ถวายสัตย์ฯ24ก.ย. ‘อนุทิน’นำทีมครม.เข้าเฝ้าฯ/ฝ่ายค้านขึงขังคุ้ย‘รมต.สีเทา’

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "ครม.อนุทิน"  36 คน 40 ตำแหน่ง ตามโผ "โสภณ-ธรรมนัส"  รองนายกฯ "วรภัค" รมช.คลัง พร้อม รมต.สำนักนายกฯ 4 คน เผย "นายกฯ" เตรียมนำ ครม.ใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ 24 ก.ย.นี้ ก่อนออกมาประชุม ครม.นัดพิเศษทันที ยังไม่ชัดวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาคาด 29-30 ก.ย. "โฆษก ภท." ชี้ไม่น่าทัน 25 ก.ย. เหตุบรรจุวาระต้องแจ้งล่วงหน้า 5 วัน "อนุทิน" โชว์ภาพนั่งทานอาหารร่วมกับ "อภิสิทธิ์" บอกคุยหลายเรื่อง ยกคำแนะนำมีคุณค่า ลั่นร่างนโยบายรัฐบาลพร้อมแล้ว 99% "พท.-ปชน." เริ่มทำหน้าที่ฝ่ายค้าน "ภูมิธรรม" โยนถามพรรคเด็กเห็นโฉมหน้า ครม.คิดอย่างไร แซะล้วนบุรีรัมย์โมเดลทั้งหมด "จิรายุ" บี้ สลค.เปิดเอกสารกรอกประวัติ รมต.ตรวจสอบ "พริษฐ์” วาง 4 ประเด็นชำแหละในเวทีสภา

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2568 แล้วนั้น

บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม,   นายโสภณ ซารัมย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายภราดร ปริศนานันทกุล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสันติ ปิยะทัต เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายวรภัค ธันยาวงษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,  นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายไชยชนก ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกตำแหน่งหนึ่ง, นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นางสาวศศิธร กิตติธรกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลตำรวจตรีรุทธพล เนาวรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นางสาวตรีนุช เทียนทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน,  นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,  นายองอาจ วงษ์ประยูร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ  นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี

ครม.หนูเข้าถวายสัตย์ 24 ก.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศโปรดเกล้าฯ ครม.อนุทินครั้งนี้ จะมีรายชื่อรัฐมนตรี 36 คน 40 ตำแหน่ง หากรวม ครม.อนุทินทั้งหมดจะมีรัฐมนตรีทั้งสิ้น 36 คน 41 ตำแหน่ง ซึ่งรวมตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอนุทิน ที่ได้โปรดเกล้าฯ ไปก่อนหน้านี้ด้วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมสถานที่ โดยนำป้ายที่จอดรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายกฯ และรองนายกฯ รวม 6 คน และตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ มาติดตั้งประจำที่โรงจอดรถด้านข้างตึกบัญชาการ 2 ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้เข้าสำรวจห้องทำงานของรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ตึกบัญชาการ ขณะตั้งแต่ช่วงเช้าแม่บ้านได้ทำความสะอาดขัดล้างบันไดด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าด้วย

นอกจากนี้ ช่วงเช้ามีคณะทำงานของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เข้ามาดูห้องทำงานที่ตึกบัญชาการ 1 จากนั้นในช่วงบ่ายคณะทำงานของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง เข้ามาดูห้องทำงานเช่นกัน ส่วนนายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั่งทำงานชั้น 4 รวมทั้งเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะทำงานของนายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำซินแสมาดูห้องทำงานในตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เตรียมห้องทำงานไว้สำหรับรองนายกฯ บนตึกบัญชาการ 1 โดยชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานที่ใหญ่และกว้างสุด เป็นห้องทำงานของนายพิพัฒน์ และนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ ชั้น 3 เป็นห้องทำงานของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ และนายเอกนิติ ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ห้องทำงานอยู่ชั้น 2 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ห้องทำงานอยู่ชั้น 1

สำหรับห้องของ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นั้น ได้จัดชั้น 2 ไว้เป็นห้องทำงานนายภราดร ปริศนานันทกุล น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี และนายนภินทร ศรีสรรพางค์

มีรายงานข่าวจากทำเนียบฯ แจ้งว่า นายอนุทินจะนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนที่พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลา 18.00 น. วันที่ 24 ก.ย.นี้ โดยมีการนัด ครม.ทั้งหมดที่ทำเนียบฯ เวลา 14.00 น. เพื่อถ่ายรูปเดี่ยวสำหรับติดบัตร ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี และตรวจ ATK ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี จากนั้นเวลา 15.30 น. ถ่ายภาพหมู่ภายในตึกสันติไมตรี และเวลา 16.00 น. ออกเดินทางจากตึกสันติไมตรีไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน

ภายหลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ จะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ จากนั้นนายกฯ จะนํา ครม.ทั้งหมดแถลงที่ตึกภักดีบดินทร์ และจะมีการแถลงนโยบายของ ครม.ต่อรัฐสภา วันที่ 25 ก.ย.2568

อย่างไรก็ตาม น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปฏิเสธข่าวรัฐบาลจะเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 25 ก.ย.ว่า เนื่องจากตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภากำหนดว่า การบรรจุวาระจะต้องแจ้งล่วงหน้า 5 วัน หากนับจากวันที่ 24 ก.ย. คาดว่าจะแถลงนโยบายได้วันที่ 29-30 ก.ย.หรือ 30 ก.ย.-1 ต.ค. โดยวิป 3 ฝ่ายจะมีการหารือวันที่ 25-26 ก.ย.นี้ ซึ่งจะได้ข้อสรุปว่าจะแถลงนโยบายรัฐบาลวันใด

พร้อมแถลงนโยบายรัฐสภา

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า ต้องรอรัฐบาลแจ้งมาที่สภาพร้อมจะแถลงนโยบายช่วงไหน จากนั้นวิป 3 ฝ่ายจะประชุมเพื่อกำหนดวันและเวลา ซึ่งตนติดตามอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาล การแถลงนโยบายจะต้องดำเนินการหลังจากที่นายกรัฐมนตรีนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ

ถามถึงกระแสข่าวจะมีการแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 25-26 ก.ย.นี้ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ยังต้องรอรัฐบาลพร้อม ซึ่งมีกรอบระยะเวลาอยู่แล้วว่าหลังถวายสัตย์ปฏิญาณฯ จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไม่เกิน 15 วัน แต่ยืนยันว่าทางสภาจะรีบดำเนินการให้โดยเร็ว

ขณะที่นายอนุทินได้โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ”

ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกหลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีของนายอนุทินเมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน พร้อมกระแสข่าวเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารร่วมกับนายอภิสิทธิ์ว่า มีการพูดคุยกันในหลายเรื่อง และในความเป็นจริงรู้จักกันมานานแล้ว จึงมีการหารือกันในหลายเรื่อง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็ได้แสดงความยินดีและได้ให้กำลังใจ

ถามว่าจะมีการร่วมมือกันทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คนเจอกัน พรรคพวกเจอกันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องการเมืองทุกเรื่อง เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ได้แนะนำการบริหารงานในช่วงระยะเวลาอันสั้นอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า คุยกันในทุกเรื่อง ซึ่งทุกเรื่องที่นายอภิสิทธิ์ได้ให้คำแนะนำมาก็เป็นเรื่องที่มีคุณค่า

นายกฯ กล่าวถึงการเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า เตรียมพร้อมแล้ว ร่างนโยบาย เตรียมมา 99% แล้ว แต่ช่วงนี้ที่เราเดินสายพบภาคเอกชน ผู้ประกอบการ หอการค้า สัปดาห์หน้าจะพบกับตลาดทุน สมาคมธนาคาร ก่อนที่เราจะเข้าไปรับหน้าที่อย่างเป็นทางการ อะไรที่เห็นควรจะเพิ่มเข้าไปในร่างนโยบายเราก็จะเพิ่มเข้าไป แต่โดยหลักได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว

ถามว่าได้กำหนดตุ๊กตาคร่าวๆ ไว้บ้างหรือไม่ว่าจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันไหน นายกฯ กล่าวว่า พอเข้ารับตำแหน่ง เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ เรียบร้อย อยู่กับประธานรัฐสภาจะนัดให้มีการแถลงและอภิปรายประมาณ 2 วัน

ซักว่าพรรคประชาชน (ปชน.) ได้ล็อกเป้าไว้ว่าบางคนที่มีคดีค้างใน ป.ป.ช.จะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ต้องมาพิสูจน์กัน แต่ก่อนที่จะนำรายชื่อทั้งหลายทูลเกล้าฯ ถวายมีพระบรมราชโองการก็มีการตรวจสอบทุกขั้นตอน ซึ่งไม่เคยมีการตรวจสอบในระดับนี้มาก่อน

"เราใช้หน่วยงานที่ตรวจสอบทั้งหมดก่อนที่จะเสนอชื่อก็มีการประชุมร่วมกัน ที่ผู้สื่อข่าวขนาดแอบเข้าใต้ตึกก็ยังเห็น เราทำทุกวิถีทาง ในขณะที่ยื่นเรื่องขึ้นไป ทุกหน่วยงานก็ไม่มีประเด็นอะไรที่เป็นปัญหา" นายกฯ ระบุ

พท.-ปชน.เริ่มหน้าที่ฝ่ายค้าน

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรค พท. กล่าวถึงโฉมหน้า ครม.อนุทินว่า น่าจะต้องไปถามพรรคเด็กเป็นหลัก พรรคที่เขาสนับสนุนส่งเสริมขึ้นมาว่าคิดอย่างไร ที่ไปส่งเสริมสนับสนุนจนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพรรคอะไร และสนับสนุนเขาขึ้นมา ถามว่าวันนี้เขาพอใจไหมเห็นมีคนที่ ป.ป.ช.ติดขัดอยู่ก็ยังมี ที่มีความเกี่ยวข้องกับหุ้นหรือบริษัทอะไรก็ไปดูเอา ดังนั้นต้องไปถามพรรคน้องๆ

ถามถึง รมว.ยุติธรรม ที่ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า มันก็บุรีรัมย์โมเดลทั้งหมดอยู่แล้ว ก็ไปดูรายชื่อแต่ละคนว่ามีที่มาจากไหน ใครเป็นใคร ตนขอไม่วิจารณ์ แค่นี้ละกัน

ส่วนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกพรรค พท. กล่าวว่า รัฐมนตรีของรัฐบาลนายอนุทินหลายคนมีพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าทุจริต ในอดีตมีเรื่องร้องเรียน มีคดีในองค์กรอิสระจำนวนมาก บางคนถูกชี้มูลความผิดโดย ป.ป.ช. บางคนเป็นอดีตข้าราชการเก่าที่มีคดีความ ทั้งส่วนของดีเอสไอ ของตำรวจ และองค์กรอิสระ รวมทั้งยังพบบางคนมีสำนักข่าวขุดพฤติกรรมว่ามีการเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน มีเงินนอกระบบโอนไปสู่บัญชีจำนวนมาก และพบเส้นทางการเงินโอนต่อไปดูแล สส.หลายคน ซึ่งมีพยานหลักฐานครบถ้วน ซึ่งเรื่องนี้พรรค พท.ในฐานะฝ่ายค้าน จะตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างเต็มที่กับรัฐบาลเต้าหู้ยี้อย่างแน่นอน

 “พรรค ปชน.ที่วัยรุ่นคาดหวังไว้จะต้องรับผิดชอบในการโหวต เพราะดูจาก 1 เดือนที่ผ่านมาเริ่มเห็นได้ชัดแล้วว่ามีการดีลปีศาจน้ำเงิน+ส้มกันมาตั้งแต่ต้น MOA ก็แค่พิธีกรรมใช่หรือไม่” นายจิรายุกล่าว

นอกจากนี้ นายจิรายุกล่าวว่า พรรค พท.ในฐานะฝ่ายค้าน ขอให้ สลค.เปิดเผยข้อมูลใบกรอกประวัติการแต่งตั้ง หากเพิกเฉยจะใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ข้อมูลข่าวสารให้ สลค.เปิดเผยเอกสารในการกรอกประวัติเพื่อเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าได้กรอกประวัติครบถ้วน มีรัฐมนตรีกรอกความเท็จไว้กี่ข้อ หากตอบคำถามทั้ง 14 ข้อว่าไม่เคยทุกข้อ เหมือนกับการเสนอชื่อข้าราชการการเมือง ซึ่งการเป็นรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติ และซื่อสัตย์ มีจริยธรรมเป็นที่ประจักษ์ มากกว่าข้าราชการการเมืองทั่วไป ก็จะนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลความจริง เช่น เคยมีเรื่องร้องเรียน มีคดีความหรือคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการ ก็จะเห็นได้ทันทีว่ารัฐมนตรีคนไหนโกหก กรอกข้อมูลอันเป็นเท็จไว้บ้าง ก็จะดำเนินการเพื่อถอดถอนและเอาผิดต่อไป

ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ปชน. กล่าวว่า พรรค ปชน.จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ซึ่งเวทีแรกในการตรวจสอบรัฐบาลเฉพาะกิจชุดนี้ คือเวทีการอภิปรายเรื่องคำแถลงนโยบาย โดยพรรคมีการตั้งทีมและเตรียมผู้อภิปรายในระดับหนึ่งแล้ว แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่ 1.การตรวจสอบและติดตามการรักษาสัญญาตามเงื่อนไข MOA 2.เดินหน้าตรวจสอบประเด็นที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับทั้งกรณีฮั้ว สว.และที่ดินเขากระโดง 3.ตรวจสอบนโยบายเฉพาะหน้าที่คิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะผลักดัน 4.ตรวจสอบความเหมาะสมของรายชื่อ ครม.ที่ประกาศมา

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรค ปชน. กล่าวถึง ครม.ชุมใหม่ว่า ตนจะสอบไปยัง ป.ป.ช. คดีของรัฐมนตรีคนนี้อยู่ในขั้นตอนไหน เท่าที่ตนทราบคดีความอยู่ในขั้นที่ ป.ป.ช.จะต้องเป็นผู้ตอบแล้ว ซึ่งหากตนได้เอกสารที่เกี่ยวข้องมาทั้งหมดจะนำออกมาเปิดเผยแน่นอน ขอให้รอดูวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

"เวทีนี้อาจไม่ใช่การชำแหละนโยบายเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่จะเน้นพูดถึงนโยบายต่างๆ ของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมากกว่า" สส.พรรค ปชน.รายนี้ระบุ

วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเปิดเอกสารกรรมการตรวจสอบที่ดินเขากระโดงไม่มีการให้เพิกถอนที่ดินเขากระโดง ต.อิสาณ และ ต.เสม็ด อ.บุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 วรรค 8 ว่า ตนยังไม่เห็นเอกสารที่มีการเปิดเผยออกมา แต่นายเดชอิศม์ ขาวทอง  อดีต รมช.มหาดไทย ได้จับให้มีผู้ว่าฯ การรถไฟฯ  อธิบดีกรมที่ดิน และมีเจ้าหน้าที่รังวัดทั้ง 2 ฝ่ายมาเซ็นร่วมกัน ซึ่งเอกสารก็มีอย่างชัดเจน ที่ดินที่มีการยอมรับกันในกระบวนการทำที่ได้รับแจ้งจากกรมที่ดิน คือสิ่งที่ต้องทำก่อน กลับไปดึงเอาคำสั่งที่ยุติเรื่องที่ทำไม่ครบ ยังผิดกฎหมายเอามาแก้ก็แค่นี้

"ถ้าแก้ตรงนั้นเสร็จกรมที่ดินก็สามารถจะประกาศตามกฎหมายได้เลยที่จะยึดที่ดินคืน ดังนั้นต้องรอให้นายอนุทินมาอธิบาย ผมว่าเรื่องนี้กลับไปดูรายละเอียด กลับไปเช็กดู ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ปฏิเสธและโกหกกันไม่ได้ แต่สำหรับคนที่ชอบพลิกลิ้นก็อาจจะทำได้ ไปดูรายละเอียดกัน ผมว่าผมพูดเรื่องเขากระโดงมานานแล้ว ก็รอดูข้อเท็จจริงตอนที่มันเป็นเรื่องที่เปิดเผยก็แล้วกัน”  นายภูมิธรรมกล่าว.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม