักในการบูรณาการ สำหรับเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของศูนย์ฯ ดังกล่าวจะใช้จ่ายจากงบกลางเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน นายภูมิธรรมจะเป็นผู้พิจารณา แต่ทั้งนี้ในสถานการณ์ปัจจุบัน จังหวัดที่ประกาศภัยพิบัติจะมีงบทดรองจ่ายที่สามารถใช้ได้ในจำนวน 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือหากไม่เพียงพอต้นสังกัดจะขอมาที่งบกลางตามระเบียบขั้นตอนต่อไป" รองเลขาฯ นายกรัฐมนตรีกล่าว

ที่ จ.เชียงราย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงมารอให้การต้อนรับแน่นพื้นที่ และตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "เรารักทักษิณ" ซึ่งจุดแรกไปสถานีขนส่งอำเภอเทิง

นายทักษิณได้อู้กำเมืองว่า มาในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เป็นห่วงประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ตนไปอยู่เมืองนอกมา 17 ปี พี่น้องก็ยังไม่ลืม ดังนั้นถือว่าต้องตอบแทนบุญคุณ  มาเยี่ยม มาหา มาดูสารทุกข์สุกดิบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณยังได้ขอโทษประชาชนที่มารอต้อนรับ หลังเดินทางมาล่าช้า 2 ชั่วโมงเนื่องจากเครื่องบินดีเลย์

จากนั้นช่วงบ่าย นายทักษิณพร้อม สส.เพื่อไทยลงพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย กล่าวกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า เมื่อมีทุกข์ก็ต้องมาให้กำลังใจ ถือเป็นธรรมชาติของคนไทยที่ต้องรู้จักบุญคุณคน  และจะนำปัญหาที่ได้รับฟังกลับไปแจ้งรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยา ซึ่งน้ำท่วมเป็นภาวะซ้ำซาก เพราะไม่ได้แก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ ถ้าเริ่มใหม่วันนี้ ต้องทำทั้งระบบด้วยการตั้งงบประมาณจำนวนมาก ทุกลุ่มน้ำต้องได้รับการดูแลทั้งหมด

"สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงพบว่ามีน้ำไหลมากผิดปกติ ดังนั้นจะต้องพูดคุยกับประเทศจีนที่อาจปล่อยน้ำมาก เพราะจีนเองก็เผชิญปัญหาน้ำท่วม เพื่อหารือเรื่องจังหวะการปล่อยน้ำไม่ให้ล้นตลิ่ง เบื้องต้นทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งแม่น้ำก็เหมือนรถยนต์ ถ้าไม่มีเบรกก็อันตราย ดังนั้นจะต้องติดเบรกด้วยเขื่อน อ่างเก็บน้ำ หรือแก้มลิง" นายทักษิณกล่าว

อดีตนายกฯ กล่าวว่า น.ส.แพทองธารเล่าให้ฟังว่ากรมชลประทานพร่องน้ำภาคกลางไว้รับน้ำจากภาคเหนือแล้ว เช่น เขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสัก มีน้ำเหลือเพียง 20% เพียงพอรอรับน้ำได้อีกมาก จึงเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ซ้ำรอยปี 2554

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเราใช้ศูนย์ปฏิบัติการเรื่องความมั่นคงปรับเป็นเรื่องน้ำท่วม เพราะฉะนั้นที่ศูนย์แห่งนี้จะมอนิเตอร์รายงานสถานการณ์น้ำปกติทุกจุด ดังนั้นกระทรวงกลาโหมจึงสามารถรู้ว่าน้ำอยู่ที่ไหนในขณะนี้ เพื่อสั่งการหน่วยที่อยู่ใกล้และหาหน่วยมาเสริมได้

ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.การคลัง พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง ร่วมกันแถลงมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย

นายพิชัยกล่าวว่า กระทรวงการคลังร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้เร่งออกมาตรการด้านการเงิน ทั้งมาตรการพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน อาทิ ธนาคารออมสิน มาตรการพักชำระหนี้สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับการพักชำระหนี้เงินต้นและลดดอกเบี้ยร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 3 เดือน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำมาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูลูกค้าวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาตรการลดเงินงวดและลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าปัจจุบันจะได้รับการลดเงินงวด 50% จากเงินงวดที่ชำระปกติ และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน เป็นต้น

น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.) กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ ธปท.จะมีการออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และธนาคารพาณิชย์ ในการเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งภายใต้มาตรการช่วยเหลือจะมีการผ่อนผันเกณฑ์บางส่วน

นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกเร่งออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่น้ำท่วม ครอบคลุมการลดภาระในการผ่อนชำระหนี้สิน และการสนับสนุนทางการเงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย

ด้านนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 5/2567 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด 

ทั้งนี้ กรมชลประทานคาดการณ์ว่า ใน 1-7 วันข้างหน้า ในวันที่ 30 ส.ค. จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ ประมาณ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขา จะมีประมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 1,700 ลูกบาศก์เมตรวินาที จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ในอัตราระหว่าง 900-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) สูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 50 เซนติเมตร ไปจนถึง 1.50 เมตร  โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน และหากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป     

จ.สุโขทัย สถานการณ์น้ำท่วมยังคงทวีความรุนแรง ระดับน้ำแม่น้ำยมยังไม่พ้นวิกฤต เนื่องจากมวลน้ำจากจังหวัดพะเยา แพร่ ไหลผ่านเข้าสู่สุโขทัย ล่าสุดพบมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 4 อำเภอ 21 ตำบล 69 หมู่บ้าน 3 ชุมชน 2,767 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร 1,916 ไร่ ถนน 21 สาย โรงเรียน 1 แห่ง ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. บริเวณหมู่ 6 ฝั่งตะวันตก บ้านท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ได้เกิดพนังแตก ถนนถูกตัดขาด ทั้ง 2 ฝั่ง ไฟ น้ำ ไม่มีใช้ ประชาชนในหมู่บ้านเดือดร้อนมาก อยู่ระหว่างเร่งอพยพชาวบ้าน.