กังขาภูมิใจไทย เมินส่งการบ้าน ร่วมแก้ไขรธน.

"กมธ.พัฒนาการเมืองฯ" นัด 3 พรรคส่งการบ้านแก้ รธน. ไร้เงา "ภท." ส่วน "ปชน.-พท."  นำเสนอโมเดล "ส.ส.ร." ภาค ปชช.ค้าน สว.ร่วมคัดกรอง เหตุไม่ได้ยึดโยงประชาชน "จาตุรนต์" ขีดเส้นเคาะไม่เกิน 24 ก.ย. ทันชงสภาปลายสัปดาห์หน้า  "ไอลอว์" ไม่ไว้ใจภูมิใจไทย บี้ส่งสัญญาณให้สภาสูงไฟเขียว "เท้ง" ขู่รายวันรื้อ รธน.ล่ม พร้อมล้มรัฐบาล

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 18 กันยายน ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน  สภาผู้แทนราษฎร วาระหารือแนวทางการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายหลังมีคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม

โดยมีการเชิญ 3 ตัวแทนพรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค ในฐานะกรรมาธิการฯ, พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง นอกจากนั้นยังมีการหารือกับ กมธ.การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา นายประภาส ปิ่นตบแต่ง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และนายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. รวมถึงภาคประชาชน iLaw และ Conforall สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมมีความตึงเครียดน้อยกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากแต่ละภาคส่วนมีแนวทาง แผน และไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนขึ้น 

โดยนายพริษฐ์เปิดเผยว่า ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทยคือนายภราดรแจ้งว่าติดธุระ แต่ได้เตรียมเสนอร่างแก้ไขหมวด 15 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งได้อธิบายโมเดลคร่าวๆ ให้ตนฟังแล้ว ทั้งนี้ตนขอเสนอกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยออกแบบกลไกให้ประชาชนยังคงมีส่วนร่วม เป็นโมเดล 2 คณะ ประกอบด้วย 1.กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือคณะผู้ร่าง ซึ่งมีหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสนอต่อรัฐสภา มีที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน 70 คน โดยผู้สมัครเข้ามาเป็นทีม เรียงลำดับเหมือน สส.บัญชีรายชื่อ ประชาชนสามารถเลือกได้ 1 ทีม จากนั้นนำรายชื่อส่งให้รัฐสภาคัดเลือกให้เหลือ 35 คน โดยรัฐสภาแบ่งสัดส่วนตาม สส. สว. และพรรคการเมือง 2.สภาที่ปรึกษา หรือคณะผู้แทนประชาชน มีหน้าที่เป็นเจ้าภาพรวบรวมและสะท้อนความเห็นจากประชาชน เพื่อเสนอต่อคณะผู้ยกร่าง และรายงานความคืบหน้าต่อประชาชน โดยมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง จำนวน 100 คน ผู้สมัครตัวแทนจังหวัดอย่างน้อย 1 คน มากสุดไม่เกิน 5 คน

ทั้งนี้ กระบวนการเลือกทั้ง 2 คณะ จะเข้าคูหาเลือกตั้งวันเดียวกัน มีบัตร 2 ใบ คล้ายกับการเลือก สส.แบบแบ่งเขต และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งอาจเพิ่มกลไกว่าหากรัฐสภาไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อาจร้องขอให้เริ่มกระบวนการให้ทั้งหมด ตั้งแต่การเข้าคูหาเพื่อเลือกทั้ง 2 คณะได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และหลังจากการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายในวันนี้แล้ว จะยกร่างเสนอต่อรัฐสภาได้โดยเร็ว

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ที่คิดได้ตอนนี้คือ ส.ส.ร.ทั้งหมดประมาณ 140 คน 200 คนมาจากการที่ประชาชนในแต่ละจังหวัดเลือกตั้งกันมาให้ได้ แล้วรัฐสภามาคัดให้เหลือ 100 คน โดยการคัด 100 คนนั้น แต่ละจังหวัดจะต้องมีตัวแทนอย่างน้อย 1 คน ส่วนอีก 40 คน มาจากภาควิชาการ ทั้งคณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตัวแทนองค์กรภาคประชาชน ตัวแทนวิชาชีพ ซึ่งต้องหาวิธีให้ได้มาซึ่งตัวแทนเหล่านี้ โดยที่คงจะต้องหลีกเลี่ยงการให้เลือกไขว้กัน เป็นต้น เมื่อได้ 140 คนแล้ว ไปเลือกคณะกรรมาธิการยกร่างกันเอง จากนั้นเข้าสู่ ส.ส.ร. ซึ่ง ส.ส.ร.จะไปรับฟังความเห็น เสร็จแล้วส่งมาให้รัฐสภาพิจารณา และอาจจะมีการให้รัฐสภาให้ความเห็นรอบหนึ่ง เพื่อให้ สส.กลับไปพิจารณาทบทวน ซึ่งวันที่ 19 ก.ย. จะพิจารณากันอีกครั้ง อย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 23-24 ก.ย. ต้องได้ข้อยุติเพื่อให้เสนอปลายสัปดาห์หน้า

ตัวแทน iLaw กล่าวว่า มีข้อสังเกตว่า การเลือก ส.ส.ร.ทางอ้อม โดยการเลือก ส.ส.ร. แล้วมาคัดเลือกอีกครั้งหนึ่งเป็นทางเลือกที่ดี และเป็นทางที่จะไปได้ ส่วนโมเดลที่เสนอให้รัฐสภาเป็นผู้คัดเลือก  ส.ส.ร.นั้น ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้ สว.มีอำนาจในการคัดเลือก ส.ส.ร.เท่ากับ สส.

ตัวแทนสำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาฯ เห็นว่า หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แต่ละพรรคที่เสนอมายังไม่สะเด็ดน้ำนั้น ทางออกที่หนึ่ง อาจจะต้องทำโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้มาตรา 9 (2) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพราะว่าถ้ารอให้สภาสะเด็ดน้ำ วาระ 2-3 อาจจะไม่เกิดขึ้น ทำให้การถามคำถาม 1 อาจจะล่วงพ้นเวลาที่เหมาะสมไป ส่วนอีกแนวทาง ส.ส.ร.ของพรรคประชาชนที่แบ่งเป็น 35 คน และ 70 คนนั้น ในส่วนของ 70 คน อาจถูกตีความว่าเป็นการเลือกโดยตรงจากประชาชนก็เป็นไปได้

ผู้แทน กกต.กล่าวว่า พร้อมกำหนดกติกาเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์รัฐสภา และหากต้องจัดในวันเลือกตั้ง สส. ได้มีการยกร่างออกแบบกระบวนการว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้เป็นภาระของประชาชน เช่น กระบวนการลงคะแนน จะเชื่อมต่อกับการทำประชามติในหน่วยเดียวกัน ทุกอย่างจะจบในหน่วยเดียวกัน

 “ถ้ามีคนมาขวางอีกว่าเอาอะไรมายืนยัน ยังไม่มีบัญญัติตรงไหนอยู่ในรัฐธรรมนูญว่า วันหนึ่ง ครม.จะให้มีการทำประชามติ ว่ามีการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และประชาชนให้ความเห็นชอบ เป็นอันว่าการทำรัฐธรรมนูญใหม่เกิดขึ้นได้หรือไม่ มันไม่มีเขตตรงนั้น ผมไม่รู้ว่าคิดมากไปหรือเปล่า แต่เราไม่คิดทีไรก็จะมักจะเกิดเรื่องที่ทำให้คิดมากกว่านั้น เช่น คำวินิจฉัยที่ทำให้เกินมา” นายจาตุรนต์ระบุ

ทำให้ตัวแทนสำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ระบุว่า กรณีหากให้ ครม.มีมติเรื่องการทําประชามติ สามารถให้นายกรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีการออกเสียงตามวันที่กำหนดได้ ซึ่งตามที่ได้หารือ กกต. เรื่องระยะเวลาคาดว่าเป็น 90 วัน ไม่เกิน 120 วัน แต่ถ้า พ.ร.บ.ฉบับใหม่ลงมา ก็คือ 60 วัน หรือ 150 วัน ซึ่งสามารถกําหนดวันออกเสียงวันเดียวกับวันเลือกตั้งได้ ย้ำว่าหากมีคนตีความในเรื่องดังกล่าวมิใช่เรื่องที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ให้สัมภาษณ์ว่า มีความกังวลมากถึงความไม่ชัดเจนของ ภท. เมื่อดูจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับย่อ และการที่ ภท.ยังไม่ยืนยันอะไร ส่วนการขอเสียงจาก สว. ที่กฎหมายกำหนดให้เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 แม้ไม่อาจพูดโดยตรงได้ว่าสามารถควบคุม สว.ได้หรือไม่ แต่หวัง ภท.น่าจะส่งสัญญาณถึง สว.ด้วย อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ถือเป็นความล้มเหลวของรัฐบาล

วันเดียวกัน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวถึงข้อกังวลเรื่องเสียง สว. จะไม่พอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คงไปตอบแทน สว.ไม่ได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่าหากเป็นกฎหมายที่ประชาชนได้ประโยชน์ สส.ทุกคนน่าที่จะพร้อมผ่านกฎหมายเพื่อให้ตัวเองไม่เสียคะแนนด้วย อย่างไรก็ตามวิญญูชนและสาธารณชนพอจะรับรู้รับทราบได้อยู่ว่ามีกระบวนการในการขัดขวาง เพื่อทําให้การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตาม MOA หรือไม่ ถ้ามีจริงๆ เราจะใช้กลไกในสภาตรวจสอบรัฐบาลและล้มรัฐบาลได้

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กล่าวว่า ช่วงบ่ายได้นัดวิป สว.มาหารือกันในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ต้องเรียกร้อง สว.ให้ฟังเสียงของประชาชนด้วย เพราะนี่เป็นการเปิดประตูแรกในการรับฟังเสียงประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ หากปิดประตูไปเลยคงตอบคำถามยากว่าคุณไม่แม้แต่จะถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าประชามติแพ้ก็จบ ใช้รัฐธรรมนูญปี 2560.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’

พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์

ยึดเนิน350ได้แล้ว! ร่าง2ทหารกล้ากลับมาตุภูมิ/ส่งสัญญาณเตือนชนชั้นนำเขมร

ข่าวดี! ทหารไทยควบคุมเนิน 350 ได้แล้ว อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคง นำร่าง 2 วีรบุรุษกลับมาตุภูมิ ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ ตรวจพบการปะทะเป็นระยะ