เชียงใหม่พบโพยแจกเงิน 60วันชงศาลฟันหมอเกศ

กกต.ตีปี๊บชวนคนออกมาใช้สิทธิเลือกนายกเล็ก เชียงใหม่ฉาว ผู้สมัครพบหอบโพยปริศนาร้องเรียน “อิทธิพร” เผยใช้เวลา 60  วันฟ้อง “หมอเกศ” ด้าน “อนุทิน” โยนถามอธิบดี  ปค. ปมเอกสารไม่ให้ความร่วมมือ “ดีเอสไอ” คดีฮั้ว สว. ลั่น มท.ไม่กลั่นแกล้งใคร ผู้สมัคร สว.โอดถูกข่มขู่

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายอิทธิพร บุญประคอง  ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงคำร้องทุจริตเกี่ยวกับการเลือกตั้งระดับเทศบาล  อย่างกรณีที่ จ.เชียงใหม่ ได้มีการพบสมุดจดโพยแจกเงินว่า ทางสำนักงาน กกต.เชียงใหม่ได้รับเรื่องนี้เป็นความปรากฏแล้ว เมื่อเป็นความปรากฏแล้วเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวนต่อไป ส่วนจังหวัดอื่นๆ เท่าที่ทราบ เราไม่ได้แยกจังหวัด แต่จำนวนคำร้องขณะนี้มี 182 เรื่อง เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 64  คำร้องในกรณีการเลือกตั้งเทศบาลมี 1,742 เรื่อง ขณะนี้มี 182 ถือว่าตอนนี้น้อยลง เพราะตัวเลขต่างกันเยอะ

ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 จ.นครศรีธรรมราช กรณีผู้สมัคร สส.ที่แพ้ระบุว่ามีหลักฐานชัดเจนที่จะยื่นต่อ กกต.ว่า ขณะนี้ทราบว่ามีแต่ข่าว ยังไม่มีคำร้อง ซึ่งการไม่มีคำร้องก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี อาจจะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะยื่นคำร้อง ส่วนการประกาศผลต้องดูมาตรา 127 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยเลือกตั้ง สส. เมื่อ กกต.ได้ตรวจสอบเบื้องต้น และมีเหตุอันควรเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ก็สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่ช้ากว่า 60 วัน

ที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดเชียงใหม่  นายธีรวุฒิ แก้วฟอง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ของพรรคประชาชน ได้หอบหลักฐานเป็นสมุดบันทึกต้องสงสัยยื่นร้องเรียนต่อ กกต.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ โดยเชื่อว่าสมุดดังกล่าวเป็นของพรรคคู่แข่ง ซึ่งในวงการเรียกกันว่า ทำเส้น หรือการจดชื่อไว้เพื่อซื้อเสียง เกรงว่าจะเกิดการทุจริตการเลือกตั้ง

โดยนายธีรวุฒิกล่าวว่า สมุดเล่มดังกล่าวถูกพบภายในศาลาวัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) แขวงศรีวิชัย พรรคเดียวกัน พบขณะลงพื้นที่หาเสียงเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นบัญชีรายชื่อบุคคลและมียอดเงินที่ระบุค่าใช้จ่ายหัวละ 200 บาทอย่างชัดเจน และยังปรากฏตารางบัญชีรายชื่อ พร้อมที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งในแวดวงการเมืองจะเรียกกันว่า ทำเส้น หรือการจดชื่อเพื่อเตรียมซื้อเสียง ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าอาจเชื่อมโยงกับพฤติกรรมซื้อเสียง จึงนำส่ง กกต.จังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว

เขากล่าวว่า ยังได้รับเบาะแสจากทั้งผู้สมัคร สท.และประชาชนในพื้นที่ ว่ามีบุคคลบางกลุ่มมาขอข้อมูลรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมระบุว่า มีค่าตอบแทนระหว่าง 1,000-2,000 บาทต่อราย

วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี รวมถึงบรรยากาศหาเสียงในหลายจังหวัด โดยที่สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมด้วยนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี หรือกิจกรรมบิ๊กเดย์ ในหัวข้อชื่อว่า สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง โผบินด้วยสิทธิ์ เสรีด้วยเสียง เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาลในวันที่ 11 พ.ค.นี้

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า  การจัดกิจกรรมหวังให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งเทศบาลที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้   พร้อมกระตุ้นให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สร้างการรับรู้ลดจำนวนบัตรเสีย และเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองในทุกภาคส่วน

ด้านนายศุภมิตรกล่าวว่า ถ้าการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีคนออกมาใช้สิทธิ์แค่ 40% ก็ล้มเหลว เพราะไม่รักษาสิทธิ์ พอมีปัญหาก็ออกมาเดินขบวนร้องเรียน แต่เวลาเลือกตั้งไม่ออกมา ต้องกลับไปถามประชาชนที่มีปัญหาว่าทำไมตอนเลือกตั้งไม่ออกมา

คดีฮั้ว สว.คืบหน้าเรื่อยๆ

ที่ศาลาผูกเสี่ยว บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ให้มากที่สุด

ที่วัดจอมศรี ชุมชนสีฐาน เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ลงพื้นที่หาเสียงช่วย น.ส.เบญจมาภรณ์ ศรีละบุตร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีขอนแก่น โดยนายณัฐพงษ์ปราศรัยว่า พรรคประชาชนได้ส่งผู้สมัครนายกฯ และสมาชิกสภาฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทั่วทั้งประเทศ รวม 97 คนหรือ 97 เทศบาล ทุกพื้นที่พรรคมีความคาดหวังทั้งหมด ซึ่งสนามเลือกตั้งเทศบาลนครขอนแก่น เป็นการเลือกตั้งที่พรรคมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เนื่องจาก สส.เขต และ สจ.เขต เป็นผู้แทนของพรรคประชาชนทั้งสิ้น

หัวหน้าพรรคประชาชนยังกล่าวด้วยว่า การที่ศาลฎีกาได้มีมติไต่สวนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในขณะเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่หลายคนระบุว่าเป็นการป่วยทิพย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะหลายคนติดตามในเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งพรรคจะมีการตั้งคณะทำงานทั้งในส่วนของ สส. คณะกรรมาธิการ และคณะทำงานของพรรค ติดตามในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดด้วย มั่นใจว่าศาลจะดำเนินการตามไต่สวนตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด

ขณะที่ จ.ตราด บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาในจังหวัดตราด 14 แห่ง เลือกนายกฯ และ 15 เทศบาลเลือกสมาชิก เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกฯ 3 คน ประกอบด้วย นายพรชัย สุทธิวารี จากกลุ่มพลังหนุ่ม เดินพบประชาชนทั้งในชุมชน 6-7 ชุมชน และประชาชนในตลาดสดเทศบาล ส่วนนายสุรศักดิ์ ภูติภัทร ผู้สมัครนายกฯ กลุ่มตราดสร้างสรรค์ นำทีมบริการและสมาชิก 3 เขตลงหาเสียงทุกวันตั้งแต่เช้าถึงค่ำทุกวัน ด้านนายเมืองการ การเมือง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ค่อยได้รับการเรียกขานเท่าใด เดินหาเสียงกับภรรยา 2 คน โดยการขี่ซาเล้งติดป้ายหาเสียง

วันเดียวกันนี้ มีความคืบหน้ากรณี กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ส่งศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิสมัครเลือกตั้ง สิทธิการเลือกตั้ง และให้ดำเนินคดีอาญาต่อ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ถูกร้อง ด้วยสาเหตุว่า เชื่อว่ามีการกระทำเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการเลือก สว.มาตรา 77 (4) คือการหลอกลวงหรือการจูงใจให้ผู้อื่นเชื่อว่าเชื่อในคุณสมบัติความรู้ความเชี่ยวชาญชื่อเสียงเกียรติยศ โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยว่า หลังจากที่มีมติในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทำคำวินิจฉัย ซึ่งมีทั้งหมด 6 ประเด็น อาจต้องใช้ระยะเวลา โดยกำหนดกรอบการทำคำวินิจฉัย 60 วัน เชื่อว่าไม่น่าจะเกินนี้ โดยชี้แจงเหตุผลการทำคำวินิจฉัยเพื่อใช้ประกอบการยื่นคำร้องต่อศาล เมื่อยื่นไปแล้วศาลจะใช้เวลาพิจารณาตามกระบวนการของศาล

นายอิทธิพรยังกล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เริ่มจำลองเหตุการณ์เพื่อประกอบสำนวนคดีฮั้วเลือก สว.ว่า ตามกระบวนการการให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ต่างมีคณะทำงานสืบสวนของแต่ละหน่วยงาน โดยคณะทำงานสอบสวนใน กกต.มีโครงสร้างที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมด้วย โดยการบูรณาการงานร่วมกันจะเป็นประโยชน์ในการสอบสวนของ กกต. จะมุ่งเน้นในประเด็นที่ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.หรือไม่ ส่วนการสอบของดีเอสไอ เป็นการสอบสวนว่ามีการกระทำผิดกฎหมายอื่นที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ กกต.หรือไม่

โต้ห้ามให้ความร่วมมือดีเอสไอ

ประธาน กกต.ระบุว่า การดำเนินการสอบสวนของ กกต. มีความคืบหน้าเรื่อยๆ คณะเจ้าหน้าที่สืบสวนไต่สวนจะมีกรอบเวลาดำเนินการ และเหตุที่ต้องใช้เวลา เป็นเพราะว่าต้องสอบพยานจำนวนมาก การที่มองว่าสมคบกันร่วมมือกันเป็นกลุ่ม ในการสอบนั้นจะต้องสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน เรื่องนี้เป็นการดำเนินคดีความยุติธรรมที่มีโทษทางอาญา จะด่วนสรุปโดยปราศจากพยานหลักฐานที่ชัดเจนไม่ได้ ทำให้ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่มีความคืบหน้าไปตามลำดับ และไม่สามารถแทรกแซงได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่หากท้ายที่สุดในการดำเนินคดีอาจทำให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ นายอิทธิพรระบุว่า พยายามจัดกระบวนการเลือกอย่างเต็มที่ตามกฎหมาย และถกในที่ประชุมเยอะมาก และต้องตัดสินใจดำเนินการ และวิธีการนั้นเป็นวิธีการที่ กกต.เห็นว่าเป็นไปตามกฎหมายแล้ว หากหลังจากนั้น หากมีจุดใดที่ขั้นตอนกลไกอื่นเห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็เป็นเรื่องของกระบวนการนั้น

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ชี้แจงกรณีที่มีเอกสารคำสั่งจากอธิบดีกรมการปกครอง ส่งถึงปลัดจังหวัดทุกจังหวัด ในลักษณะที่ว่า ถ้าดีเอสไอมาสอบเรื่องคดีฮั้ว สว.ในพื้นที่ ไม่ต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งเอกสารออกก่อนช่วงสงกรานต์ว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ให้ไปถามอธิบดีกรมการปกครอง แต่ตนมั่นใจว่าไม่มีเรื่องที่จะไม่ให้ความร่วมมือ มันเป็นไปไม่ได้ การดำเนินการใดก็ตามที่ถูกต้องตามกฎหมาย ประชาชนและหน่วยงานราชการก็ต้องให้ความร่วมมือ แต่ต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส รักษาประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่ใช่มีเจตนารมณ์แฝง กลั่นแกล้ง หรือจงใจให้เกิดความเสียหายกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

ส่วนกรณีอดีตผู้สมัคร สว.ซึ่งเคยเป็นอดีต สส. ร้องเรียนว่าถูกนายอำเภอในพื้นที่บังคับให้เอาข้อมูลที่ไปแจ้งความเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. และแฉอีกว่าเป็นคำสั่งนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง   นายอนุทินกล่าวว่า พูดแบบนี้ใครก็พูดได้ แต่รับรองว่ากระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบายที่จะให้นายอำเภอหรือข้าราชการคนไหนไปทำอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจหน้าที่ทางราชการ ไม่มีเด็ดขาด

ที่ดีเอสไอ อดีตผู้สมัคร สว.เดินทางมายื่นเรื่องร้องขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ หลังถูกข่มขู่คุกคาม โดยนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. กล่าวว่า ทราบมาว่ามีพยานหลายคนในคดีนี้ถูกข่มขู่ให้ไปแจ้งความกลับดีเอสไอว่าถูกบังคับมาให้ปากคำ จนพยานต้องไปแจ้งความกลับหลายคน เนื่องจากเกิดความหวาดกลัว อีกทั้งยังมีการสั่งการให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ไปพูดจาข่มขู่พยานด้วย

ขณะที่อธิบดีดีเอสไอกล่าวถึงการจำลองเหตุการณ์วันเลือกตั้ง สว.ระดับประเทศที่เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า ได้ข้อมูลรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ เพราะนำภาพที่ได้จากการบันทึกภาพเคลื่อนไหวมาวิเคราะห์ว่าบุคคลใดอยู่ในกิจกรรมอะไรบ้าง การเลือก การกาลงคะแนน การแสดงบัตร มีความสอดคล้องกับพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุอย่างไรบ้าง.