กต.เรียกทูตเมียนมาแจง ‘มาริษ’ขึงขังทำเกินเหตุ!

“แพทองธาร” ไม่กล้าแหย็มเมียนมา    บอกต้องรอให้ รมว.กต.คุยกับฝั่งหม่องก่อนถึงรู้ว่ารุกล้ำน่านน้ำหรือไม่ “มาริษ” เตรียมเรียกทูตจันทร์นี้ถามหาความรับผิดชอบ บอกชัดทำเกินกว่าเหตุ เชื่อคนไทย 4 รายปลอดภัยแน่นอน “ทัพเรือภาคที่ 3” ลั่นดูแลเต็มกำลัง เพิ่มเรือ-กำลังลาดตระเวน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2567 ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีเรือรบประเทศเมียนมายิงเรือประมงไทยโดยอ้างว่ารุกล้ำน่านน้ำเมียนมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดย น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานล่าสุด บาดเจ็บ 2 ราย เสียชีวิต 1 คน และถูกจับตัวอยู่ตอนนี้อีก 4 คน ซึ่งจริงๆ มีกว่า 30 คน แต่เป็นคนไทย 4 คน แต่ยังไม่ได้สรุปออกมาชัดเจนว่ารุกล้ำหรือไม่

เมื่อถามว่า ถือว่าเมียนมาทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราไม่สนับสนุนความรุนแรงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเหตุการณ์ใดก็ตาม เรามีจุดยืนนี้ไปทั่วโลก ไม่สนับสนุนความรุนแรง อันนี้เดี๋ยวขอดูรายละเอียดอีกทีว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อตลอดตั้งแต่เกิดเรื่องมา  ยังไม่ได้หยุดเลย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า กต.ได้รายงาน โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ได้ประท้วงไปแล้วว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง โดยให้ไต่สวนตรงนี้ชัดเจน และขอให้เอาเรือและคนไทยที่ถูกจับกุมไว้กลับมา ขณะนี้กำลังพยายามเจรจา โดย รมว.กต.เป็นผู้ประสานงาน

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า กต.ได้มีหนังสือแสดงความกังวลเรื่องนี้ด้วย และวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.นี้จะเชิญทูตเมียนมามาที่กระทรวง และจะย้ำขอให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและปล่อยตัว 4 คนไทยที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งสิ่งที่จะคุยกับท่านทูตเป็นการย้ำว่าเขาต้องรับผิดชอบ เพราะมองว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ การจะบอกว่ารุกล้ำมันมีขั้นตอนอยู่ ส่วนการช่วยเหลือตัวคนไทยช่วยแน่นอน เราพูดตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.  และวันที่ 2 ธ.ค. จะพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวอีก เราดำเนินการอยู่ตลอดเวลา ทำงานร่วมกันอย่างจริงจังทั้งทางฝ่ายทหารและ กต. ซึ่ง 4 คนไทยปลอดภัยแน่นอน และขนาดนี้ถือว่ามีสัญญาณบวก เพราะไทยและเมียนมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ส่วนในวันที่ 2 ธ.ค. จะได้รับคำตอบว่าปล่อยตัวเลยหรือไม่นั้น ต้องพูดคุยกันหลายด้าน

ขณะที่ น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า ถ้าเรื่องนี้มีความคืบหน้า จะให้ รมว.กต.รายงานทันที เพราะการพูดคุยระหว่างประเทศต้องมีขั้นตอนอย่างเป็นทางการ จะพูดข้อตกลงอะไรออกมาก่อนไม่ได้ ถ้าสองประเทศยังไม่ได้คุยกัน เพราะหาก รมว.กต.พูดอะไรออกมาจะกลายเป็นข้อสรุปว่าอย่างนั้นแน่นอน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้คุย ขอคุยก่อน เมื่อมีความคืบหน้าจะให้ รมว.กต.รายงาน

ต่อมาในเวลา 18.00 น. น.ส.แพทองธารโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และ X ระบุว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์เรือประมงของไทย พร้อมลูกเรือที่ถูกเรือของทางการเมียนมาจับกุมและลากเข้าฝั่งเมียนมาเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา มีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทัพเรือและกระทรวงการต่างประเทศ เร่งประสานกับฝ่ายเมียนมาเพื่อช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งว่ามีการประสานกับฝ่ายเมียนมาแล้วผ่านช่องทางทหารและการทูต และจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

 “ดิฉันขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงขอแสดงความห่วงใยต่อลูกเรือประมงที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าวทุกคน หน่วยงานของไทยกำลังดำเนินการประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับการดูแลและมีการส่งกลับภูมิลำเนาโดยเร็วที่สุด” นายกฯ ระบุ

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นายภูมิธรรมได้กำชับกับศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (ทีบีซี) เร่งรัดประสานงานกับเมียนมานำลูกเรือ 4 คนเป็นคนไทยกลับภายในวันนี้ ส่วนคนเมียนมา 27 คนถูกสอบสวนจากเจ้าหน้าที่เมียนมา ขณะที่เรือ 1 ลำดำเนินการตามขั้นตอนส่งคืน ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างทีบีซีประชุมหารือกัน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มออกเรือจำนวน 15 ลำ ไปจนถึงจุดที่เกิดเหตุการณ์ มีข้อมูลอะไรบ้าง พร้อมทั้งตรวจสอบว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใด และจุดที่เมียนมายิงเข้ามาเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งปัจจุบันทีบีซี ได้ทำหนังสือประท้วงไปยังเมียนมาที่เกาะสอง ฐานกองทัพเรือเมียนมาเรียบร้อยแล้ว

พล.ร.อ.พาสุกรี วิลัยรักษ์ โฆษกกองทัพเรือ (ทร.) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทัพเรือภาคที่ 3 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) ได้รับแจ้งจากเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2567 เวลา 00.45 น. ว่าขณะที่เรือกำลังทำการประมงร่วมกับกลุ่มเรือประมงบริเวณพื้นที่ ด้านทิศตะวันตกของเกาะพยาม จ.ระนอง กลุ่มเรือประมงได้ถูกเรือรบเมียนมาใช้อาวุธ โดยตัวเรือได้รับความเสียหายน้ำเข้าเรือปริมาณมาก และมีผู้บาดเจ็บ 2 คน และเรือรบเมียนมาได้เข้าจับกุมเรือประมงไทย 1 ลำ คือ เรือ ส.เจริญชัย 8 โดยมีลูกเรือ 31 คน ถูกจับกุมไปยังเกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา ซึ่ง พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.274 ให้การช่วยเหลือเรือประมงที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงเข้าค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือประมงดวงทวีผล 333 ที่ได้รับบาดเจ็บและพลัดตกน้ำ ซึ่งผลการค้นหาพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำขณะโดดน้ำหนี และผู้รับบาดเจ็บ 2 รายคือ นายศรีเพ็ชร บุตรทัด อายุ 44 ปี ทำหน้าที่ไต๋เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และลูกเรือชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแสไฟฟ้าชอร์ตตามร่างกาย

 “โดยสรุปได้ช่วยเหลือเรือประมงทั้งหมดจำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือดวงทวีผล 333 มีลูกเรือ 29 คน ซึ่งเสียชีวิต 1 คน และเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีลูกเรือ 33 คน และบาดเจ็บ 2 คน” โฆษก ทร.กล่าว และว่า ขั้นตอนต่อไปคือการประสานงานตามกลไกของคณะกรรมการในการเจรจานำเรือและลูกเรือประมงกลับสู่ประเทศไทย โดยจากประสานงานพบว่าเมียนมาได้จับกุมเรือประมงไทย 1 ลำ โดยกล่าวอ้างว่ามีกลุ่มเรือประมง จำนวนประมาณ 15 ลำเข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำเมียนมา และจากการตรวจสอบพบว่าเรือประมงทั้ง 15 ลำเป็นเรือจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่เข้ามาหากินทำการประมงในเขตน่านน้ำ จ.ระนอง ซึ่งอาจไม่ชำนาญพื้นที่บริเวณดังกล่าว

โฆษก ทร.กล่าวต่อไปว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ยังจัดกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ และยืนยันการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทยเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ชาวประมงที่ทำกินโดยสุจริต โดยได้เพิ่มเติมกำลังโดย จัดเรือ ต.993 ออกเรือลาดตระเวนในพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยในเขตน่านน้ำไทย กับให้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ 451 ทำการตรวจการณ์

ขณะเดียวกัน พล.ร.ท.สุวัจ พร้อมคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมบำรุงขวัญและให้กำลังใจนายศรีเพ็ชร ไต้ก๋งเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ที่ได้รับบาดเจ็บ และได้เยี่ยมปลอบขวัญ พูดคุยพร้อมทั้งให้กำลังใจนางปริญภมร ธัญชร อายุ 57 ปี ภรรยาไต้ก๋งเรือ ส.เจริญชัย ที่ถูกเรือรบเมียนมาจับกุมไปพร้อมลูกเรือจำนวน 31 คน ต่อจากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวนายวรากร จูศิริพงษ์กุล อายุ 24 ปี ลูกเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ซึ่งเสียชีวิตจากการจมน้ำ

ส่วน พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา จังหวัดระนอง ได้ทำหนังสือวิทยุในราชการทหารถึงประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา-ไทย จังหวัดเกาะสอง ถึงเหตุดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นการละเมิดอธิบไตยของฝ่ายไทยอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลงในเรื่องการปฏิบัติในพื้นที่ทับซ้อนของทั้งสองฝ่าย โดยเรียกร้องให้ปล่อยตัวลูกเรือสัญชาติไทยทั้ง 4 คน พร้อมเรือประมงดังกล่าวคือ เรือดวงทวีผล 333 และเรือ ส.เจริญชัย 8 กลับประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ เพื่อความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างสองประเทศสืบไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี