ด้อมส้มเฮ! กกต.รับรองพรรคประชาชนแล้ว ปธ.วิปฝ่ายค้านยัน "ผู้นำฝ่ายค้าน" เป็น "เท้ง" รอแต่งตั้งหลังรัฐบาลแถลงนโยบาย "ธนาธร" มั่นใจพรรค ปชช.ครองใจชาวบ้าน เลือกตั้งรอบหน้าชนะ พท.แน่ "ปกรณ์วุฒิ" ขวางนักร้องยื่นยุบ พท. ยันควรให้ ปชช.เป็นคนตัดสินผ่านคูหา "จิรายุ" อ้างร้องยุบพรรคกระทบเศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่น "บิ๊กเกรียง" ไม่อนุญาต "สว.นันทนา" ยื่นญัตติด่วนปมพฤติกรรมตุลาการศาล รธน. ชี้ต้องทำหนังสือแจ้ง ปธ.วุฒิฯ ก่อน
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม มีรายงานว่า เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ลงนามรับทราบการขอเปลี่ยนแปลงชื่อพรรค จากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เป็นพรรคประชาชน ตามมติที่ประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 9 ส.ค.67 การเปลี่ยนแปลงนโยบายพรรค ข้อบังคับพรรค ภาพเครื่องหมายของพรรค (โลโก้) และรายชื่อกรรมการบริหารพรรคแล้ว โดยในส่วนโลโก้พรรคที่ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม และมีการร้องเรียนว่าคล้ายกับพรรคถูกยุบไปแล้ว หรือซ้ำกับเครื่องหมายการค้าของสินค้านั้น
มีรายงานว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่า รอยตัดของโลโก้และความหมายที่พรรคต้องการสื่อแตกต่างกับโลโก้ของพรรคที่ถูกยุบไป ขณะเดียวกันพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดหลักเกณฑ์ให้นายทะเบียนฯ พิจารณาว่าภาพเครื่องหมายของพรรคต้องไม่ซ้ำ พ้อง หรือคล้ายคลึงกับพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วหรือพรรคที่ถูกยุบไป ไม่ได้กำหนดให้นายทะเบียนฯ ต้องพิจารณาไปถึงกฎหมายอื่น และหากมีผู้เห็นว่าภาพเครื่องหมายของพรรคทำให้สินค้าของตนเสียหาย ก็สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องร้องได้ โดยขณะนี้เรื่องดังกล่าวนายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีการส่งเรื่องเพื่อนำประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลโดยสมบูรณ์ต่อไป
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชช.) รักษาการประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่า กกต.ได้รับรองพรรคประชาชนเป็นพรรคการเมืองโดยสมบูรณ์แล้ว ส่วนตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ต้องเป็นชื่อของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน อย่างแน่นอน ส่วนขั้นตอนการนำรายชื่อเสนอเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้านนั้น ได้รับประสานงานจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า เป็นช่วงหลังจากที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้
นายปกรณ์วุฒิกล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาร่วมของรัฐสภาในปลายเดือน ก.ย. ที่รัฐบาลส่งสัญญาณพิจารณาเกี่ยวกับกระบวนการยุบพรรคและจริยธรรมของนักการเมืองว่า มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการมาบ้าง ทั้งการยุบพรรคและการตรวจสอบจริยธรรมนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ซึ่งก็รู้ว่าผิดหลักประชาธิปไตย ในเบื้องต้น สส.เกือบทั้งสภาเห็นร่วมกันหมดแล้วว่าหลักการประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นควรเป็นอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการตั้งพรรคและการยุบพรรค ควรตั้งง่ายและยุบยาก
นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า คงมีการพูดคุยกันในแต่ละพรรคการเมืองอีกครั้ง และร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีการแก้ไขก็ถูกบรรจุไปหลายร่างแล้ว ที่เสนอโดยพรรคประชาชน แต่อาจจะมีเพิ่มเติมอีก ซึ่งอาจจะต้องแยกกันระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เพราะการยุบพรรคจะอยู่ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ และมองว่าการแก้รัฐธรรมนูญกับ สว.ชุดใหม่ง่ายกว่าชุดที่แล้วแน่นอน 100% แต่คงต้องพูดคุยกับ สว.ในระดับวิปก่อน
ปชช.ขวางยื่นยุบ พท.
เมื่อถามว่า จากที่บุคคลนิรนามยื่น กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าครอบงำ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ต้องบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการที่ใครก็ตามยื่นยุบพรรคการเมืองด้วยข้อหาแบบนี้ การยุบพรรคควรเกิดจากประชาชนไม่เลือกพรรคนั้น การที่บุคคลภายนอกมีอิทธิพลกับพรรคใดๆ ก็ตาม เป็นเรื่องที่ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ และสามารถตัดสินได้ผ่านคูหาเลือกตั้ง ไม่ว่านายกฯ หรือผู้นำพรรคนั้นจะบริหารประเทศด้วยตัวเองหรือถูกชักจูงจากคนอื่น ก็เป็นสิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นสิทธิ์ที่ประชาชนจะตัดสินว่าถูกต้องหรือไม่ ชอบหรือไม่ แต่ต้องไม่ใช่การให้คนไม่กี่คนมาตัดสินว่าผิดกฎหมาย แล้วให้คนไม่กี่คนไปยื่นยุบพรรค
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศทวงแชมป์การเลือกตั้งสมัยหน้าว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนคงไม่ไปก้าวก่าย แต่มั่นใจว่าพรรคประชาชนจะได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้อง ให้เป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งปี 2570 และครองเสียงข้างมาก เพื่อจะให้พรรคประชาชนพาประเทศไทยไปสู่อนาคตข้างหน้าที่ประเทศจะเป็นประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า มีนักร้องนิรนามไปร้องต่อ กกต.เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย นายธนาธรกล่าวว่า เราไม่เห็นด้วยกับการขยายขอบเขตอำนาจที่เกินไปของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งสำคัญควรทำให้พรรคการเมืองเกิดง่ายตายยาก และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินอนาคตว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการพรรคใดบริหารประเทศ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทยต่อ กกต. เหตุนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำพรรคว่า หากมองในมุมของภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประเทศไทยที่ผ่านมา นานาชาติมองว่าการเมืองไทยไม่มั่นคง รัฐบาลไม่แข็งแรง จึงทำให้เกิดการย้ายฐานธุรกิจไปหลายประเทศ ดังนั้นการจะยุบหรือไม่ยุบพรรคนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัย แต่หากเกิดการยุบด้วยเงื่อนไขใดก็ตาม ในฐานะสมาชิกพรรค ก็ไม่ติดขัดอะไรที่จะดำรงชีวิตกับสิ่งที่เป็นอยู่ และจะเดินหน้าต่อไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน
"แต่อยากฝากเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศ หากดูจากการโหวต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา วันนั้นหุ้นไทยขึ้นอยู่ในแดนบวกมาโดยตลอด และจะเกิดอะไรขึ้นภาวะเศรษฐกิจของประเทศอาจจะขับเคลื่อนและเดินหน้าต่อไม่ได้ ขอให้ประเทศมันเดินหน้าไปสัก 3-4 ปี หาก 4 ปีไม่ไหว ก็เลือกตั้ง เลือกรัฐบาลใหม่ เลือกพรรคการเมืองใหม่ แต่ถ้าทำดีท่านก็เลือกพรรคเพื่อไทยในอนาคต” นายจิรายุกล่าว
เมื่อถามว่า การยื่นยุบพรรคจะเป็นการล้มพรรคการเมืองคู่แข่งหรือไม่ นายจิรายุกล่าวว่า เรื่องการยุบพรรคเป็นเรื่องที่เกินความคาดเดา และคาดหวังอะไรไม่ได้ แต่หากให้บ้านเมืองเดินหน้า มีภาวะความแข็งแรง ก็ไม่ควรที่จะมีการยุบพรรค การมีคนไปร้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเจตนาพิเศษก็ต้องระวัง
เบรก สว.ถกจริยธรรมตุลาการฯ
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ผลการประชุมกรณีที่ นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้งแปดร่วมกันใช้อำนาจตามกฎหมายดำเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยออกประกาศ กกต.เรื่อง การมีลักษณะอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ตามมาตรา 11 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ส่งผลให้การเลือก สว.ไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ และยังห่างไกลเกินกว่าเหตุที่แสดง ให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งแปดกระทำการใดๆ อันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่การพิจารณาตามระเบียบวาระ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้ที่ประชุมวุฒิสภาปรึกษาหารือเกี่ยวกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งไปบรรยายในงาน หัวข้อเรื่องศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี แล้วแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเข้าข่ายละเมิดมาตรฐานจริยธรรม
ก่อนที่ น.ส.นันทนาจะชี้แจงเหตุผลและขอผู้รับรองญัตติ พล.อ.เกรียงไกรแจ้งไม่อนุญาตให้เสนอญัตติด่วนดังกล่าวต่อที่ประชุม เพราะไม่ได้ทำหนังสือแจ้งรายละเอียดให้ประธานวุฒิสภาได้รับทราบ ทั้งนี้ ได้ยกข้อบังคับวุฒิสภาข้อที่ 40 แจ้งว่า การเสนอญัตติด่วนไม่ต้องเสนอล่วงหน้าได้ เช่น ขอปรึกษาเป็นเรื่องด่วน แต่การประชุม สว. ต้องให้ประธานวุฒิสภารับทราบข้อมูลและพิจารณาให้เสนอได้หรือไม่ ผู้เสนอญัตติถึงจะเสนอได้
และขอให้ทำหนังสือล่วงหน้า ซึ่งขณะนี้ตนไม่อนุญาต จากนั้นได้เข้าสู่เรื่องตามระเบียบวาระต่อไป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ออกมาเปิดเผยว่า ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำฯ เสร็จแล้ว รอเข้าสู่กระบวนการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการราชทัณฑ์ ซึ่งมี รมว.ยุติธรรมเป็นประธานว่า ตนมีคำถามค้างคา ซึ่งเคยถามในสภามาแล้วว่าระเบียบคุมขังนอกเรือนจำฯ ที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กำลังดำเนินการอยู่นั้นจะมีคดีทุจริตคอร์รัปชัน และคดีมาตรา 157 ความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบรวมอยู่ด้วยหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีคำตอบ มีแต่คำตอบแบบอ้ำๆ อึ้งๆ จึงควรออกมาตอบคำถามนี้ให้มีความกระจ่าง ชัดเจน ไม่คลุมเครือ เพื่อสังคมจะได้หายสงสัยว่าการออกระเบียบนี้ว่าครอบคลุมเอื้อประโยชน์ให้กับผู้กระทำความผิดในคดีทุจริตคอร์รัปชัน และ ม.157 ด้วยหรือไม่ และเพื่อคดีทั่วไปจะได้รับประโยชน์ได้โดยไม่ต้องมีข้อเคลือบแคลง
“ที่ถามเพราะต้องการความชัดเจน และไม่ต้องการให้เรื่องนี้กลายเป็นน้ำผึ้งอีกหยด ที่จะพาบ้านเมืองไปสู่ความแตกแยก เพราะเกิดนักโทษเทวดาขึ้นมาใหม่อีกคน” นายจุรินทร์กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

